พลเมืองดีโร่แจ้งความ ปมเจอเงิน 70,000 บนแท็กซี่หวังส่งคืนเจ้าของ แอบสืบต่อจนรู้ว่าคนขับส่งคนสวมรอยหวังเก็บไว้เอง ซ้ำขอให้ช่วยโกหก ก่อนอ้างตำรวจไม่รับฝากเงิน
จากเรื่องราวดี ๆ ของพลเมืองดีซึ่งเก็บเงินได้บนรถแท็กซี่ เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท โดยได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมประสานตามหาเจ้าของเงินต่อไปนั้น
อย่างไรก็ดี วันที่ 31 ตุลาคม 2565
ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พลเมืองดีรายดังกล่าว เดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพราะหลังจากพบกระเป๋าเงิน เนื่องจากคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินไปคืนเจ้าของตัวจริง แต่กลับให้คนสวมรอยมารับเงินดังกล่าวแทน
พลเมืองดีเล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ตุลาคม ตนเรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ ให้มารับที่บ้านย่านซอยเปรมฤทัย ถนนเทพารักษ์ ไปส่งที่แยกการไฟฟ้า ถนนศรีนครินทร์ ระหว่างนั่งอยู่บนรถเจอกระเป๋าสตางค์ที่เบาะหลัง เปิดดูพบแบงก์ 1,000 จำนวนมาก นับได้ราว 70,000 บาท สอบถามคนขับแท็กซี่บอกว่าน่าจะเป็นของผู้โดยสารคนก่อนหน้า จึงฝากให้คนขับนำเงินไปคืนเจ้าของ เพราะคนขับบอกว่ามีข้อมูลของผู้โดยสารคนดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเรียกผ่านแอปฯ เช่นเดียวกัน ตนก็มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะแบบนั้นคนขับน่าจะได้รับทิปจากเจ้าของด้วย จึงโพสต์ไว้เป็นหลักฐาน จนเจอดราม่าด้วยซ้ำว่าเป็นการสร้างคอนเทนต์
ต่อมา ได้คุยกับคอลเซ็นเตอร์แอปฯ แท็กซี่ ทราบว่าคนขับแจ้งศูนย์มาว่าคืนเงินให้เจ้าของแล้วช่วง 09.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม ตนจึงขอเบอร์โทร. ของหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ แต่พอได้คุยกันอีกฝ่ายอ้างว่าจะไปรับเงินคืนในช่วงเย็น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับที่แท็กซี่แจ้งไว้ ตนจึงขอว่าหากสะดวกใจก็ต้องไปรับมอบเงินกันต่อหน้าตำรวจ แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่สะดวก ระหว่างนั้น คนขับแท็กซี่โทร. มาแจ้งตนว่า หญิงที่มารับเงินเป็นเพื่อน ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง และยังขอให้ตนโกหกศูนย์ด้วยว่าคนขับมอบเงินคืนเจ้าของไปแล้ว แต่ตนไม่ยอมเล่นด้วย จึงลงบันทึกประจำวันไว้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ระหว่างที่ พลเมืองดีกำลังลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ คนขับแท็กซี่โทร. มาแจ้งว่านำเงินทั้งหมดไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ พร้อมมอบเงินให้ตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของแล้ว และอยู่ระหว่างเดินทางมาเจอกับพลเมืองดีรายนี้ แต่ผ่านไปเป็นชั่วโมงก็ยังไม่เจอตัวคนขับ ขณะเดียวกันยังทราบว่าคนขับยังเก็บเงินไว้กับตัว อ้างว่าตำรวจไม่ยอมรับเงินไว้ เบื้องต้นยังไม่มีคนแจ้งเงินหายที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ อาจเป็นไปได้ว่าเจ้าของอาจแจ้งไว้ที่อื่น ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ได้ทราบว่าเงินทั้งหมดยังอยู่กับคนขับแท็กซี่ และย้ำว่าตนไม่ได้สร้างคอนเทนต์แต่อย่างใดขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวช่อง 3
