x close

เจ้าสาวใจสลาย ถูกเจ้าบ่าวเท แต่ยังเดินหน้าจัดปาร์ตี้ งานแต่งครึ่งล้าน ต้องไม่สูญเปล่า


           เจ้าสาวใจสลาย อยู่ ๆ เจ้าบ่าวทิ้งไปก่อนแต่งงาน แต่ยังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เจ้าบ่าวไม่อยู่ งานแต่งต้องเดินต่อ ขอใช้ช่วงเวลาดี ๆ กับคนที่รัก เปลี่ยนน้ำตา เป็นความสุข

เจ้าบ่าวหนีงานแต่ง

          นับเป็นเรื่องเลวร้ายเท่าที่จะเกิดขึ้นได้กับเจ้าสาวคนหนึ่ง เมื่อจู่ ๆ เจ้าบ่าวที่ควรจะอยู่เคียงข้างเธอ และเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันกลับหนีหายไปดื้อ ๆ ปล่อยเจ้าสาวทิ้งไว้กลางทางโดยไร้ซึ่งคำอธิบายใด ๆ แต่สำหรับ เคย์ลีย์ สตีด เจ้าสาววัย 27 ปี จากประเทศเวลส์ เธอไม่ปล่อยให้ความโศกเศร้าและเรื่องราวร้าย ๆ มาพังงานแต่งมูลค่า 12,000 ปอนด์ (ราว 484,000 บาท) ไปง่าย ๆ และเลือกจะเปลี่ยนวันที่เลวร้าย ให้เป็นความทรงจำดี ๆ รวมกับครอบครัว และคนที่รักเธอแทน

          โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 เว็บไซต์เวลส์ออนไลน์ รายงานว่า เคย์ลีย์ กับคนรักของเธอใช้ช่วงเวลาอยู่ร่วมกันมานานเกือบ 4 ปีแล้ว และก็หมั้นหมายกันหลังจากที่แฟนหนุ่มขอเธอแต่งงานเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 อย่างไรก็ตาม ทั้งที่เตรียมงานทุกอย่างไว้พร้อม แถมยังมีทริปฮันนีมูนแสนหวานที่ตุรกีรออยู่ แต่เจ้าบ่าวของเธอกลับหายตัวไปในคืนก่อนแต่งงาน ทิ้งเจ้าสาวและคนอื่น ๆ ไว้เบื้องหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ

          หญิงสาวไม่รู้สักนิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และยืนยันว่าไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้า เพราะก่อนถึงวันแต่งงานเขายังไปกินข้าวกับเธอ และยังชวนเธอคุยเรื่องฮันนีมูนกันอยู่เลย แต่ในวันก่อนแต่งงาน จู่ ๆ เจ้าบ่าวก็แอบหนีไป

เจ้าบ่าวหนีหายไปเงียบ ๆ คืนก่อนแต่งงาน


          ในวันนั้น เคย์ลีย์ อยู่กับกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวที่โรงแรมหนึ่ง ส่วนเจ้าบ่าวของเธออยู่กับเพื่อนเจ้าบ่าวที่กองคาราวาน ใกล้สถานที่จัดงานแต่งงาน เธอได้เจอว่าที่เจ้าบ่าวครั้งสุดท้ายตอนเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันก่อนวันแต่งงาน และไม่ได้ข่าวจากเขาอีกเลย

          จริง ๆ แล้วเจ้าบ่าวแอบหนีไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันดังกล่าว หลังจากค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไป เคย์ลีย์ก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมแต่งหน้าทำผม ระหว่างนั้นเพื่อนเจ้าบ่าวคนหนึ่งโทร. เข้ามาหาเพื่อนสนิทของเคย์ลีย์ เพื่อแจ้งข่าวว่าเจ้าบ่าวหายตัวไปแล้ว

          "พวกเพื่อนเจ้าสาวซ่อนโทรศัพท์มือถือของฉันไว้ ระหว่างตัดสินใจหาวิธีที่สุดในการบอกเรื่องนี้กับฉัน และเพื่อไม่ให้ฉันรู้เรื่องนี้จากคนอื่นก่อน พวกเขาอยากจะมั่นใจจริง ๆ ว่าเขาหายตัวไปแล้ว ก่อนที่ฉันจะตื่นตระหนก" เคย์ลีย์ กล่าว

เจ้าสาวรู้ข่าวร้าย แต่ยังเชื่อใจเขา อดทนรอจนถึงที่สุด


          จากนั้นเมื่อเธอเจอโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่ามีสายจากแม่โทร. เข้ามา แต่ไม่มีใครรับสาย เธอจึงโทร. กลับไปหาแม่ ก่อนจะได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ บอกว่าคนรักของเธอหายตัวไปแล้ว

          อย่างไรก็ตาม เคย์ลีย์ยังคงเชื่อมั่นว่าเจ้าบ่าวจะไม่ทิ้งเธอไปไหน เพราะที่ผ่านมาเขาก็เคยหายตัวหรือขับรถไปที่อื่นสัก 2 ชั่วโมง ตอนเครียด ๆ ดังนั้นเคย์ลีย์จึงเชื่อจริง ๆ ว่าเมื่อถึงเวลา เจ้าบ่าวของเธอก็จะกลับมาเอง เธอยังพยายามบอกให้คนอื่น ๆ เตรียมตัวให้พร้อมกันต่อไปด้วยซ้ำ

          จนเมื่อเวลา 11.00 น. เคย์ลีย์ที่เพิ่งทำผมเสร็จ ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเจ้าบ่าว บอกว่า เจ้าบ่าวติดต่อกลับมาหาครอบครัวแล้ว เพื่อบอกว่าตัวเขาจะไม่มาร่วมงานแต่งงาน

          เมื่อได้รู้ว่าเจ้าบ่าวทิ้งเธอไปจริง ๆ เคย์ลีย์ก็ร้องไห้หนักมาก และพร่ำบอกกับพ่อแม่ของเธอ ช่างแต่งหน้า รวมถึงช่างภาพ ว่างานแต่งงานนี้จบลงแล้ว

เจ้าบ่าวหนีงานแต่ง


จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เสียใจไปแล้ว อย่าได้เสียเงินเปล่า


          แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเสียใจอย่างถึงที่สุด หญิงสาวก็ได้ยินช่างภาพพูดขึ้นว่า "ทำไมคุณไม่ทำต่อล่ะ คุณใช้เงินเหล่านี้ไปแล้ว ยังไงคุณก็ไม่ได้เงินคืนอยู่แล้ว แขกก็อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว ทำไมไม่ลุยต่อเลย"

          คำพูดนี้เองที่ทำให้หญิงสาวได้สติ และตัดสินใจที่จะเดินหน้าจัดงานแต่งงานตามแผนเดิม แม้จะไม่มีเจ้าบ่าวอยู่ในงานแล้วก็ตาม

          เมื่อได้รู้การตัดสินใจของเคย์ลีย์ กลุ่มเพื่อนเจ้าสาวก็โทร. ติดต่อหาเพื่อนเจ้าบ่าว ให้พวกเขามายังสถานที่จัดงานได้เลย เพราะงานในวันนี้จะยังเดินหน้าต่อ จากนั้นเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าก็สาวก็รับหน้าที่แจ้งให้แขกทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้ทุก ๆ คนออกจากห้องทำพิธี ไปรอเคย์ลีย์ที่สวนแทน เพราะเคย์ลีย์ไม่อยากจะเห็นห้องสำหรับทำพิธีแต่งงานแล้ว

          ในตอนที่เพื่อน ๆ ของเธออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้แขกฟัง ทุกคนต่างก็ร้องไห้ออกมา และเมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นที่งาน ทุก ๆ คนต่างก็มองดูเจ้าสาวโดยที่ไม่รู้จะทำตัวกันยังไง และทันใดนั้นพวกเขาก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ และเข้ามากอดเธอไว้

          ทั้งนี้ ในขณะที่ครอบครัวฝั่งเจ้าบ่าวตัดสินใจออกจากงานไป กลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวทุกคนยังคงอยู่ในงาน เช่นเดียวกับเพื่อนของเคย์ลีย์ และครอบครัวของเธอ ซึ่งด้วยแรงสนับสนุนจากพวกเขา ในที่สุดเธอก็สามารถเปลี่ยนวันที่เลวร้ายนี้ให้กลายมาเป็นอีกหนึ่งวันที่งดงามได้

          งานแต่งงานที่จัดเตรียมไว้ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งการที่เจ้าสาวในชุดสวยค่อย ๆ เดินเข้ามาในงาน การกล่าวสุนทรพจน์ การเต้นรำ หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพสวย ๆ ในงาน สิ่งที่ต่างออกไปก็แค่ เธอได้เต้นรำเปิดฟลอร์กับพ่อวัย 71 ปี และได้เต้นคู่กับพี่ชายทั้ง 4 คน แทนที่จะเต้นรำกับเจ้าบ่าวของเธอ นอกจากนี้เธอก็ยังเดินเข้างานมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าว แทนที่จะเดินควงเจ้าบ่าวเข้ามาในงาน

          อีกสิ่งที่ต่างออกไปคือ เค้กแต่งงาน ที่ไม่ได้ถูกตัดเค้กตามธรรมเนียม แต่ถูกเจ้าสาวต่อยเค้กด้านบนจนพัง เพราะมันทำให้เธอนึกถึงเจ้าบ่าวที่ทิ้งเธอไป

          ทั้งนี้ เคย์ลีย์เผยว่า เธอรู้สึกขอบคุณแขกที่ยังคงอยู่กับเธอในงาน ทั้งที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่แล้วก็ได้ รวมถึงรู้สึกขอบคุณกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวที่ตัดสินใจอยู่เคียงข้างเธอจนถึงท้ายที่สุด ทั้ง ๆ หากพวกเขาไม่มาร่วมงาน เธอก็เข้าใจดี

ปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ ส่วนเจ้าบ่าวตัวดี ยังกริบ


          เคย์ลีย์ชี้ว่า ในตอนนี้เธอกำลังทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และก็กำลังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตโสดหมาด ๆ อย่างน้อยเธอก็ดีใจที่ตัวเองตัดสินใจจัดปาร์ตี้แต่งงานต่อ ดังนั้นเงินและความที่พยายามที่ใช้ไป จึงไม่ถึงกับสูญเปล่า ขณะที่พวกเพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวที่แต่งตัวกันมาอย่างดีเพื่องานนี้ ก็จะได้มีรูปถ่ายสวย ๆ กลับไปอย่างเช่นที่พวกเขาควรจะได้รับ

          สำหรับเจ้าบ่าวที่ทิ้งเธอไปนั้น เคย์ลีย์เผยว่า เขาไม่ติดต่อมาหาเธออีกเลย ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทั้งนั้นว่าเหตุใดเขาถึงทำแบบนี้ แม้ตอนนี้เธอจะไม่ต้องการฟังคำพูดเหล่านั้นแล้วก็ตาม เพราะทุกอย่างมาไกลเกินจะย้อนคืนแล้ว

          ตอนนี้เธอเก็บข้าวของทุกอย่างของอดีตคนรัก ออกไปทิ้งไว้กับครอบครัวของเขาแล้ว และกำลังเริ่มใช้ชีวิตอยู่คนเดียว โดยมีกลุ่มเพื่อนที่ผลัดเปลี่ยนกันมาอยู่เคียงข้างหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา ทำให้สภาพจิตใจของเคย์ลีย์ดีขึ้นมาก แม้เคย์ลีย์จะยังแอบเศร้าที่ต้องยกเลิกแผนฮันนีมูนในต่างแดนไปก็ตาม

ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก walesonline




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าสาวใจสลาย ถูกเจ้าบ่าวเท แต่ยังเดินหน้าจัดปาร์ตี้ งานแต่งครึ่งล้าน ต้องไม่สูญเปล่า อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2565 เวลา 10:49:56 62,815 อ่าน
TOP