สมศักดิ์ ยอมรับเจ้าของผับลับนักท่องเที่ยวจีน ที่ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยาเสพติด บริจาค 3 ล้าน ให้พลังประชารัฐจริง ยันเงินเข้าตามตรอกออกตามประตู ถามคนในพรรคแล้ว ไม่มีใครสนิท
![พปชร. รับแล้ว ! เจ้าของผับลับนักเที่ยวจีน]( "พปชร. รับแล้ว ! เจ้าของผับลับนักเที่ยวจีน")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 27 ตุลาคม 2565 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยอมรับว่า กระแสข่าวว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีน เชื่อมโยงกับผับดังย่านยานาวาที่ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยา มีชื่อบริจาคเงินให้พรรค พปชร. นั้น จากการตรวจสอบพบนายชัยณัฐร์ บริจาคให้พรรค 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่บุคคลจะบริจาคเงินให้กับพรรค ทางพรรคก็ไม่สามารถที่จะรู้รายละเอียดส่วนลึกของแต่ละบุคคล เพราะตรวจดูว่าเงินมาในรูปแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งถูกต้องครบถ้วน ส่วนเป็นบุคคลไหนอย่างไร พรรคไม่มีเวลาไปตรวจสอบ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสินบนทางการเมือง เนื่องจากหลังจากนั้นนายชัยณัฐร์ ได้รับสัญชาติ และมีกิจการในประเทศไทย ทั้งที่เป็นคนจีนนั้น ถ้าหากว่าไม่ได้เข้าบัญชีอย่างถูกต้องตามระเบียบ ค่อยคิดว่าจะเป็นอะไรอย่างไร แต่เงินนี้เข้าตามตรอกออกตามประตู พร้อมกับยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้รู้จักกับนายชัยณัฐร์เป็นการส่วนตัวแน่นอน ถ้ามีก็ถูกยุบพรรค เมื่อมีข่าวเราก็ตรวจสอบ สอบถามสมาชิกพรรคไม่มีใครสนิทเป็นพิเศษ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 27 ตุลาคม 2565 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยอมรับว่า กระแสข่าวว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีน เชื่อมโยงกับผับดังย่านยานาวาที่ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยา มีชื่อบริจาคเงินให้พรรค พปชร. นั้น จากการตรวจสอบพบนายชัยณัฐร์ บริจาคให้พรรค 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่บุคคลจะบริจาคเงินให้กับพรรค ทางพรรคก็ไม่สามารถที่จะรู้รายละเอียดส่วนลึกของแต่ละบุคคล เพราะตรวจดูว่าเงินมาในรูปแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งถูกต้องครบถ้วน ส่วนเป็นบุคคลไหนอย่างไร พรรคไม่มีเวลาไปตรวจสอบ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสินบนทางการเมือง เนื่องจากหลังจากนั้นนายชัยณัฐร์ ได้รับสัญชาติ และมีกิจการในประเทศไทย ทั้งที่เป็นคนจีนนั้น ถ้าหากว่าไม่ได้เข้าบัญชีอย่างถูกต้องตามระเบียบ ค่อยคิดว่าจะเป็นอะไรอย่างไร แต่เงินนี้เข้าตามตรอกออกตามประตู พร้อมกับยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้รู้จักกับนายชัยณัฐร์เป็นการส่วนตัวแน่นอน ถ้ามีก็ถูกยุบพรรค เมื่อมีข่าวเราก็ตรวจสอบ สอบถามสมาชิกพรรคไม่มีใครสนิทเป็นพิเศษ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
