ย้อนคำพูดพิ้งค์กี้ ปฏิเสธเสียงแข็งคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ย้ำเป็นผู้เสียหาย โดนโกง 10 ล้าน กลายมาเป็นจำเลยได้ยังไง ตำรวจตรวจเจอตรงไหน
ภาพจาก Instagram pinkysavika
เป็นคดีที่กลายเป็นที่สนใจขึ้นมา เมื่อพิ้งค์กี้ สาวิกา และคุณแม่และพี่ชาย ถูกส่งเข้าเรือนจำในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่มีการโกงกันถึงหลัก 2 พันล้าน มีคนเสียหายเกือบ 1 หมื่นราย และไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีใหญ่ มีผู้เสียหายมาก แม้กระทั่งคนในวงการบันเทิงก็โดน ถ้าหากให้ปล่อยตัวชั่วคราว มีโอกาสหลบหนีสูง
อ่านข่าว : ช็อก ! พิ้งค์กี้-แม่ โดนส่งเข้าเรือนจำ ศาลไม่ให้ประกันตัว คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D
วันที่ 19 สิงหาคม 2565 กระปุกดอทคอม จะมาย้อนรอยคำพูดพิ้งค์กี้ก่อนถูกจับกุมตัวกันว่า พูดอะไรเอาไว้บ้าง ซึ่งคำพูดของเธอก็มักจะปฏิเสธเรื่องนี้เสมอ แม้ว่าจะเป็น Brand Ambassador ของบริษัทก็ตาม สวนทางกับรูปของคดีที่เกิดขึ้น
ย้อนคำพูดพิ้งค์กี้ในวันที่สวนทางกับผลการตัดสิน
เดือนมีนาคม 2564
พิ้งค์กี้เข้าพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นกับคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ
- ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม เธอได้ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซ้ำยังเป็นผู้เสียหาย เสียเงินเป็น 10 ล้านจากการที่เอาเงินไปลงทุนกับพี่ชาย ตนไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไร แค่อยากจะได้เงินคืน ส่วนการที่มาพบเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ เพราะมีการรื้อคดีใหม่ทั้งหมด ถ้าหากรื้อคดีใหม่ ก็ต้องเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ใหม่ เป็นเรื่องปกติ
เดือนมิถุนายน 2564
พิ้งค์กี้ ออกรายการแฉทางช่อง GMM25 ยอมรับว่า พิ้งค์กี้โดนโกงไป 10 ล้าน เงินเก็บส่วนตัวที่เก็บมา 3-4 ปีหายหมด พิ้งค์กี้ยอมรับว่าเป็นการลงทุนที่คิดไม่ถี่ถ้วน หน้ามืด คิดไม่ถึง ตอนนี้ต้องเอาตัวรอดหาเงินคืน เช่น การขายของออนไลน์ ถือว่าไม่เป็นไร ล้มแล้วก็เริ่มต้นใหม่ได้ คนเราถ้าจะไปถึงจุดต่ำก็ต้องไปให้ต่ำที่สุด ก่อนที่จะเหวี่ยงขึ้นมา
จุดที่ทำให้โป๊ะแตก เปลี่ยนสถานะพิ้งค์กี้ จากผู้เสียหายในคดี สู่จำเลย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมา พิ้งค์กี้จะยืนยันผ่านทางหน้าสื่อมาตลอดว่าตนเองคือหนึ่งในผู้เสียหาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลับพบ กรรมการของบริษัท RMS familia ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Forex-3D มีชื่อของพี่ชายของพิ้งค์กี้ นายกิตติเชษฐ์ หรือ สรายุทธ ไชยเดช เป็นผู้มีอำนาจในการลงนาม ส่วนคุณแม่พิ้งค์กี้ก็มีภาพปรากฏในงานบริษัท ขณะที่ตัวพิ้งค์กี้ ก็มีเส้นทางการเงินที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทำให้ 3 คนในครอบครัวตกเป็นจำเลย ได้แก่
- จำเลยที่ 1 พี่ชายพิ้งค์กี้ มีชื่อเป็นกรรมการ บริษัท
- จำเลยที่ 2 พิ้งค์กี้ มีเส้นทางทางการเงินชัดเจน
- จำเลยที่ 3 แม่พิ้งค์กี้ มีเส้นทางทางการเงินชัดเจน
เรียกเงินคืนได้แล้ว 570 ล้านจาก 2,000 ล้าน
ขณะที่ เฟซบุ๊ก กระทรวงยุติธรรม Ministry Of Justice, Thailand รายงานว่า ตอนนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไล่ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแล้ว โดยยึดทรัพย์สิน 3 ครั้ง 184 รายการ ได้แก่ ที่ดิน ห้องชุด บัญชีเงินฝาก รถยนต์ และอื่น ๆ รวมมูลค่า 570 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 25 ราย ส่วนอีก 16 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินการผู้กระทำผิด
ภาพจาก Instagram pinkysavika
ภาพจาก Instagram pinkysavika
ภาพจาก Instagram pinkysavika
