ดีเอสไอ แถลงยึดคืนรถหรู 26 คัน จาก 35 คัน ที่ถูกโจรกรรมจากอังกฤษมาขายในไทย แฉมีการทำเอกสารปลอม แจ้งสำแดงเท็จ ระบุเป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป ก่อนกระจายส่งตามโชว์รูม ส่วนอีก 9 คัน ผู้ที่ครอบครองยังไม่ยอมคืน
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 19 กันยายน 2565 ไทยพีบีเอส รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงผลการตรวจยึดรถหรูจำนวน 26 คัน จาก 35 คันที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษแล้วลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายตามโชว์รูมหลายแห่งในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยรถที่เหลืออีก 9 คัน ยังอยู่ระหว่างติดตามซึ่งผู้ครอบครองยังไม่ยินยอมส่งมอบคืนให้กับดีเอสไอ
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า รถที่ยึดได้ 26 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการประสานเพื่อส่งมอบคืนให้กับทางการอังกฤษ ส่วนผู้ที่ครอบครองและยังไม่ยินยอมส่งมอบรถคืนนั้น หากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็อาจมีความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่มาจากการกระทำผิดแล้วยังรับไว้ อาจเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร
ด้านเจ้าของโชว์รูม ดีเอสไออยู่ระหว่างการพิจารณาความผิด ถ้าพบว่ารู้เห็นเป็นใจว่ารถที่รับซื้อมานั้นได้มาอย่างไม่ถูกกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ขึ้นอยู่กับเจตนา แต่ผู้นำเข้ารถยนต์ทั้งขบวนการทั้งที่อยู่ในอังกฤษและไทย ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ไทม์ไลน์ขบวนการโจรกรรมในสหราชอาณาจักร ที่มีกลุ่มคนไทยร่วมมือด้วย
การติดตามรถหรูเกิดขึ้นจากการประสานงานของหน่วยปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ จากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โดยให้สืบสวนหาเครือข่ายโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงจากประเทศอังกฤษที่นำเข้าไทยมา 35 คัน เพื่อจะนำส่งคืนให้กับผู้เสียหายในอังกฤษและดำเนินคดีกับขบวนการโจรกรรม
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า ระหว่างปี 2559 - 2560 ขบวนการโจรกรรมนี้มีกลุ่มคนไทยที่มีโชว์รูมจำหน่ายรถหรูร่วมมือกับกลุ่มคนต่างชาติในอังกฤษ โดยใช้วิธีให้อีกกลุ่มเป็นผู้ติดต่อทำสัญญาเช่าซื้อหรือเช่ารถยนต์ระยะสั้น จากนั้นนำไปส่งมอบให้กับเครือข่ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการจัดทำเอกสารปลอม อาทิ ใบตราส่งสินค้า / ใบแจ้งหนี้
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
จากนั้นรถยนต์ก็ถูกส่งออกจากอังกฤษทางเครื่องบินสนามบินฮีทโธรว์ไปยังสิงคโปร์ แล้วขนส่งทางเรือจากสิงคโปร์เข้ามาประเทศไทย เมื่อถึงไทยทั้ง 35 คัน ก็สำแดงเอกสารเท็จเพื่อใช้ประกอบในการนำเข้าและชำระภาษีอากรต่อกรมศุลกากร โดยระบุว่า เป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป ก่อนกระจายให้กับโชว์รูมต่าง ๆ เพื่อขายให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ข่าวช่อง 3 รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนของดีเอสไอ พบว่า บริษัทที่ทำการลักลอบส่งออกรถทั้ง 35 คัน จากประเทศอังกฤษ เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมด ขณะที่บริษัทรับซื้อรถในประเทศไทย ก็เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน และทั้ง 2 บริษัทนี้มีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ครอบครองรถยนต์แล้วได้ส่งมอบให้ดีเอสไอยึดเป็นของกลางแล้วนั้น สามารถใช้สิทธิฟ้องแพ่งต่อผู้ที่จำหน่ายรถให้ได้ ทางดีเอสไอพร้อมจะสนับสนุนพยานหลักฐานให้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, ไทยพีบีเอส
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 19 กันยายน 2565 ไทยพีบีเอส รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงผลการตรวจยึดรถหรูจำนวน 26 คัน จาก 35 คันที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษแล้วลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายตามโชว์รูมหลายแห่งในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยรถที่เหลืออีก 9 คัน ยังอยู่ระหว่างติดตามซึ่งผู้ครอบครองยังไม่ยินยอมส่งมอบคืนให้กับดีเอสไอ
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า รถที่ยึดได้ 26 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการประสานเพื่อส่งมอบคืนให้กับทางการอังกฤษ ส่วนผู้ที่ครอบครองและยังไม่ยินยอมส่งมอบรถคืนนั้น หากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็อาจมีความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่มาจากการกระทำผิดแล้วยังรับไว้ อาจเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร
ด้านเจ้าของโชว์รูม ดีเอสไออยู่ระหว่างการพิจารณาความผิด ถ้าพบว่ารู้เห็นเป็นใจว่ารถที่รับซื้อมานั้นได้มาอย่างไม่ถูกกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ขึ้นอยู่กับเจตนา แต่ผู้นำเข้ารถยนต์ทั้งขบวนการทั้งที่อยู่ในอังกฤษและไทย ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ไทม์ไลน์ขบวนการโจรกรรมในสหราชอาณาจักร ที่มีกลุ่มคนไทยร่วมมือด้วย
การติดตามรถหรูเกิดขึ้นจากการประสานงานของหน่วยปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ จากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โดยให้สืบสวนหาเครือข่ายโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงจากประเทศอังกฤษที่นำเข้าไทยมา 35 คัน เพื่อจะนำส่งคืนให้กับผู้เสียหายในอังกฤษและดำเนินคดีกับขบวนการโจรกรรม
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า ระหว่างปี 2559 - 2560 ขบวนการโจรกรรมนี้มีกลุ่มคนไทยที่มีโชว์รูมจำหน่ายรถหรูร่วมมือกับกลุ่มคนต่างชาติในอังกฤษ โดยใช้วิธีให้อีกกลุ่มเป็นผู้ติดต่อทำสัญญาเช่าซื้อหรือเช่ารถยนต์ระยะสั้น จากนั้นนำไปส่งมอบให้กับเครือข่ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการจัดทำเอกสารปลอม อาทิ ใบตราส่งสินค้า / ใบแจ้งหนี้
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
จากนั้นรถยนต์ก็ถูกส่งออกจากอังกฤษทางเครื่องบินสนามบินฮีทโธรว์ไปยังสิงคโปร์ แล้วขนส่งทางเรือจากสิงคโปร์เข้ามาประเทศไทย เมื่อถึงไทยทั้ง 35 คัน ก็สำแดงเอกสารเท็จเพื่อใช้ประกอบในการนำเข้าและชำระภาษีอากรต่อกรมศุลกากร โดยระบุว่า เป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป ก่อนกระจายให้กับโชว์รูมต่าง ๆ เพื่อขายให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ข่าวช่อง 3 รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนของดีเอสไอ พบว่า บริษัทที่ทำการลักลอบส่งออกรถทั้ง 35 คัน จากประเทศอังกฤษ เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมด ขณะที่บริษัทรับซื้อรถในประเทศไทย ก็เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน และทั้ง 2 บริษัทนี้มีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ครอบครองรถยนต์แล้วได้ส่งมอบให้ดีเอสไอยึดเป็นของกลางแล้วนั้น สามารถใช้สิทธิฟ้องแพ่งต่อผู้ที่จำหน่ายรถให้ได้ ทางดีเอสไอพร้อมจะสนับสนุนพยานหลักฐานให้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, ไทยพีบีเอส