คืบหน้าคดี อาม่าฮวย ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกลูกสาว 12 ปี ไม่รอลงอาญา เซ่นปมยักยอกเงินแม่ 24.7 ล้าน
จากกรณี อาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ ได้ฟ้องร้องนางมาวดี ลูกสาว ในประเด็นแอบถอนเงิน 24.7 ล้านออกไปจากบัญชี โดยขณะนั้นลูกสาวทำหน้าที่ดูแลอาม่าฮวย ซึ่งกำลังป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล
คดีนี้เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนางมาวดี ข้อหาลักทรัพย์ จำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา โดยระบุว่า การกระทำความผิดของจำเลยเป็นการกระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุพการี โดยใช้โอกาสที่จำเลยเป็นผู้ดูแลระหว่างโจทก์เจ็บป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อีกทั้งเงินที่จำเลยลักไปเป็นเงินจำนวนสูงมาก นับเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ก็ไม่เป็นเหตุให้รอการลงโทษ โดยคดีนี้จำเลยทำการยื่นอุทธรณ์
ล่าสุด (1 พฤศจิกายน 2565) สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของอาม่าฮวย เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกบุตรสาวอาม่าฮวยรวม 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ศาลให้เหตุผลว่า จำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์ พาโจทก์ไปเบิกเงินยังธนาคารต่าง ๆ โดยที่โจทก์ไม่ยินยอม ทั้งการซื้อกองทุนในนามจำเลย ซื้อประกันชีวิตในนามจำเลย และนำเงินเข้าบัญชีในนามของจำเลยเอง การยักย้ายถ่ายโอนเงินของโจทก์เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทุจริต อีกทั้งผิดวิสัยของผู้เป็นบุตรผู้พึงกตัญญูรู้คุณมารดา แต่กลับลักเอาเงินของโจทก์ซึ่งเป็นมารดาไปโดยทุจริต จำเลยนำเงินบางส่วนไปลงทุนในกิจการรีสอร์ตของจำเลย ตามภาพถ่ายการก่อสร้างทั้งตั้งรีสอร์ต และสำเนาโฉนดที่ดิน
นอกจากนี้ ยังมีคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ โดยมีอาม่าฮวยเป็นโจทก์ร่วม ฟ้องบุตรกับพวก รวม 5 คนเป็นจำเลย ถูกกล่าวหาว่าลักเงินไปจากธนาคารกสิกรไทยกว่า 200 ล้านบาทนั้น ศาลอาญาพระโขนงนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น.