อากงจุน เจ้าของพัดลมฮาตาริ บริจาคให้มูลนิธิรามาธิบดี 900 ล้านบาท พร้อมเผยภาพเช็คสั่งจ่าย และรายละเอียดว่า ใน 900 ล้านบาท พัฒนาส่วนไหนบ้าง กับชีวิตที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานรับจ้าง สู่วันนี้ที่เป็นเศรษฐีของไทย
วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เฟซบุ๊ก Ramathibodi School of Nursing, Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital มีรายงานว่า บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด โดย คุณจุน-คุณสุนทรี วนวิทย์ และครอบครัว บริจาคเงิน 900 ล้านบาทแก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ โดยมี ศ. นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย รศ. ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี และ ผศ. นพ.ภาวิทย์ เพียรวิจิตร รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นตัวแทนร่วมรับมอบ
ทั้งนี้ ในจำนวนเงิน 900 ล้านบาท จะแบ่งไปปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- ปรับปรุงอาคารโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี 160 ล้านบาท
- สมทบทุนโครงการศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยา 300 ล้านบาท
- สมทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี เป็นจำนวนเงิน 440 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ @pichai_online มีการโพสต์เช็คการจ่ายเงิน 900 ล้านบาทให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี ของธนาคารยูโอบี ซึ่งเงินดังกล่าวจะเข้าในวันที่ 29 กรกฎาคม 2565
ส่วนชาวเน็ตที่เห็นโพสต์ดังกล่าวต่างร่วมอนุโมทนาบุญกับการบริจาคในครั้งนี้
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @pichai_online
ประวัตินายจุนกับการพาฮาตาริประสบความสำเร็จ
สำหรับประวัติ นายจุน เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม 2480 วัยเด็กไม่ได้เรียนหนังสือในโรงเรียน จึงไม่มีคุณวุฒิทางการศึกษา แต่ด้วยความขยันหมั่นเพียร หาความรู้อยู่ตลอด เป็นผลทำให้มีความแตกฉานหลายเรื่อง จนสามารถพัฒนาต่อยอดและประสบความสำเร็จในชีวิต
ชีวิตในวัยเด็ก เริ่มทำงานเป็นลูกจ้างกวาดพื้นร้านขายข้าวสารส่งออกต่างประเทศที่ถนนสี่พระยา ตั้งแต่อายุ 12 ปี แล้วก็เปลี่ยนอาชีพตามลำดับ ได้แก่ ช่างทำทอง, ขับรถโดยสารรับจ้าง, ลูกจ้างร้านทำป้ายพลาสติก, ลูกจ้างโรงกลึง, ช่างทำแม่พิมพ์สำหรับฉีดชิ้นงานพลาสติก
ด้วยความที่มีการประกอบอาชีพหลากหลาย ทำให้ตอนอายุ 28 ปี (พ.ศ. 2508) จึงสามารถทำโครงพัดลมพลาสติกขึ้นได้ ทั้งที่ยุคนั้นโครงกรอบพัดลมล้วนทำด้วยโลหะอะลูมิเนียม ก่อนที่จะเสนอขายชิ้นงานให้โรงงานผลิตพัดลมจนกลายเป็นการเปลี่ยนยุคเป็นพัดลมโครงพลาสติกเป็นต้นมา
ต่อมา นายจุนเรียนรู้การพันมอเตอร์ที่ไต้หวัน แล้วจึงมาผลิตพัดลมที่ใช้ชิ้นส่วนพลาสติกออกจำหน่ายเป็นของตัวเอง ตอนแรกใช้ยี่ห้อ K และยี่ห้อ TORY กระทั่งอายุ 52 ปี (พ.ศ. 2532) จึงผลิตพัดลมฮาตาริจำหน่ายเป็นครั้งแรก และกิจการก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ขยายกิจการจากพัดลมเป็นเครื่องฟอกอากาศ เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก
ส่วนแนวทางการประกอบธุรกิจ มีอยู่ 2 ประการ คือ
1. ใช้ต้นทุนเท่าเดิม ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
2. ใช้ต้นทุนลดลง ได้ผลผลิตเท่าเดิม
เมื่อประสบความสำเร็จ นายจุนก็ได้ตอบแทนสังคม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสโดยไม่แสดงตัว เช่น การบริจาคทรัพย์ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ สร้างศูนย์วิปัสสนาและมอบเงินอุดหนุนให้ยุวพุทธิกสมาคม สร้างสะพานลอยข้ามถนน บริจาคเงินให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกระดับมูลค่าร่วมร้อยล้านบาท และทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่เสมอ จนเป็นผลให้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นสายสะพายปฐมดิเรกคุณาภรณ์
ส่วนในปี 2555 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงมีมติเอกฉันท์ให้นายจุน ได้รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป เพราะสิ่งที่ได้กระทำมากว่า 50 ปี เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม