ลูกโวย พ่อโดนสวมสิทธิ์สอบครู รู้ตัวตอนอายุ 60 ปี เหตุถูกเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ เพราะเลขบัตรประชาชนขึ้นเป็นข้าราชการ ท้อใจตามเรื่องมา 2 ปี จนคนสวมรอยเสียชีวิตไปแล้ว แต่พ่อยังไม่ได้รับสิทธิ์คืน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Paek Pim
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Paek Pim ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เป็นพ่อ หลังพ่อของเธอถูกครูท่านหนึ่งสวมสิทธิ์ นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักของพ่อไปศึกษาเล่าเรียนจนสอบบรรจุเป็นครูได้และใช้ชื่อว่า ครูปรีชา มหาวงค์ ซึ่งพ่อของเธอไม่เคยรู้เรื่องว่าตัวเองถูกสวมสิทธิ์มานานแล้ว จนอายุ 60 ปี !
โดยเธอ เล่าว่า เมื่อพ่ออายุ 60 ปี จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ได้มาประมาณ 4-5 เดือนก็ถูก "เรียกคืน" เนื่องจากเลขบัตรประชาชนของพ่อดันขึ้นว่าเป็นข้าราชการ จึงไม่สามารถรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ แต่ความเป็นจริงพ่อไม่ได้มีการรับข้าราชการแต่อย่างใด
อีกทั้งยังมีจดหมายเรียกเก็บภาษีมาที่บ้าน จึงได้เข้าแจ้งความ ร้องศูนย์ดำรงธรรม และได้มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าตรวจสอบครูท่านนั้น ก็พบว่าครูสวมสิทธิ์พ่อจริง เลยโดนโทษกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Paek Pim
ลูกสาวท้อใจ ติดตามเรื่องนี้มาตลอด 2 ปี จนกระทั่งครูปรีชาตาย พ่อก็ยังไม่ได้สิทธิ์คืน
ลูกสาว เผยว่า ไปสำนักงานไหนก็บอกให้รอ ไปฝ่ายทะเบียนราษฎรที่อำเภอก็ถูกปฏิเสธ จนตอนนี้ก็รอและติดตามเรื่องนี้มาจะ 2 ปีแล้ว รอจนกระทั่งครูปรีชาได้เสียชีวิต (ขอแสดงความเสียใจ) แต่ทุกวันนี้พ่อก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์คืน สิทธิ์ที่ตนเองจะได้ สิทธิต่าง ๆ ที่รัฐบาลให้ก็ถูกตัดสิทธิ์ สิทธิที่ประชาชนคนหนึ่งจะได้ก็กลับไม่ได้
หรือจะต้องรอให้พ่อตายไปอีกคน เรื่องนี้ถึงจะจบ !?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Paek Pim
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Paek Pim ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เป็นพ่อ หลังพ่อของเธอถูกครูท่านหนึ่งสวมสิทธิ์ นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักของพ่อไปศึกษาเล่าเรียนจนสอบบรรจุเป็นครูได้และใช้ชื่อว่า ครูปรีชา มหาวงค์ ซึ่งพ่อของเธอไม่เคยรู้เรื่องว่าตัวเองถูกสวมสิทธิ์มานานแล้ว จนอายุ 60 ปี !
โดยเธอ เล่าว่า เมื่อพ่ออายุ 60 ปี จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ได้มาประมาณ 4-5 เดือนก็ถูก "เรียกคืน" เนื่องจากเลขบัตรประชาชนของพ่อดันขึ้นว่าเป็นข้าราชการ จึงไม่สามารถรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ แต่ความเป็นจริงพ่อไม่ได้มีการรับข้าราชการแต่อย่างใด
อีกทั้งยังมีจดหมายเรียกเก็บภาษีมาที่บ้าน จึงได้เข้าแจ้งความ ร้องศูนย์ดำรงธรรม และได้มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าตรวจสอบครูท่านนั้น ก็พบว่าครูสวมสิทธิ์พ่อจริง เลยโดนโทษกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Paek Pim
ลูกสาวท้อใจ ติดตามเรื่องนี้มาตลอด 2 ปี จนกระทั่งครูปรีชาตาย พ่อก็ยังไม่ได้สิทธิ์คืน
ลูกสาว เผยว่า ไปสำนักงานไหนก็บอกให้รอ ไปฝ่ายทะเบียนราษฎรที่อำเภอก็ถูกปฏิเสธ จนตอนนี้ก็รอและติดตามเรื่องนี้มาจะ 2 ปีแล้ว รอจนกระทั่งครูปรีชาได้เสียชีวิต (ขอแสดงความเสียใจ) แต่ทุกวันนี้พ่อก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์คืน สิทธิ์ที่ตนเองจะได้ สิทธิต่าง ๆ ที่รัฐบาลให้ก็ถูกตัดสิทธิ์ สิทธิที่ประชาชนคนหนึ่งจะได้ก็กลับไม่ได้
หรือจะต้องรอให้พ่อตายไปอีกคน เรื่องนี้ถึงจะจบ !?