ช่างแอร์สุดทนโดนสั่งให้โกงลูกค้า ยกเคสล้างแอร์ 3 ตัว แต่คิดเงิน 1.3 หมื่น แฉปุ๊บเจอขู่ฟ้องกลับ ด้านเจ้าของร้านโต้ เชื่อถูกใส่ร้ายเพราะโกรธเคือง ล่าสุดผู้เสียหายจ่อเอาผิดร้าน
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สายไหมต้องรอด เตือนภัยคนที่จะล้างแอร์ กรณีเจอเคสที่ร้านซ่อมแอร์แห่งหนึ่ง คิดเงินโกงลูกค้าในราคาสูงผิดปกติ ยกตัวบิลจากเคสที่ลูกค้าให้ไปล้างแอร์ จำนวน 3 ตัวราคา 1,900 บาท แต่ทางร้านให้ลูกจ้างเติมน้ำยาแอร์ และ ให้ซ่อมเซ็นเซอร์แอร์เพิ่มเติม รวมราคาทั้งสิ้น 13,575 บาท ทั้งที่น้ำยาแอร์ไม่ได้หมดและไม่มีอะไรเสียแต่อย่างใด
ช่างแฉหมดเปลือก ร้านสั่งให้โกงลูกค้า เหลี่ยมทุกเม็ดได้ทุกดอก ยอมโดนไล่ออกเพราะทนโกงไม่ไหว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 สอบถามอดีตช่างแอร์จากร้านดังกล่าว เปิดใจว่า ตนรู้สึกรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าของร้านที่กดดันให้ช่างไปโกงลูกค้า โดยตั้งแต่สมัครงานถูกถามตรง ๆ เลยว่า โกงล้างแอร์เป็นไหม หากไม่เป็นจะได้สอนวิธีให้ โดยบอกช่างว่าทำงานที่นี่ต้องโกงลูกค้าทุกบ้าน อย่างเช่นการโกงค่าเติมน้ำยาแอร์ ให้ได้ครั้งละ 70 ปอนด์เป็นอย่างน้อย ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ แต่ด้วยตอนนั้นไม่มีงานจึงยอมทำ โดยขอต่อรองว่าขอลดเหลือโกงแค่ 30 ปอนด์ได้หรือไม่เพราะคิดว่ามันมากไป ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกให้ลองดู
จากนั้นเมื่อไปทำงานจริง เช่นล้างแอร์ให้ลูกค้าที่คอนโดแห่งหนึ่ง ได้แจ้งลูกค้าว่าน้ำยาแอร์ขาดต้องเติม และมีอะไหล่บางตัวเสียหาย ทั้งที่ความเป็นจริงน้ำยาแอร์ไม่ได้หมด และไม่มีอะไหล่เสียหาย แต่ก็ต้องโกงลูกค้าไปตามที่เจ้าของร้านบอก ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งจะอยู่ในหลักพันทุกครั้ง ทั้งที่ความจริงอยู่เพียงแต่หลักร้อยบาทเท่านั้น
เคสสุดท้ายที่ไปล้างแอร์ บ้านหลังดังกล่าวเพิ่งจะล้างแอร์ไป เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ร้านให้โกงค่าล้างแอร์ไปกว่า 3 พันบาท ตนไม่อยากทำจึงคิดเงินแค่ 500 บาทตามราคาปกติ แต่เจ้าของร้านไม่พอใจและต่อว่าใส่ ตนจึงตัดสินใจลาออกทั้งที่ทำงานได้แค่ 5 วัน ก่อนจะนำเรื่องนี้ไปโพสต์เตือนภัยในกลุ่มช่างแอร์ และถูกทางร้านฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงนำเรื่องราวนี้มาร้องเรียน
ร้านโต้ ไม่เคยโกงค่าล้างแอร์ ไม่อยากเอาชื่อเสียงไปเสี่ยง แบบนี้พร้อมฟ้องกลับ
ด้าน ชายวัย 68 ปี เจ้าของร้านซ่อมแอร์ย่านรามคำแหง 24 ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้อดีตลูกจ้างไปโกงลูกค้า ส่วนการทำงานนั้นถ้าล้างแอร์ทั่วไป ลูกจ้างจะได้แค่ค่าแรงตามปกติ แต่หากมีการเปลี่ยนอะไหล่ หรือมีการซ่อมแซม ลูกจ้างจะได้คอมมิชชั่นร้อยละ 10 มองว่าที่อีกฝ่ายออกมาพูดแบบนั้นอาจจะเกิดจากความโกรธเคืองต่อร้าน ยืนยันว่าเมื่อร้านรับงานจะส่งลูกจ้างออกไป ซึ่งร้านจะไม่รู้เลยว่าหน้างานเป็นยังไง หากมีการซ่อมแอร์เพิ่ม ก็จะโทร. มาขอเบิกอะไหล่เท่านั้น ส่วนราคาลูกค้าและลูกจ้างจะเป็นคนตกลงตามหน้างาน ซึ่งร้านก็ขายอะไหล่ในราคาตามทั่วไป
เจ้าของร้านยืนยันว่า ตนเป็นช่างแอร์มาตั้งแต่อายุ 12 ปี และเปิดร้านมาหลาย 10 ปี เจอมาทั้งลูกจ้างที่มีนิสัยไปขโมยทรัพย์สินของลูกค้า เจอลูกจ้างมาหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อพบว่าทำผิดก็ไล่ออกทั้งหมด เพราะไม่อยากเอาชื่อเสียงของร้านไปเสี่ยง อีกทั้งตั้งแต่เปิดร้านมา ยังไม่เคยมีลูกค้าคนไหนตำหนิเรื่องการให้บริการเลย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างรายดังกล่าว
ลูกค้าแฉเพิ่ม ล้างแอร์โดนฟันไป 4,000 พอล้างใหม่ก็บอกน้ำยาแอร์หมดอีก มาดูข่าวถึงรู้
ต่อมา มีผู้เสียหายซึ่งเคยล้างแอร์กับร้านดังกล่าว เล่าว่า เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา แอร์ที่คอนโดไม่เย็น จึงประสานนิติช่วยหาช่างแอร์เข้ามาซ่อม เมื่อได้เบอร์ร้านมาก็โทร. ไปสอบถาม สิ่งที่ผิดสังเกตคือคอนโดของเธออยู่ที่สุขุมวิท 103 แต่ร้านซ่อมแอร์อยู่ที่รามคำแหง ซึ่งไกลกันมาก เมื่อช่างมาถึงก็บอกว่าต้องเปลี่ยนอุปกรณ์แอร์ที่ชำรุด มีค่าล้างแอร์ ค่าเติมน้ำยาแอร์ รวม 4,375 บาท แต่ช่างลดราคาให้เหลือ 4,000 บาท
ถัดมาอีก 2 เดือน แอร์ตัวเดิมเสียอีก ช่างบอกว่าอะไหล่ตัวเดิมเสียและน้ำยาแอร์หมด แต่ในครั้งนี้อะไหล่ยังอยู่ในประกัน จึงมีเฉพาะค่าน้ำยาแอร์ที่ต้องจ่าย จึงโทร. ไปหาเจ้าของร้าน แต่เจ้าของร้านพูดจาไม่ดีว่า "จะจ่ายได้เท่าไหร่" เธอเอะใจว่า ทำไมถึงไม่มีราคามาตรฐาน แต่ตอนนั้นต้องยอมจ่ายไป จนมาทราบข่าวดังกล่าวจึงพบว่าเป็นร้านเดียวกันที่เคยมาซ่อมให้ ยืนยันว่าเตรียมจะแจ้งความทันที
