สาวสั่งหม้อไฟร้านดัง ต้มกินกับเพื่อนเฮฮา จู่ ๆ เจอหม้อไฟระเบิดใส่หน้า ทำเยื่อบุตาลอก กลายเป็นสะพรึงหนัก ทางร้านตรวจสอบจนเจอต้นตอ ทำทัวร์ลงคนเจ็บรัว ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 21 สิงหาคม 2565 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เกิดเหตุนักศึกษาสาวชาวจีน สั่งหม้อไฟร้านดังผ่านแอปฯ เดลิเวอรี่ให้มาส่ง ก่อนเจอหม้อไฟระเบิดใส่หน้าเข้าเต็ม ๆ เป็นผลให้ทั้งตัวถูกน้ำร้อนและน้ำมันพริกสาดใส่ แถมยังมีเยื่อบุตาลอก แต่หลังจากทางร้านตรวจสอบหาความจริงแล้ว นักศึกษาสาวกลับเป็นฝ่ายที่ถูกสังคมรุมถล่มแทน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา นักศึกษาสาวกับเพื่อน ๆ ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ของจีน ได้สั่งหม้อไฟของร้านไหตี่เลา ผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ให้มาส่ง เพื่อฉลองวันเกิดแก่สาวคนนี้ โดยไม่คิดว่าหลังจากลงมือต้มหม้อไฟไปได้ประมาณ 10 นาที อยู่ ๆ น้ำจากหม้อไฟก็ระเบิด จนน้ำมันพริกกระจายไปทั่วห้อง สาดโดนทั้งหน้า คอ ตา และอีกหลายจุดของสาวเจ้าของวันเกิด ทำให้เธอเจ็บปวดแสบร้อนสุด ๆ
ในตอนนั้นหญิงสาวยังรู้สึกเคืองตามาก จึงรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก่อนจะพบว่ามีเยื่อบุตาลอกออกมา
นักศึกษาสาวชี้ว่า ตอนที่พวกเธอทำอาหารกันก็ใช้หม้อสเตนเลสที่ซื้อมาจากทางร้านในการต้ม ส่วนเชื้อเพลิงต่าง ๆ ก็ถูกรวมมาเป็นชุด แต่ใครจะคิดว่าก่อนน้ำเดือดมันจะระเบิดใส่เช่นนี้
ทั้งนี้ หลังพนักงานของไหตี่เลาเข้าตรวจสอบ พบว่าตอนที่กลุ่มนักศึกษาทำหม้อไฟ ได้มีการใส่เบสของซุปซึ่งมีน้ำมันไปที่ก้นหม้อก่อน จากนั้นจึงเติมน้ำมันโดยไม่มีการคน สุดท้ายจึงเกิดการปะทุและน้ำข้างในระเบิดใส่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้ทำการติดต่อผู้เสียหายและช่วยค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนคืนค่าอาหารให้แล้ว และยินดีจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นความรู้โดยทั่วไปอยู่แล้ว ที่ไม่ควรใส่น้ำลงไปในน้ำมันร้อน ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่น่าจะใช่ปัญหาจากทางร้านเลย ซึ่งก็มีคนเข้ามาท้วงถามว่าทางร้านได้อธิบายขั้นตอนการทำหม้อไฟที่เหมาะสมไว้หรือไม่
แต่ต่อมาก็มีคนนำภาพบรรจุภัณฑ์ของทางร้านมาเผย พบว่าที่ห่อของเบสน้ำซุปมีการเขียนขั้นตอนการทำไว้อย่างละเอียด รวมถึงเน้นคำเตือนด้วยตัวอักษรใหญ่และทำตัวหนาไว้แล้วว่า ให้ใส่น้ำก่อนจึงค่อยใส่เบสน้ำซุปตามไป ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าสาวนักศึกษาไม่ได้อ่านขั้นตอนการทำก่อน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday
