รวบตัว กู๋เอี๋ยว เจ้าของผับ คลับวัน พัทยา
ที่แท้คือนายทุนจีน สวมบัตรประชาชนคนตายนานกว่า 30 ปี
ก่อนเรื่องแดงเพราะเบ่งรู้จักคนโต ลั่นจ่ายส่วยตลอด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณี เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันจังหวัดชลบุรี พร้อมตำรวจภาค 2 ตำรวจจังหวัดชลบุรี และ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสถานบันเทิง คลับวัน ย่านถนนเพ็ชรตระกูล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ปรากฏว่ามีการปะทะคารมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับ นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือ กู๋เอี๋ยว เจ้าของผับ โดยข้องใจว่าทำไมจึงถูกจับ เพราะได้จ่ายเงินให้หน่วยงานรวมถึงผู้ใหญ่ไปแล้ว ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คน พากันแตกฮือ ไม่ให้ตรวจปัสสาวะ แถมวิ่งหนีการจับกุม ซึ่งวันต่อมา กู๋เอี่ยว ออกมาขอโทษถึงประโยคดังกล่าว อ้างว่าตัวเองอยู่ในอาการมึนเมา ส่วนผับนั้นส่อถูกปิด 5 ปี หลังพบว่าผับเคยถูกสั่งปิดแล้วหลายครั้ง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ข่าวช่องวันรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายจับเข้าจับกุม กู๋เอี๋ยว หลังพบว่าเป็นคนต่างด้าวไม่ทราบสัญชาติ เชื้อชาติจีน ถือบัตรประชาชนไทย ออกโดยที่ว่าการทำอำเภอบางละมุง โดยจับกุมได้ที่หน้าศาลจังหวัดพัทยา ระหว่างที่เจ้าตัวเพิ่งออกจากการพิจารณาคดีเก่า คือ ร่วมกันครอบครองเคตามีนไว้ขาย และความผิดฐานสมคบกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด โดยตำรวจได้แสดงหมายจับ พร้อมควบคุมตัวไป สภ.เมืองพัทยา ทันที โดยกู๋เอี๋ยวมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นอกจากนี้ ตำรวจแบ่งกำลังเข้าทำการตรวจค้น 11 จุดพร้อมกันทั่วเมืองพัทยา และในท้องที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อหาหลักฐานสำคัญ เพื่อพิสูจน์ทราบและหาจุดเชื่อมโยงต่าง ๆ หลังพบว่า กู๋เอี๋ยว มีส่วนเกี่ยวข้องกับผับคนจีนชื่อดัง ท็อปวัน ในการส่งลูกค้าไปใช้บริการหลังผับคลับวัน ถูกปิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ล่าสุด (2 พฤศจิกายน 2565) รายการข่าว 3 มิติ ช่อง 3 รายงานว่า นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากตำรวจชุดจับกุมว่ากู๋เอี่ยว สวมสิทธิบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต โดยพบข้อมูลว่าได้ไปแจ้งเกิดที่คลินิกแพทย์แห่งหนึ่งใน จ.ตราด ก่อนจะแจ้งทำบัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักทะเบียนเทศบาลเมืองตราด และจากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ที่สวมสิทธิบัตรผู้เสียชีวิตมีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 ในยุคที่นายสมพร บุญเสริม เป็นนายอำเภอเมืองตราด ซึ่งผ่านมา 30 ปีแล้ว