x close

สุเทพ ดีใจศาลยกฟ้องฮั้วประมูลโรงพัก ถูกด่ามา 9 ปี พ้นมลทินแล้ว แกนนำ กปปส. เฮ


          สุเทพ เทือกสุบรรณ เผยดีใจหลังศาลยกฟ้องคดีฮั้วประมูลโรงพัก 396 แห่ง ชี้พ้นมลทินแล้วหลังทนถูกด่ามา 8 - 9 ปี ด้านเหล่าแกนนำ กปปส. ที่มาร่วมลุ้นพากันปรบมือเฮลั่นห้องสังเกตการณ์


           วันที่ 20 กันยายน 2565 เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานความคืบหน้าคดีหมายเลขดำ อม.22/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 คน กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทนโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก หรือแฟลตตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ


           โดย ป.ป.ช. ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน 2552 - 18 เมษายน 2556 จำเลยที่ 1 คือ นายสุเทพ และจำเลยที่ 2 คือ พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการ ผบ.ตร. เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาภาคแยกสัญญาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว โดยให้ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด จำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ จำเลยที่ 6 ยื่นเสนอราคาวัสดุต่ำอย่างผิดปกติ

           พล.ต.ต. สัจจะ คชหิรัญ และ พ.ต.ท. สุริยา แจ้งสุวรรณ์ จำเลยที่ 3 - 4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติ และได้นำเอกสารนั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบ เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา จำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย

สุเทพ เทือกสุบรรณ
ภาพจาก ข่าวช่อง 3

           ทั้งนี้ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (สนามหลวง) อ่านคำพิพากษาผลการวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 คือ นายสุเทพ ไม่มีความผิดตามฟ้อง เนื่องจากพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรา 4 อนุมาตรา 1 ประกอบ ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 กำหนดว่า คณะรัฐมนตรีต้องให้ความเห็นชอบตามหลักการที่หน่วยงานราชการเสนอเท่านั้น เว้นแต่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ

           ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง โดยไม่ได้อนุมัติแนวทาง รูปแบบ หรือวิธีการจัดจ้าง พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงแหล่งรายได้จากหลักทรัพย์เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี

           โดย จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ได้เสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีการจัดจ้างโครงการดังกล่าว จึงไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหายต่อทางราชการตำรวจและการจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

           ส่วนจำเลยที่ 2 พล.ต.อ. ปทีป ศาลพิพากษาว่า เป็นการเสนอรูปแบบการจัดจ้างตามสายงาน ในฐานะรักษาการแทน ผบ.ตร. ในขณะนั้น ไม่ว่าจำเลยที่ 1 จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ก็ตาม จึงไม่ถือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหายต่อทางราชการตำรวจและการจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

สุเทพ เทือกสุบรรณ
ภาพจาก ข่าวช่อง 3

สุเทพ ยันไม่ฟ้องกลับใคร ดีใจพ้นมลทินแล้ว - แกนนำ กปปส. ปรบมือลั่นห้องสังเกตการณ์


           ด้วยเหตุนี้ ศาลฎีกา จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง นายสุเทพ กับพวกทั้งหมด 6 คน ซึ่งพบว่าตลอดการอ่านคำพิพากษา นายสุเทพมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการใด ๆ มีความสงบนิ่ง และภายหลังจากการอ่านคำพิพากษาจบ กลุ่มแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำ กปปส. พากันปรบมือภายในห้องสังเกตการณ์

           กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายสุเทพ เปิดใจหลังศาลยกฟ้อง ระบุว่า ตนเองดีใจที่พ้นมลทินเสียที หลังต้องถูกโจมตีว่าเป็นคนทุจริต 8 - 9 ปี พร้อมประกาศสนับสนุนพรรคการเมืองของประชาชน แต่ไม่ขอหวนกลับมาเล่นการเมืองอีก ยืนยันไม่ฟ้องกลับใคร


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุเทพ ดีใจศาลยกฟ้องฮั้วประมูลโรงพัก ถูกด่ามา 9 ปี พ้นมลทินแล้ว แกนนำ กปปส. เฮ อัปเดตล่าสุด 20 กันยายน 2565 เวลา 16:07:08 5,007 อ่าน
TOP