พ่อแม่ช็อกน้ำตาไหล คิดว่าลูกชายออกจากบ้านไปทำงาน 19 ปี ไม่มีข่าวคราว คิดว่ายุ่ง ความจริง "นอนอยู่หลังบ้าน"

ภาพจาก NetEase
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวชวนช็อกจากครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอาศัยในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เมื่ออยู่ ๆ วันหนึ่ง พ่อและแม่เพิ่งได้ทราบความจริงเกี่ยวกับลูกชายของพวกเขา ภายหลังจาก 19 ปีที่ผ่านมา ต่างเข้าใจว่าลูกชายออกจากบ้านไปทำงาน คิดว่ายุ่งมาก จึงไม่ได้ติดต่อกลับมา แต่ปรากฏว่า เขาอยู่ที่หลังบ้านมาตลอด
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า พ่อและแม่คู่นี้ มีลูกชายด้วยกัน 2 คน ลูกชายคนโตเป็นคนร่าเริงและมีไหวพริบดี เมื่อเขาโตขึ้นก็มีครอบครัวและชีวิตที่มั่นคง เหลือแต่ลูกชายคนเล็กที่พ่อแม่เป็นห่วง จึงช่วยนัดบอดหาภรรยาที่เหมาะสมมาแต่งงานด้วย โดยที่ไม่คาดฝันเลยว่า มันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของพวกเขา…
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า พ่อและแม่คู่นี้ มีลูกชายด้วยกัน 2 คน ลูกชายคนโตเป็นคนร่าเริงและมีไหวพริบดี เมื่อเขาโตขึ้นก็มีครอบครัวและชีวิตที่มั่นคง เหลือแต่ลูกชายคนเล็กที่พ่อแม่เป็นห่วง จึงช่วยนัดบอดหาภรรยาที่เหมาะสมมาแต่งงานด้วย โดยที่ไม่คาดฝันเลยว่า มันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของพวกเขา…
กระทั่งในปี 2539 เมื่อพ่อและแม่ไปเยี่ยมลูกชายที่บ้าน แต่ลูกสะใภ้บอกว่า เขาไปทำงานที่อื่นเพราะทะเลาะกัน แม้ว่าพ่อและแม่จะยังมีความสงสัยในใจ แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไรร้ายแรง แต่หลังจากนั้น ลูกชายคนนี้ก็ไม่เคยกลับมาบ้าน หรือได้ยินข่าวใด ๆ จากเขา จนเวลาผ่านไปนานถึง 19 ปี

ภาพจาก NetEase
พ่อและแม่พยายามทำใจเรื่อยมา ด้วยความเข้าใจว่าลูกชายคงจะยุ่งมาก หรืออยากไปใช้ชีวิตอย่างอิสระ จนวันหนึ่งในปี 2558 พ่อและแม่ได้ไปที่บ้านหลังเก่าที่ลูกชายเคยอยู่กับภรรยา เพื่อจะซ่อมแซมบ้าน แต่แล้วกลับต้องตกใจสุดชีวิต เมื่อขุดพบโครงกระดูกที่สวนหลังบ้าน พวกเขากลัวมาก จึงรีบแจ้งตำรวจทันที
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ ก็สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้ และยืนยันว่า เจ้าของโครงกระดูกที่พบนั้น คือ ลูกชายคนเล็กของครอบครัวนี้ และแน่นอนว่า ผู้ต้องสงสัยมากที่สุดคือ ลูกสะใภ้ของพวกเขา
ในระหว่างการสอบสวน ตอนแรกภรรยาของผู้เสียชีวิตอ้างว่า เธอไม่รู้เรื่อง แต่เธอพูดกลับไปกลับมา จึงจับได้ว่าเธอโกหก จนสุดท้ายเมื่อทนรับแรงกดันไม่ไหว เธอก็ยอมสารภาพผิดในที่สุด

ภาพจาก NetEase
เมื่อความจริงของคดีถูกเปิดเผย ภรรยาหลั่งน้ำตาด้วยความสำนึกผิดและยอมรับว่า "ฉันเสียใจ ฉันเสียใจจริง ๆ ในตอนนั้น"
ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ก็กลายเป็นประเด็นที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนวงกว้าง การแต่งงานที่คิดว่าจะลงเอยอย่างมีความสุข สุดท้ายกลับจบลงที่หลุมฝังศพ...
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่