ผัวโลกสลาย ลูกโทร. มาฟ้อง มีลุงมานอนกับแม่ที่บ้าน ก่อนจับชู้ได้คาห้องนอน ช็อกยิ่งกว่าหลังได้รู้ ลุงที่ลูกบอก แท้จริงเป็นผู้หญิง แถมภรรยายังไร้สำนึก
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์ Liberty Times Net รายงานว่า นักธุรกิจชายชาวไต้หวัน เพิ่งจะฟ้องหย่ากับภรรยา หลังจากลูกชายคนเล็กวิดีโอคอลมาฟ้องว่า "มีลุงมานอนกับแม่ที่บ้าน" นำไปสู่การเก็บหลักฐานกระทั่งจับชู้ได้คาหนังคาเขา และที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ ลุงคนที่ว่านั้น แท้จริงเป็นผู้หญิง
รายงานเผยว่า นับตั้งแต่ชายคนนี้แต่งงานกับภรรยา ก็มีลูกชายด้วยกัน เนื่องจากเขาต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศจีน และยังมีแม่ที่แก่ชราให้ดูแล เขาจึงรับแม่มาอาศัยอยู่ที่บ้านร่วมกับภรรยาและลูก ทั้งยังหมั่นส่งเงินมาให้ครอบครัวใช้จ่าย เดือนละ 80,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 94,000 บาท) ไม่มีขาด
ชายคนนี้เชื่อว่าตัวเองทำหน้าที่ดูแลครอบครัวอย่างดี ทั้งยังติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องนอนแม่ กับห้องนั่งเล่นที่บ้าน เพื่อให้ตัวเองสามารถดูแลความเรียบร้อยในบ้านได้จากต่างเมือง แต่เขาไม่คิดเลยว่าในเดือนตุลาคม 2564 จู่ ๆ ลูกชายคนเล็กก็วิดีโอคอลมาหาเขา และเผยว่า "มีลุงมานอนกับแม่ที่บ้าน"
ฝ่ายสามีเผยว่า หลังจากนั้นเขาก็กลับไปเช็กภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าภรรยาของเขาพาชู้รักเข้ามาในบ้านจริง โดยทั้งคู่ทั้งกอดและจูบกันในห้องนั่งเล่น แถมยังมีเสียงสนทนาของทั้งคู่ดังเข้ามาในกล้อง โดยมีการคุยเรื่องเซ็กส์ แถมทั้งคู่ยังเรียกแทนกันและกันว่า สามี กับภรรยา อีกต่างหาก และพบว่า 2 คนนี้เคยพากันไปม่านรูดด้วย
ด้วยความเจ็บช้ำ สามีจึงแอบเดินทางกลับมาไต้หวัน ก่อนจะจับได้คาหนังคาเขาขณะภรรยากับชู้รักนอนอยู่ในห้องเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งรู้ความจริงในตอนนั้นเองว่า "คุณลุง" ที่ลูกชายบอก แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง
ส่วนเรื่องที่สามีอ้างว่าพวกเธอกอดจูบกันนั้น ฝ่ายภรรยาอ้างว่าเป็นแค่มุกตลกระหว่างเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกัน ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนคนนี้ และไม่ได้ทำอะไรที่ละเมิดสิทธิคู่สมรสของสามีด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษามองว่าความรักระหว่างเพศเดียวกัน ก็นับว่าละเมิดสิทธิคู่สมรสเช่นกัน อีกทั้งจากเงื่อนไขทางสังคมในขณะนี้ คำพูดกับการกระทำระหว่างฝ่ายภรรยากับหญิงอีกคน เห็นได้ชัดว่าเป็นพฤติกรรมที่เกินเลยขอบเขตของเพื่อนเพศเดียวกันทั่ว ๆ ไป ดังนั้นสุดท้ายศาลจึงตัดสินให้ฝ่ายภรรยา กับชู้รักที่เป็นผู้หญิง จ่ายเงินค่าชดเชยแก่สามี เป็นจำนวน 200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 236,000 บาท) โดยสามารถอุทธรณ์ได้
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Liberty Times Net, mirror media