เฉลยแล้ว มือต่อย ศรีสุวรรณ คือใคร - พบเป็นตัวตึงย่านลาดพร้าว ประวัติไม่ธรรมดา

            เฉลยแล้ว มือต่อย ศรีสุวรรณ คือใคร พบเป็นตัวตึงย่านลาดพร้าว ประวัติไม่ธรรมดา เคยบุกตบ แรมโบ้อีสาน มาแล้ว - หลังลงมือยังไลฟ์ต่อ ลั่นทำตามสัญญาแล้ว




                 อ่านข่าว : เดือด ! ศรีสุวรรณ โดยต่อยกลางวงสื่อ ขณะกล่าวโทษ โน้ส อุดม เจอหนักทั้งหมัด-เท้า
             ล่าสุด (18 ตุลาคม 2565) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า บุคคลที่ต่อยนายศรีสุวรรณ ทราบชื่อคือ นายวีรวิทย์ รุ่งเรื่องศิริผล หรือ ลุงศักดิ อายุ 62 ปี ซึ่งเปิดช่อง YouTube "ศักดินาเสื้อแดง" ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.8 หมื่นคน โดยพบว่านายวีรวิทย์ได้ให้ทีมงานไลฟ์ผ่าน YouTube ตั้งแต่ก่อนเข้ามาก่อเหตุ และยังคงไลฟ์ต่อเนื่องหลังลงมือเสร็จ

             โดยหลังก่อเหตุแล้ว พบว่านายวีรวิทย์ยังคงนั่งไลฟ์พูดคุยกับผู้ติดตามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วงหนึ่งนายวีรวิทย์กล่าวทำนองว่า ตนก็รอจังหวะมานานแล้ว เพราะตนเคยให้สัญญาไว้ว่าถ้ามีโอกาสก็จะทำตามที่ให้สัญญา "ผมจะไม่ตบเหมือนที่ตบแรมโบ้ ผมจะชกจะเตะปากมัน"

             ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติ นายวีรวิทย์ พบว่าที่ผ่านมาเคยไปร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายครั้ง อีกทั้งเมื่อปี 2564 ยังก่อวีรกรรมบุกตบ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หรือ แรมโบ้อีสาน มาแล้ว ระหว่างการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานผลิตชุดชั้นในปิดตัว

             โดยในครั้งนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายเสกสกล ได้มาเชิญแกนนำไปร่วมพูดคุยหาทางออก ขณะที่ นายวีรวิทย์ ได้เปิดไลฟ์ Youtube บอกกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ถ้าเจอแรมโบ้จะตบให้ดู เพราะทำให้คนอีสานต้องเสื่อมเสีย จากพฤติกรรมเป็นคนเสื้อแดงกลับใจ ก่อนจะสบโอกาสเดินเข้าไปตบนายเสกสกล 4 ครั้ง ทำให้นายเสกสกลต่อยหน้ากลับ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น

             อนึ่ง หลังจากปรากฏข่าวการทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ ก็มีบางเพจระบุว่าลุงคนดังกล่าว คือตัวตึงย่านลาดพร้าว ต่อยเสร็จก็กลับเลย ไม่พูดเยอะ

ศรีสุวรรณ ยันจะร้องเรียนต่อ จ่อแจ้งความเอาผิด

             ขณะที่หลังเกิดเหตุ นายศรีสุวรรณ เผยว่า รู้สึกเจ็บใบหน้าบริเวณคางเพียงเท่านั้น แต่ว่ารู้สึกเจ็บใจมากกว่า ตนไม่ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อนเป็นการส่วนตัว และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ร้องเรียนต่อไป ไม่หวั่นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก แต่หลังจากนี้จะมีเพื่อนติดตามมาด้วยและระวังตัวมากขึ้น ขณะนี้ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และจะไปแจ้งความและให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.พหลโยธิน ยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด โดยอยากให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, ข่าวช่องวัน