สาวบุกบ้านสามี จับได้มีครอบครัวอยู่แล้ว จะมาขอคุย แต่เจอ รปภ. ขวาง เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าหมู่บ้าน ฟังความ 3 ฝ่าย เปิดความจริงจากแต่ละมุม
ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก บางคนคิดว่า รปภ. ทำไม่ถูกต้อง เพราะหญิงสาวได้รับบาดเจ็บ มีรอยฟกช้ำดำเขียวตามร่างกาย ขณะที่บางคนอยากให้รอฟังความอีกด้านก่อนค่อยตัดสิน เพราะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง มีเพียงคลิปวิดีโอจากมุมของฝ่ายหญิงอย่างเดียว
รปภ. ขอแจงอีกมุม หญิงสาวเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในหมู่บ้าน พูดดี ๆ แล้ว แต่เจอสร้างเรื่อง
ล่าสุด (5 ตุลาคม 2565) เรื่องเล่าเช้านี้ ได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ รปภ. และอดีตสามีของหญิงสาว เพื่อฟังความจากแต่ละฝ่าย โดย รปภ. เล่าว่า หญิงสาวคู่กรณีเป็นบุคคลที่ลูกบ้านมีการแจ้งว่าห้ามเข้ามาในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด
ตามคลิปวงจรปิดจากเจ้าของบ้านคือ ตนเข้าไปถามหญิงสาวว่ามาทำอะไร ฝ่ายหญิงบอกว่าจะมาขอคุย ตนจึงถามกลับไปว่าทำไมไม่คุยโทรศัพท์ เพราะหญิงสาวเป็นบุคคลต้องห้าม ทางเจ้าของบ้านสั่งไม่ให้เข้ามาที่นี่ จากนั้นตนก็เดินต้อนหญิงสาวโดยที่ยังไม่ได้แตะโดนตัว อยู่ ๆ หญิงสาวก็โวยวายว่า "ช่วยด้วย ๆ อย่ามาโดนตัวฉัน"
จังหวะที่ต้อน หญิงสาวเดินเข้าไปในซอย ไม่ได้เดินออกนอกซอย ตนจึงมีการจับแขนฝ่ายหญิงเพื่อจะจูงออกมา พูดจาสุภาพแล้ว แต่ฝ่ายหญิงก็ดิ้นและทิ้งตัวลงกับพื้น ก่อนจะตะโกนลั่นซอยว่า "ช่วยด้วย รปภ. จะทำร้าย" ตนจึงปล่อยและยืนอยู่เฉย ๆ จากนั้นหญิงสาวก็เอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิป
นอกจากนี้ รปภ. ยังได้เล่าวีรกรรมของหญิงสาวด้วยว่า ฝ่ายหญิงเคยมาหมอบซุ่มอยู่หลังรถแท็กซี่ แอบในกระโปรงรถแท็กซี่ก็มี พอเข้าไปถึงบ้านของลูกบ้าน ก็ได้ไปทำลายข้าวของ เช่น เอาเหล็กไปขูดรถยนต์ หรือเอา GPS ไปติด ซ้ำยังขโมยกุญแจรถกับกุญแจบ้านด้วย พ่นสีด่าแม่เจ้าของบ้านก็ทำมาแล้ว แถมล่าสุดยังเอาทะเบียนรถของลูกสาวเจ้าของบ้านไปด้วย
อดีตสามี เคยกราบเท้าหญิงสาว วอนอย่าได้เจอกันอีกเลย
อดีตสามีของหญิงสาว เล่าว่า หญิงสาวเป็นเมียน้อย แต่ตนขอเลิก เพราะรู้สึกว่าฝ่ายหญิงมีอาการทางประสาท เวลาที่ฝ่ายหญิงเข้ามาในหมู่บ้านได้ ก็จะมาทำลายรถ ทำลายข้าวของ หญิงสาวรู้อยู่แล้วว่าตนมีภรรยาหลายคน แถมยังไปหาเรื่องภรรยาทุกคนด้วย
โดยตนให้เงินฝ่ายหญิงใช้เดือนละ 5,000 บาท แต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเริ่มห่างกันมาก ตนก็ไม่ได้ให้ ฝ่ายหญิงก็มาหาเรื่องตลอด ยอมรับว่าสงสาร แต่ไม่อยากไปยุ่ง ครั้งก่อนฝ่ายหญิงบุกเข้ามาในหมู่บ้าน จนตำรวจให้ตนกราบเท้าฝ่ายหญิง ตำรวจบอกว่าทำให้จบไป ฝ่ายหญิงจะได้ออกไปจากหมู่บ้าน ตนก็ยอมทั้งที่เป็นผู้ชายอายุจะ 60 ปีแล้ว จึงกราบพร้อมวอนว่าอย่าได้มาเจอกันอีกเลย
หญิงสาววอนเห็นใจ ทำไปเพราะรัก
หญิงสาว กล่าวว่า ฝ่ายชายมีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่แย่ ตนยอมรับได้ว่าฝ่ายชายจะมีใครก็ไปเลย แต่ขอให้บอก ที่ทะเลาะกันทุกวันนี้ เพราะติดแค่เรื่องโทรศัพท์เท่านั้น ตนไม่ชอบเวลาที่ฝ่ายชายไม่รับสาย ไม่ได้ติดต่อกันมาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
