หมอสอง เล่าเหตุการณ์ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ที่ประเทศมาลี จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เผยหนีเสือออกมาได้ แต่ดันปะจระเข้ - เคราะห์ดีได้ เฟร้นช์ฟราย แฟนสาวเป็นคีย์แมนสำคัญช่วยกลับมา
ภาพจาก โหนกระแส
จากกรณีที่ นพ.นพรัตน์ รัตนวราห หรือ หมอสอง ถูกลักพาตัวที่ประเทศมาลี นานถึง 25 วัน สภาพถูกล่ามโซ่ จนเจ้าตัวคิดว่าจะไม่รอดชีวิตกลับมาแล้ว สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจนเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ล่าสุด (27 ตุลาคม 2565) หมอสอง และแฟนสาวผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา ได้มาร่วมเล่าประสบการณ์นี้ในรายการ โหนกระแส
โดยหมอสอง เล่าว่า ตนมีเป้าหมายจะเที่ยวให้ครบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งกลุ่มประเทศทั้ง 9 ประเทศที่ตนไปในทริปนี้ เป็นประเทศท้าย ๆ ในลิสต์แล้ว ไปตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เที่ยวไปแล้วประมาณ 10 กว่าวันก่อนจะเกิดเรื่อง
ภาพจาก โหนกระแส
วันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น
- วันที่ 28 กันยายน จะเดินทางข้ามพรมแดนจากประเทศบูร์กินาฟาโซ ข้ามไปยังประเทศมาลี เดินทางโดยรถยนต์ บนรถมีกัน 3 คน คือตน คนขับรถ และไกด์ ชาวบูร์กินาฟาโซ ระหว่างเดินทางตนหลับ แต่ยังไม่ทันจะถึงจุดเช็กพอยต์ข้ามพรมแดน ก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงปืน เห็นกลุ่มคนมาล้อม มีอาวุธปืน พอหนีจากกลุ่มแรกมาได้ ก็มาเจอกลุ่มที่สอง ซึ่งล้อมพวกตนไว้ แล้วกรูขึ้นมาบนรถ 5-6 คน จับมัดมือไพล่หลัง เอาผ้าปิดตา แล้วขับรถพาตัวไปไว้ในป่า
ตอนนั้นเขาบอกว่า เขาขอตรวจสอบว่าตนใช่คนที่พวกเขาตามหาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยตัวไป ตนยังใจชื้นคิดว่าไม่นานก็คงถูกปล่อยตัว แต่สุดท้ายเขาก็พาตนย้ายที่ไปหาหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง นั่งมอเตอร์ไซค์ผ่านป่า ผ่านไร่ ผ่านภูเขา ประมาณ 8 ชั่วโมง เส้นทางลึกและซับซ้อน จนตนจำเส้นทางไม่ได้ ไปถึงที่หมายประมาณตี 3
ภาพจาก โหนกระแส
ถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
ตลอดเวลาที่ถูกจับกุม กลุ่มคนร้ายไม่ได้พูดจากระโชกโฮกฮาก ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ตนสื่อสารโดยพูดภาษาอังกฤษกับไกด์ แล้วไกด์จะไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสคุยกับคนร้ายอีกที ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเจอชะตากรรมอะไรบ้าง เป็นห่วงคุณแม่เลยตัดสินใจหนีออกมาช่วงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น พอหนีออกมาได้ไกล จนช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ ตนไปขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น แต่สุดท้ายเขาเป็นพวกเดียวกันหมด เขาก็เลยโทร. ตามคนมาจับตัวกลับไป แล้วถูกล่ามตรวนข้อเท้า ใส่กุญแจมือ ตนไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน ต้องการอะไร เขาพยายามให้ความหวังเราทุกวันว่าถ้าไม่ใช่คนที่ต้องการก็จะปล่อยไป แต่ก็ผ่านไปหลายวันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ภาพจาก โหนกระแส
เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา กุญแจสำคัญที่ช่วยเหลือสำเร็จ
โดยเฟร้นช์ฟราย ผู้ประกาศข่าวสาว และแฟนสาวของหมอสอง เล่าว่า ขาดการติดต่อกับหมอสอง หายไปเลยแบบไร้ร่องรอย 1 วัน ทั้งที่ปกติเขาจะติดต่อมาตลอด จนถึงเวลาที่เขาต้องบินต่อไปอีกประเทศ ก็ยังไม่ติดต่อมาจึงมั่นใจว่ามีเรื่องผิดปกติแน่ ๆ จนไปเช็กว่ามีชื่อเขาขึ้นเครื่องบินไปต่อประเทศต่อไปหรือไม่ ก็ไม่มี ตอนนั้นคิดว่าเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุ จึงติดต่อบริษัททัวร์ให้ช่วยตามหา ตลอดเวลา 20 กว่าวันทรมานมาก พยายามหาข้อมูล ตรวจสอบทั้งเรื่องอุบัติเหตุ ข้อมูลการรักษาตัวในโรงพยาบาล การเช็กอินโรงแรม ก็ไม่พบข้อมูลเลย มีการแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ แต่ก็เหมือนคลำทางในความมืด เพราะเราไม่รู้อะไรเลยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
จนกระทั่งวันที่ 18 ตุลาคม เข้าสัปดาห์ที่ 3 ที่หมอสองหายไป มีโทรศัพท์เข้ามากลางดึก เป็นหมอสองที่ติดต่อมา ซึ่งหมอพยายามเจรจากับคนร้ายมาตลอดหลายวัน จนเขายอมให้โทรศัพท์ติดต่อญาติ จึงตัดสินใจโทร. ขอเบอร์เฟร้นช์ฟรายจากคุณแม่ แล้วให้เฟร้นช์ฟรายเป็นคนช่วยประสานงาน เจรจาต่อรองกับกลุ่มคนร้าย นัดหมายเรื่องการส่งตัวกลับ ซึ่งคนร้ายเรียกเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งขอไม่เปิดเผยว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ จนมีการประสานงานจ่ายเงินค่าไถ่ แล้วได้ส่งตัวหมอสองกลับมาในที่สุด
ภาพจาก โหนกระแส
สาเหตุที่ต้องเก็บเรื่อง หมอสอง ถูกลักพาตัว เป็นความลับ
เฟร้นช์ฟราย เผยว่าความยากลำบากหนึ่งคือต้องเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ถ้าเกิดเรื่องเป็นข่าวดัง คนร้ายรู้ว่าหมอสองมีชื่อเสียง ก็อาจจะไม่ได้กลับมา หรืออาจจะถูกจับตัวไว้นานกว่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้เฟร้นช์ฟรายสามารถรับมือ และแก้ปัญหาต่าง ๆ จนผ่านไปได้ด้วยดี
หมอสอง ยังบอกว่า หลังกลับมาต้องขอกราบขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ หน่วยงานที่ช่วยประสานงาน ช่วยเหลือให้กลับมาได้อย่างปลอดภัย ตอนอยู่ในนั้นทุกข์ทรมานมาก กว่าจะผ่านแต่ละวันไปยาวนาน ต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิให้ใจสงบ เพราะคิดว่าอาจจะถูกยิงตายเมื่อไหร่ก็ได้ การลักพาตัวเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอมันเกิดขึ้นแล้วถึงได้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวประเทศหลายประเทศควรจะหลีกเลี่ยงด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้อย่างหนึ่ง คือทุกลมหายใจที่ยังมีชีวิตมันมีค่า ควรรักและทำดีกับครอบครัว คนใกล้ตัว ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์แบบตนถึงจะเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
จากกรณีที่ นพ.นพรัตน์ รัตนวราห หรือ หมอสอง ถูกลักพาตัวที่ประเทศมาลี นานถึง 25 วัน สภาพถูกล่ามโซ่ จนเจ้าตัวคิดว่าจะไม่รอดชีวิตกลับมาแล้ว สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจนเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ล่าสุด (27 ตุลาคม 2565) หมอสอง และแฟนสาวผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา ได้มาร่วมเล่าประสบการณ์นี้ในรายการ โหนกระแส
โดยหมอสอง เล่าว่า ตนมีเป้าหมายจะเที่ยวให้ครบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งกลุ่มประเทศทั้ง 9 ประเทศที่ตนไปในทริปนี้ เป็นประเทศท้าย ๆ ในลิสต์แล้ว ไปตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เที่ยวไปแล้วประมาณ 10 กว่าวันก่อนจะเกิดเรื่อง
ภาพจาก โหนกระแส
วันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น
- วันที่ 28 กันยายน จะเดินทางข้ามพรมแดนจากประเทศบูร์กินาฟาโซ ข้ามไปยังประเทศมาลี เดินทางโดยรถยนต์ บนรถมีกัน 3 คน คือตน คนขับรถ และไกด์ ชาวบูร์กินาฟาโซ ระหว่างเดินทางตนหลับ แต่ยังไม่ทันจะถึงจุดเช็กพอยต์ข้ามพรมแดน ก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงปืน เห็นกลุ่มคนมาล้อม มีอาวุธปืน พอหนีจากกลุ่มแรกมาได้ ก็มาเจอกลุ่มที่สอง ซึ่งล้อมพวกตนไว้ แล้วกรูขึ้นมาบนรถ 5-6 คน จับมัดมือไพล่หลัง เอาผ้าปิดตา แล้วขับรถพาตัวไปไว้ในป่า
ตอนนั้นเขาบอกว่า เขาขอตรวจสอบว่าตนใช่คนที่พวกเขาตามหาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยตัวไป ตนยังใจชื้นคิดว่าไม่นานก็คงถูกปล่อยตัว แต่สุดท้ายเขาก็พาตนย้ายที่ไปหาหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง นั่งมอเตอร์ไซค์ผ่านป่า ผ่านไร่ ผ่านภูเขา ประมาณ 8 ชั่วโมง เส้นทางลึกและซับซ้อน จนตนจำเส้นทางไม่ได้ ไปถึงที่หมายประมาณตี 3
ภาพจาก โหนกระแส
ถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
ตลอดเวลาที่ถูกจับกุม กลุ่มคนร้ายไม่ได้พูดจากระโชกโฮกฮาก ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ตนสื่อสารโดยพูดภาษาอังกฤษกับไกด์ แล้วไกด์จะไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสคุยกับคนร้ายอีกที ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเจอชะตากรรมอะไรบ้าง เป็นห่วงคุณแม่เลยตัดสินใจหนีออกมาช่วงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น พอหนีออกมาได้ไกล จนช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ ตนไปขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น แต่สุดท้ายเขาเป็นพวกเดียวกันหมด เขาก็เลยโทร. ตามคนมาจับตัวกลับไป แล้วถูกล่ามตรวนข้อเท้า ใส่กุญแจมือ ตนไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน ต้องการอะไร เขาพยายามให้ความหวังเราทุกวันว่าถ้าไม่ใช่คนที่ต้องการก็จะปล่อยไป แต่ก็ผ่านไปหลายวันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ภาพจาก โหนกระแส
เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา กุญแจสำคัญที่ช่วยเหลือสำเร็จ
โดยเฟร้นช์ฟราย ผู้ประกาศข่าวสาว และแฟนสาวของหมอสอง เล่าว่า ขาดการติดต่อกับหมอสอง หายไปเลยแบบไร้ร่องรอย 1 วัน ทั้งที่ปกติเขาจะติดต่อมาตลอด จนถึงเวลาที่เขาต้องบินต่อไปอีกประเทศ ก็ยังไม่ติดต่อมาจึงมั่นใจว่ามีเรื่องผิดปกติแน่ ๆ จนไปเช็กว่ามีชื่อเขาขึ้นเครื่องบินไปต่อประเทศต่อไปหรือไม่ ก็ไม่มี ตอนนั้นคิดว่าเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุ จึงติดต่อบริษัททัวร์ให้ช่วยตามหา ตลอดเวลา 20 กว่าวันทรมานมาก พยายามหาข้อมูล ตรวจสอบทั้งเรื่องอุบัติเหตุ ข้อมูลการรักษาตัวในโรงพยาบาล การเช็กอินโรงแรม ก็ไม่พบข้อมูลเลย มีการแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ แต่ก็เหมือนคลำทางในความมืด เพราะเราไม่รู้อะไรเลยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
จนกระทั่งวันที่ 18 ตุลาคม เข้าสัปดาห์ที่ 3 ที่หมอสองหายไป มีโทรศัพท์เข้ามากลางดึก เป็นหมอสองที่ติดต่อมา ซึ่งหมอพยายามเจรจากับคนร้ายมาตลอดหลายวัน จนเขายอมให้โทรศัพท์ติดต่อญาติ จึงตัดสินใจโทร. ขอเบอร์เฟร้นช์ฟรายจากคุณแม่ แล้วให้เฟร้นช์ฟรายเป็นคนช่วยประสานงาน เจรจาต่อรองกับกลุ่มคนร้าย นัดหมายเรื่องการส่งตัวกลับ ซึ่งคนร้ายเรียกเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งขอไม่เปิดเผยว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ จนมีการประสานงานจ่ายเงินค่าไถ่ แล้วได้ส่งตัวหมอสองกลับมาในที่สุด
ภาพจาก โหนกระแส
สาเหตุที่ต้องเก็บเรื่อง หมอสอง ถูกลักพาตัว เป็นความลับ
เฟร้นช์ฟราย เผยว่าความยากลำบากหนึ่งคือต้องเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ถ้าเกิดเรื่องเป็นข่าวดัง คนร้ายรู้ว่าหมอสองมีชื่อเสียง ก็อาจจะไม่ได้กลับมา หรืออาจจะถูกจับตัวไว้นานกว่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้เฟร้นช์ฟรายสามารถรับมือ และแก้ปัญหาต่าง ๆ จนผ่านไปได้ด้วยดี
หมอสอง ยังบอกว่า หลังกลับมาต้องขอกราบขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ หน่วยงานที่ช่วยประสานงาน ช่วยเหลือให้กลับมาได้อย่างปลอดภัย ตอนอยู่ในนั้นทุกข์ทรมานมาก กว่าจะผ่านแต่ละวันไปยาวนาน ต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิให้ใจสงบ เพราะคิดว่าอาจจะถูกยิงตายเมื่อไหร่ก็ได้ การลักพาตัวเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอมันเกิดขึ้นแล้วถึงได้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวประเทศหลายประเทศควรจะหลีกเลี่ยงด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้อย่างหนึ่ง คือทุกลมหายใจที่ยังมีชีวิตมันมีค่า ควรรักและทำดีกับครอบครัว คนใกล้ตัว ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์แบบตนถึงจะเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส