ศาลยกฟ้องรื้อถอนบ้านป่าแหว่ง ชี้ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยาน ไม่ได้รุกป่า จึงไม่ผิดกฎหมาย และไม่สามารถเอาผิดกรมธนารักษ์ที่เป็นผู้อนุมัติได้
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวทั้งแปลง อยู่นอกเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยสุเทพ และนอกแนวเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย ส่วนอำนาจในการใช้ประโยชน์เป็นอำนาจของกรมธนารักษ์
ทั้งนี้ แม้ราชพัสดุแปลงพิพาท จะมีสภาพเป็นป่าที่ลาดเชิงเขา บางส่วนเป็นที่สูงชัดในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือ แต่ก็ไม่ได้ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดังนั้นจึงไม่ผิดกฎหมายใด ๆ และพื้นที่ราชพัสดุแปลงพิพาทอยู่ในพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 2 ชั้น 3 และชั้น 4 สำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้รับการยกเว้น ไม่จำเป็นต้องทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รวมถึงไม่ต้องฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสียโครงการ
ด้วยเหตุนี้ เมื่อศาลวินิจฉัยว่า กรมธนารักษ์ อนุญาตให้สำนักงานศาลยุติธรรมใช้พื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ บ้านพักข้าราชการ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ก่อนพิพากษายกฟ้อง
