อนุ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบพบ พรีมายา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนขายตรง - 3 ปี มีกำไรรวมกันไม่ถึง 15 ล้านบาท จ่อสอบประเด็นอื่น เส้นทางการเงิน - ยื่นงบเท็จเลี่ยงภาษี
จากกรณีภาพไวรัลสาวลงทุน 6,000 บาท ทำงาน 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท และมีการยืนข้างรถปอร์เช่ 911 ราคาหลักสิบล้าน แต่ต่อมามีการเปิดเผยว่าทางศูนย์ไม่ได้ขายรถคันดังกล่าว ต่อมาทางบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ได้ออกมายืนยันว่าทำงาน 3 เดือน ยอดขาย 15 ล้าน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่การได้มานั้นต้องแลกด้วยการขยัน อดทนและทำงานอย่างหนักในทุกวัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : แบรนด์ดังเคลียร์ดราม่าปอร์เช่ทิพย์ - ยังยืนยัน 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้าน เรื่องจริง !
ภาพจาก ช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่ 1 กันยายน 2565 ช่อง 3 รายงานว่า นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า จากการตรวจสอบผลประกอบการจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ข้อมูลงบการเงินกำไร-ขาดทุนในช่วง 3 ปี คือ 2562-2564 มีกำไรรวมกันไม่ถึง 15 ล้านบาท
ดังนั้นการระบุว่าลงทุน 6,000 บาท ได้กำไร 15 ล้านบาท ในเวลา 3 เดือนนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งมีหน้าที่และภารกิจหลักในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคทางด้านสินค้าและบริการจึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งการโฆษณาเกินจริง, ฉ้อโกง หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้นำเรื่องของบริษัทดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา
ภาพจาก ช่อง 3
โดยมีการเชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของคดีในประเด็นที่หน่วยงานต่าง ๆ มีอำนาจหน้าที่ เช่น การขอให้มีการตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลัง การยื่นงบการเงินอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การโฆษณาเกินจริง
ทั้งนี้ นายจิรวัฒน์ เผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า บริษัท พรีม่า มายา จำกัด ไม่ได้มีการยื่นจดทะเบียนขายตรงตาม พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งถือว่ามีความผิดและมีโทษ ทางคณะอนุกรรมมาธิการฯ จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทำการสืบสวนต่อไป และจะนัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 22 กันยายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
จากกรณีภาพไวรัลสาวลงทุน 6,000 บาท ทำงาน 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท และมีการยืนข้างรถปอร์เช่ 911 ราคาหลักสิบล้าน แต่ต่อมามีการเปิดเผยว่าทางศูนย์ไม่ได้ขายรถคันดังกล่าว ต่อมาทางบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ได้ออกมายืนยันว่าทำงาน 3 เดือน ยอดขาย 15 ล้าน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่การได้มานั้นต้องแลกด้วยการขยัน อดทนและทำงานอย่างหนักในทุกวัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : แบรนด์ดังเคลียร์ดราม่าปอร์เช่ทิพย์ - ยังยืนยัน 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้าน เรื่องจริง !
ภาพจาก ช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่ 1 กันยายน 2565 ช่อง 3 รายงานว่า นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า จากการตรวจสอบผลประกอบการจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ข้อมูลงบการเงินกำไร-ขาดทุนในช่วง 3 ปี คือ 2562-2564 มีกำไรรวมกันไม่ถึง 15 ล้านบาท
ดังนั้นการระบุว่าลงทุน 6,000 บาท ได้กำไร 15 ล้านบาท ในเวลา 3 เดือนนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งมีหน้าที่และภารกิจหลักในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคทางด้านสินค้าและบริการจึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งการโฆษณาเกินจริง, ฉ้อโกง หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้นำเรื่องของบริษัทดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา
ภาพจาก ช่อง 3
โดยมีการเชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของคดีในประเด็นที่หน่วยงานต่าง ๆ มีอำนาจหน้าที่ เช่น การขอให้มีการตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลัง การยื่นงบการเงินอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การโฆษณาเกินจริง
ทั้งนี้ นายจิรวัฒน์ เผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า บริษัท พรีม่า มายา จำกัด ไม่ได้มีการยื่นจดทะเบียนขายตรงตาม พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งถือว่ามีความผิดและมีโทษ ทางคณะอนุกรรมมาธิการฯ จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทำการสืบสวนต่อไป และจะนัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 22 กันยายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3