เปิดแชตเด็ก ม.3 สารภาพทำปืนลั่นใส่ น้องโชค บอกรุ่นพี่รับปืนไป - ครูรับ ทำไมพูดว่าคอมพ์ระเบิด

            อ่านเพิ่มเติม คดีพลิก ! ที่แท้เพื่อนทำปืนลั่นใส่ดับ หลังโซเชียลตาแตกคีย์บอร์ดระเบิดทำคนตายได้ไง

            อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่เกิดเหตุกลับไม่พบว่ามีร่องรอยระเบิดรุนแรง และจากการสอบถามครูประจำชั้น เผยว่า ก่อนที่จะเรียนวิชาคอมพิวเตอร์นั้น มีนักเรียน ม.2 ใช้ห้องเรียนตามปกติ และเมื่อหมดคาบ นักเรียนชั้น ม.3 ก็มาใช้ห้องเรียน แต่ระหว่างคาบครูได้ยินเสียงคล้ายระเบิดจึงวิ่งมาดู ส่วนเพื่อนนักเรียนที่นั่งใกล้กันบอกว่านักเรียนที่เสียชีวิต มานั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ นั่งลงได้ 10 นาทีก็ได้ยินเสียงระเบิด และเพื่อนก็ลงไปนอน
            ด้าน พ.ต.ต. พีระพงศ์ วงษ์สมาน ยืนยันว่า เพื่อนนำปืนจริงมาเล่นและปืนลั่น ภายหลังจากเกิดเหตุ ตำรวจได้นำนักเรียนภายในห้องคอมพิวเตอร์ไปสอบถาม โดยมีนักเรียนรายหนึ่งสารภาพว่าแอบนำอาวุธปืนเข้ามาในโรงเรียนเพื่อเคลียร์ปัญหากับผู้ตาย ก่อนที่ปืนจะลั่นใส่จนเสียชีวิต

            ในขณะที่ต่อมาครูประจำชั้นยอมรับว่า ที่บอกว่าคอมพิวเตอร์ระเบิด เนื่องจากครูได้ยินเสียงดังและเห็นคีย์บอร์ดแตก แต่เมื่อตำรวจมาตรวจจุดเกิดเหตุก็ไม่คิดว่าจะเกิดคอมพิวเตอร์ระเบิดจริง ๆ จนกระทั่งสืบสวนจึงรู้ว่าเป็นเหตุปืนลั่น

รุ่นพี่รับ น้องทำปืนลั่นแล้วแชตมาหา เอาปืนมาให้ ตกใจมากเลยเอาไปทิ้งคลอง

            ในขณะที่ กรุงเทพธุรกิจ ได้รับบันทึกเสียงของเพื่อนและครูผู้สอน ภายหลังจากที่เกิดเหตุ โดยที่บางช่วงบางตอนจะได้ยินว่า "ผมจะออกไปเล่นมัน" และเพื่อนที่อยู่ด้านข้างบอกว่า "ใจเย็น ๆ มึงฟังกูพูดก่อน" ส่วนเพื่อนที่นั่งด้วยกันตอบมาว่า "กูฟังมึงอยู่" และครูที่ยืนได้ตบไหล่บอกให้หยุดพูด

            ในขณะที่ โหนกระแส รายงานว่า ได้มีการเปิดแชตของนักเรียนคนก่อเหตุที่พยายามติดต่อรุ่นพี่คนหนึ่งด้วยการโทร. แต่รุ่นพี่ไม่รับสาย ก่อนที่เด็กจะสารภาพว่า "มาด่วน ๆ ผมทำปืนลั่นใส่เพื่อน"
            ด้าน อสมท. รายงานว่า จากการสอบถาม นายเซนต์ รุ่นพี่ของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนที่ทำปืนลั่นใส่เพื่อนภายในห้องคอมพิวเตอร์ พบว่า ด.ช.เอ ได้บอกให้นายเซนต์มารับ เพราะ ด.ช.เอ ทำปืนลั่นใส่เพื่อน ตนเลยรีบไปรับ ด.ช.เอ ที่โรงเรียน เมื่อมาถึง ด.ช.เอ ได้ยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ตน 1 ตัว ในเสื้อมีปืนที่ใช้ก่อเหตุ แต่นายเซนต์ไม่รู้ เมื่อกลับถึงบ้าน นายเซนต์คลี่เสื้อออกและปืนตกลงมา ถึงรู้ว่าข้างในเสื้อมีปืน ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงนำปืนไปทิ้งที่คลองบางไผ่ โดยที่ปืนนั้นเป็นปืนไทยประดิษฐ์ มีด้ามจับและมีไกปืน ใส่ลูกปืน .38 ไว้ยิง

            นายวีรพงษ์ ประเสริฐสุข อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้งมลงไปยังจุดที่ได้รับแจ้งว่ามีการนำปืนของกลางมาทิ้งเอาไว้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 25-30 นาที ก็พบปืนแปลง จากนั้นจึงนำปืนขึ้นมาและให้ชุดประดาน้ำควานหาเพิ่มเติมเผื่อเจอหลักฐาน จึงยกเลิกการค้นหา

ตำรวจยืนยัน สอบสวนเรื่องนี้แบบผู้ใหญ่ ส่งฟ้องศาลผู้ใหญ่ ไม่ใช่ศาลเด็ก

            ด้านผู้กำกับ สภ. บางบัวทอง เผยว่า จะมีการดำเนินคดีนี้ในชั้นสอบสวนเหมือนผู้ใหญ่ แต่เมื่อถึงชั้นศาลหรืออัยการ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา แต่ตำรวจจะฟ้องศาลผู้ใหญ่ ไม่ใช่ศาลเด็ก โดยที่วันพรุ่งนี้ ผู้บังคับการนนทบุรีจะมาบอกรายละเอียดอีกครั้ง ส่วน ด.ช.เอ ที่ทำปืนลั่นนั้น ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ 1. พ.ร.บ.อาวุธปืน และ 2. กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย