โหนกระแส เดือดสุด ! แม่-ลูกหลอกญาติสูญ 100 ล้าน แค้นไม่เผาผี แต่จะเหยียบหน้าศพ

 
               มหกรรมโกง แฉ แม่-ลูก หลอกญาติจนหมดตัว เสียหาย 100 ล้าน ญาติแค้นจัดประกาศถ้ารู้ว่ามันตายวัดไหนจะไปเหยียบหน้ามันสักที เอาดินน้ำมันยัดปาก ชาติหน้าจะได้ไม่ไปโกหกหลอกลวงใคร
           จากกรณีแม่ลูกคู่หนึ่งเดินสายขอยืมเงินคนใกล้ตัว ทั้งญาติ เพื่อน ไม่เว้นแม้แต่คนแก่อายุ 88 ปี ยอดความเสียหายรวมเกือบ 100 ล้าน โดยอ้างว่านำเงินไปลงทุน สุดท้ายไม่มีเงินคืน อ้างไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บางรายหมดตัว บางคนสูญ 60 ล้าน รายการ โหนกระแส วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 สัมภาษณ์ แหม่ม คนเลี้ยงดูและเป็นผู้เสียหาย, อ๊อฟ - อ้อ - เฟิร์น ผู้เสียหาย รวมทั้งทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
คนก่อเหตุมี 2 คน คนหนึ่งคือปู เป็นแม่ อีกคนเป็นลูก ชื่อมายด์ ก่อเหตุทั้งคู่ น้าแหม่ม เลี้ยงปู แม่ของมายด์ ?

              แหม่ม : ตั้งแต่เด็กเลี้ยงเขามา เขาก็ไม่มีพฤติกรรมฉ้อโกง ตอนหลังเขามาเรียนอยู่ศรีวัฒนา อยู่กับแม่เขาที่อุดมเดช ก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว เราไม่รู้พฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปยังไง เรียนจบก็ไปต่อหัวเฉียว น้าส่งค่าเทอมให้เขาเรียน จนเทอมสุดท้ายก็ไม่จบ ออกไปแต่งงานกับพ่อมายด์นี่แหละ เขาก็ไม่มีเงิน โทร. มาขอเงินซื้อนมให้ลูกตลอด เราก็ให้บ้าง แล้วก็ด่าด้วย

เราเอ็นดูเพราะเลี้ยงมา ก็ให้ตังค์ไป หลัง ๆ หนักข้อ ?

              แหม่ม : ตอนหลังเขาก็เลิกกับพ่อมายด์ ได้ผัวใหม่ ตอนนี้เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เขาบอกว่าเขาจะไปทำธุรกิจเกี่ยวหัวรถลาก ความละโมบของเราด้วยที่เราอยากได้ น้าแหม่มมีตังค์ไหม ตอนนั้นเราพอมีตังค์อยู่ ให้เงินทีละ 5 หมื่น 2 หมื่น ก็ไม่ได้จดอะไร เขาบอกว่าเดี๋ยวจะตอบแทนให้นะ จะให้ดอก สมมติเอาไป 5 หมื่น อาทิตย์นี้จะให้ดอกน้าแหม่มเลย 3 หมื่น

ให้ยืม 5 หมื่น ให้ดอก 3 หมื่น แล้วได้ไหม ?


หนักข้อที่สุดคือยังไง ?

               แหม่ม : ครั้งหลังสุด เขาบอกรู้จักเต็นท์โน้นเต็นท์นี้ เอาเงินไปดาวน์ให้หน่อย เราก็ให้เงินไปแสนนึง แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้เอาไปดาวน์ให้เราเลย ซื้อแอดเวนเจอร์มา ส่งเดือนละ 1.4 หมื่น แต่เขาโกหกเราว่าเดือนละ 7 พัน ซึ่งถ้า 7 พันเราไหว รถได้มา แต่สัญญาเขาจัดการให้เรา ชื่อเป็นชื่อสามีเรา พออยู่ ๆ มามีสลิปมาว่าเราต้องจ่ายค่างวดกับไฟแนนซ์ปรากฏว่ามันเป็นเดือนละ 1.4 หมื่น ซึ่งเราไม่ไหว แฟนทำงานคนเดียว ลูกก็เรียน 2 คน ยังเล็กอยู่ ตายแล้วจะทำไง ก็ว่าเขาว่าทำไมมันเยอะขนาดนั้น

แสนนั้นสรุปยังไง ?


เบ็ดเสร็จโดนไปเท่าไหร่ ?

              แหม่ม : หลายล้านอยู่ พอไม่มีเงินให้ก็ขายทองไป 70 บาท รถก็ซื้อรถใหม่อีกคัน ฮอนด้า ซีวิค ไม่ได้ขาย ยืมรถไปเที่ยว บอกจะไปเที่ยวเหนือ แต่ปรากฏว่ามันเอารถเราไปจำนำ เขาโทร. มาบอกว่ารถน้าแหม่มเสีย ฉันซ่อมอยู่ในอู่แถวรังสิตนะ ก็ถามว่าอู่อยู่ไหนจะไปดู เขาบอกว่าไม่ต้องหรอก เดี๋ยวจัดการให้  แล้วเขาเอาไปจำนำ 3 แสนกว่า อยู่ ๆ มา ครึ่งเดือนกว่ารถไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นตำรวจหรือใคร มันโทร. มาหาฉันว่าคุณชื่อกิตติพัทธ์ไหม กิตติพัทธ์ชื่อสามี เขาบอกว่ารถจำนำอยู่ที่นี่นะ 3 แสน ดอกเบี้ยอีก 2 หมื่น ฉันก็ตกใจจำนำได้ไง แฟนฉันไม่ได้เซ็น ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาบอกว่าไม่ใช่ รถถูกจำนำ

เบ็ดเสร็จโดนไปเท่าไหร่ ?

              แหม่ม : เยอะมากจนจำไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2547

วันนี้ยังเจอเขาอยู่ไหม ?

              แหม่ม : ไม่เจอ ก็เลิกติดต่อเลย

เขาบอกอยากยืมอีก 5 หมื่น ?

              แหม่ม : บอกตามตรง ตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน ไม่นับญาติ พี่น้องฉันไม่เอาแล้ว

ตายไม่เผา เงาไม่เหยียบ ?

              แหม่ม : ถ้ารู้ว่ามันตายวัดไหนจะไปเหยียบหน้ามันสักที เอาดินน้ำมันปิดตาปิดหูปิดปาก เกิดชาติหน้าฉันใดจะได้ไม่ไปโกหกตอแหลหลอกลวงใคร เราเคยขอร้องเขานะ ปูเอ๊ย เลิกซะทีพฤติกรรมแบบนี้ มึงอย่าทำเลย กูขอร้อง เขาก็เฉยอย่างเดียว
คุณอ๊อฟโดนไปเท่าไหร่ ?

              อ๊อฟ : โดนไปประมาณ 10 ล้าน คุณพ่อโดน โดนทั้งปู ทั้งมายด์ ตอนแรกเขามาผ่านย่ามายด์ เป็นพี่สาวพ่อผม พี่น้องเขารักกัน มายด์ไปหลอกย่าก่อน แล้วมาหลอกพ่อผม ตอนแรกเป็นการยืมปกติ เขาจะอ้างเรื่องไปทำงานที่ญี่ปุ่น ไปดูแลคนแก่ คนแก่รวยมาก คนแก่ตาย แล้วไม่รู้จะเอามรดกให้ใคร รัฐบาลญี่ปุ่นเลยยกมรดกให้ปู เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปให้ใคร เขาอ้างเงินมาในบัญชีแล้ว แต่ว่ายังไม่สามารถเอาออกมาได้ ต้องให้ทนายที่ญี่ปุ่นมาทำเรื่องที่ประเทศไทยก่อน ยืมตังค์ไปจ้างทนาย มันก็เริ่มจากก้อนเล็ก ๆ พอไปเรื่อย ๆ ก็ติดปัญหาโน่นนี่ ตอนแรกเขาใช้วิธียืมโดยใช้ความรักของย่า ไม่มีผลประโยชน์อะไร แต่พอเริ่มเกินหลักแสน เขาก็เริ่มยื่นผลประโยชน์ โชว์บัญชีว่ามีเงินเข้ามา 87 ล้านจริง ๆ

เมื่อ 2 ปีก่อน มี 87 ล้านกว่าบาท เอามาให้คุณดู คุณกับพ่อเห็นแล้วยังไงต่อ ?

              อ๊อฟ : ผมยังไม่เห็น คุณพ่อเขารู้เรื่องอยู่คนเดียว พอยอดที่เขายืมเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ พ่อก็ไม่อยากให้ แต่เขาเริ่มยื่นข้อเสนอว่าให้ฉันยืมเท่านี้นะ เดี๋ยวฉันทำสัญญาเงินกู้ แล้วฉันจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ จากนั้นคุณพ่อก็ให้ยืม พอเงินสดเริ่มหมดก็มีวิธีการพูดให้เอาทรัพย์สินไปจำนำ จำนอง เงินสดน่าจะ 4 ล้าน เป็นค่าจ้างทนาย บางทีก็ไปติดหนี้คนอื่นโดนยึดสมุดบัญชี โดนยึดบัตรประชาชน ไปทำเรื่องที่ธนาคาร ก็ยืมไปเรื่อย สุดท้ายให้พ่อขายของ เอาที่ไปขายฝาก ประมาณ 5 ล้าน ที่หลายแปลง เบ็ดเสร็จยอดที่ฟ้องในคดี 7.5 ล้าน ที่พอจะมีหลักฐานเอาผิดได้
เพราะคุณไปเห็น 87 ล้านนี่แหละก็เลยมั่นใจฟ้องเรียบร้อย แล้วป้าโดนอะไร ?

              อ้อ : เป็นเพื่อนกับสามีคนใหม่ของเขา โดน 5 ล้านกว่า ทำนองเดียวกัน เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วบอกว่ามีเงินฝากธนาคาร โดนอายัดให้ช่วยด้วย แต่ไม่ใช่ 87 ล้าน มีอีกใบหนึ่ง ซึ่งเราไม่มีหลักฐาน เพราะ 10 กว่าปีแล้ว เราโดนแบบนี้เรื่อย ๆ ทยอยให้ช่วย

              ทนายแก้ว : ตอนนั้นของป้าโชว์ในบัญชีเท่าไหร่

              อ้อ : 10 ล้าน จากสมุดบัญชีเขาเลยนะ

เฟิร์นโดนเท่าไหร่ เป็นเพื่อนกับมายด์ ?

              เฟิร์น : 6 ล้านค่ะ โดนทั้งมายด์ทั้งปูค่ะ

ลุงแก้วอายุ 88 ปี โดนคุณปูไปยืมเงิน เหมือนกันเลย มีเงินอยู่ในบัญชีแบบนี้ ลุงเสียไป 10 กว่าล้าน ที่ 3 ไร่ ทองคำต่าง ๆ นานา แล้วมีป้าโดนอีก เบ็ดเสร็จรวม ๆ น่าจะกี่ล้าน ?


เฟิร์นโดนอะไรบ้าง ?

              เฟิร์น : ของหนูโดนตอนแรกยืมไปโอนที่ดินก่อน มายด์เป็นคนยืม มายด์อายุ 24 เรียนมากับหนู ด้วยความไว้ใจ ไม่คิดว่าเพื่อนจะหลอก ให้เพื่อนยืมไปก้อนแรก ไม่ได้บอกแม่ด้วย เป็นเงินบริษัท หนูก็ไปโอนเองเลย เขายืม 3 หมื่น ทีนี้พอโอนไปแล้วก็ติดปัญหาเหมือนเดิม ไปโอนที่ไม่สำเร็จ แต่ส่งสมุดบัญชีมาให้ดูว่ามีเงินในบัญชีแล้ว 3 ล้าน เขาเหมือนไม่มีค่าธรรมเนียมโอน ก็เลยมายืมหนู พอยืมเสร็จก็เอาสมุดบัญชีมาโชว์ว่ามีเงิน 3 ล้าน ทีนี้ติดปัญหาเจ้าหนี้เจ้าอื่นอายัดบัญชีเล่มนี้ เลยเบิกเงินคืนหนูไม่ได้ เขาบอกติดอยู่แค่นี้ พรุ่งนี้ก็เบิกได้แล้ว ขอยืมอีก 3 หมื่น 5 หมื่น ยืมเรื่อย ๆ

              หนูก็กลัวแม่จะรู้ อยากได้คืนไว ๆ ก็โอนไปช่วยอีก เพราะหนูก็เห็นว่าเงินในบัญชีมีจริง แค่เบิกไม่ได้ แล้วติดปัญหาอีก แม่เขาเอาสมุดบัญชีไปกู้เงินกับคนอื่น ก็เบิกไม่ได้อีก เขาจะอ้างไปเรื่อย ๆ แล้วมีตัวละครพิมพ์มาหาหนูว่าเป็นเจ้าหนี้จริง ๆ ติดอยู่แสนนึง ให้หนูเอาเงินมาคืน เพื่อที่เขาจะได้เบิกเงินมาคืนหนู ล่าสุดเขาบอกมีที่อีกแปลงหนึ่ง ไปเอาโฉนดมา เพิ่งมารู้ความจริงว่าเป็นที่ของพ่อพี่อ๊อฟ

เอาโฉนดพ่อคุณอ๊อฟเหรอ ?

              อ๊อฟ : ใช่ เขาใช้เอกสารสลับไปสลับมา


เบ็ดเสร็จให้เขาไปเท่าไหร่ ?

              เฟิร์น : ยอดที่หนูฟ้อง 4.5 ล้าน ให้หนัก ๆ เป็นแสน 4 แสนหนูก็โอน รวม ๆ แล้ว 4.5 ล้าน เขาไปจ้างเจ้าหน้าที่ธนาคารปลอมมาคุยกับหนูว่าถ้าอยากได้เงินปลดอายัดธนาคารกรุงเทพไว้ให้ไปยัดใต้โต๊ะ มีคนมาคุยกับหนู เขาโทร. มา พอไปฟ้องแล้วสืบเรื่อย ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธนาคาร เป็นเด็ก 18 แล้วมีจดหมายจากธนาคารกรุงเทพส่งมา มันเป็นเอกสารที่บอกว่าบัญชีนี้จะปลดอายัดได้วันที่ 18 ซึ่งเขาน่าจะทำมาเอง หนูมาเช็กทีหลัง ไปเอาลายเซ็นมงคลในเน็ตมาใส่ หนูไปหาในเน็ตว่าเป็นลายเซ็นใคร เขาก็เอามาใส่ธนาคารกรุงเทพ และปลอมมาให้ดู บางทีก็ส่งตั๋วเครื่องบินมา บอกว่าบินไปจำนองที่ ก่อนหนูมารู้ความจริง เขาส่งไลน์ไปหาแม่ว่าเขาโดนจับตัวไป โดนขังที่ห้องมืด โดนเรียกค่าไถ่ เพราะติดหนี้เงินกู้นอกระบบ

เราแจ้งความเรียบร้อย ?

              เฟิร์น : หนูฟ้องเลยค่ะ เขาก็นัดคืนแต่ไม่มาเคลียร์ ล่าสุดให้หนูไปยืมเงินเพื่อน บอกจะนัดคืนเพื่อน ตั้งแต่วันที่ 2 แล้วเลื่อนมาเรื่อย ๆ ยอดใหม่ล่าสุดของหนูกับเพื่อนที่โอนไปล่าสุดก็ 1.3 ล้าน

เราก็เสียรู้ไปเรื่อย ๆ ทำไมยังโอนเงินให้อีก ?


รู้จักไหม ?

              แหม่ม : รู้จัก เป็นเหมือนดอง

              เฟิร์น : เขาบอกเขาไม่โกงหรอก ถ้าเขาโกงเอาเงินพวกนี้ไปประกันตัวแล้ว

รวม ๆ โดนกันไปคนละเท่าไหร่ ?

              แหม่ม : ร่วม 3 ล้าน

              อ๊อฟ : 10 ล้าน

              อ้อ : 5.7 ล้าน

              เฟิร์น : 6 ล้านค่ะ

นี่ก็ 20 กว่าล้านแล้ว ไม่รวมลุงแก้ว จำปา แกโดนไปประมาณ 10 ล้าน บอกว่ามีเงินอยู่ 80 กว่าล้าน ที่สำคัญที่สุด มีจดหมายที่เขาไปเซ็นเป็นหนี้ สัญญาเงินกู้กับลุงแก้วอีก 10 ล้าน ลุงแก้วอายุ 88 ปี ลักษณะเหมือนต้นแบบคอลเซ็นเตอร์ ป้าแป้นเป็นป้าปู ป้าแป้นอยู่ในสาย โดนไปเท่าไหร่ ?

              แป้น : โห เยอะมากเลย 60 ล้านล่ะมั้ง ขั้นแรกเอาไปลงทุนขายอะไหล่รถยนต์ อันนั้นเอาไปเกือบ 30 ล้าน

ป้าให้เขาทำไม ?

              แป้น : เขาขอยืมไง ลูกหลาน คิดว่าจะซื้อกับเรา เราก็ให้ไปเลย

30 ล้านหลัง ให้ไปทำอะไร ?


ป้ามีเอกสารการกู้ยืมไหม ?

              แป้น : ไม่มีเลยสักใบ ให้ปากเปล่า เห็นเป็นหลาน

เคยเห็นตัวเลข 80 ล้านในธนาคารไหม ?

              แป้น : ไม่เคยเห็นของเขาหรอก เขาเอามาจากไหนก็ไม่รู้ มันโกงของป้าเรียบร้อย บ้านช่อง ที่ดิน หมดแล้วมันก็ไม่ติดต่อแล้วนะ หายเลย จนเจ้าของบ้านหลังโน้นตายมันก็ไม่มา

มายด์ เป็นลูกของปู อยู่ในสาย มายด์ร่วมก่อเหตุกับแม่ ?

              มายด์ : ที่เป็นญาติ หนูรู้จักป้าแหม่ม ป้าแป้น แต่ลุงแก้วหนูไม่รู้จัก เรื่องที่เกิดขึ้น เขาบอกเอาไปร่วมลงทุนบริษัทกัน ใช้นามสกุลป้าแหม่มกับลุงปุ๋ย เป็นการจดทะเบียนบริษัท ก็เหมือนการลงทุนร่วมกัน แต่บริษัทมันล้มไปแล้ว แต่หนูไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะตอนนั้นหนูยังไม่รู้เลยที่เขาทำบริษัทกัน


แม่กับมายด์เอาเงินไปทำอะไรกันหมด ?

              มายด์ : เรื่องไหนคะ ถ้าหนู หนูมีประเด็นกับเฟิร์น คือมันเป็นหนี้ที่หนูผิดเองค่ะ ก็ยอมรับว่าเป็นหนี้กับเฟิร์นจริง แต่ก็ติดต่อตลอด ที่เริ่มเป็นหนี้เพราะหนูเคยทำบ้านแชร์แล้วมันล้มไป หลัง ๆ ที่มันหนัก เพราะหนูมีปัญหาส่วนตัว มีลูกต้องรับผิดชอบ แฟนเขาก็ทิ้งไปเลย เขาไม่เคยช่วยรับผิดชอบ อยากให้รายการเข้าใจมุมหนูบ้าง แต่หนูไม่เคยคิดจะโกงเพื่อนนะคะ หนูก็คิดจะคืนค่ะ มีการติดต่อกันตลอด

              เฟิร์น : ที่นัดโอนเงินคืนเมื่อวานแล้วทำไมไม่โอน เรื่องย่าที่หลอกว่าเอาเงินไปทำที่ ก็โอนเงินคืนมาดิ ก็รู้ว่าเดือดร้อน ทำไมไม่คืน

              มายด์ : เรื่องเงินตรงนั้นหนูยอมรับผิดเอง หนูเอาเงินเพื่อนมาจริง

              เฟิร์น : ไม่ ถามว่าจะโอนเงินคืนเมื่อไหร่


แม่ยังเอาตัวไม่รอดเลย ?

              ทนายแก้ว : พี่ว่ามายด์ลองคิดดูเถอะ คืนเงินกับเฟิร์น จะคืนง่าย ๆ ยังไง คุณทำอะไรอยู่รู้อยู่ในใจอยู่แล้ว

              เฟิร์น : ล่าสุดบอกว่าย่าจะเอาไปทำที่ หนูก็เห็นว่าจะได้เงินเลย แล้วก็ไม่โอนเงินคืน คืออะไรหนูก็ไปนัดเพื่อน หนูก็เสีย

จะใช้หนี้คืนใช่ไหม ?

              มายด์ : ใช่ค่ะ

คุณถูกออกหมายจับแล้ว รู้ใช่ไหม ?

              มายด์ : รู้ค่ะ หนูก็จะแจ้งให้ทราบเลย วันจันทร์หนูจะไปมอบตัวและไปประกันตัว แล้วจะติดต่อทางเฟิร์นไปเรื่องคืนเงินค่ะ

กรณีที่มีเอกสารเป็นสมุดบัญชี 87 ล้านบาท เขาว่าคุณกับแม่ไปพิมพ์กันมา ?


ใช้พิมพ์ดีดพิมพ์ ?

              มายด์ : ไม่พูดถึงค่ะ มันอยู่ในกระบวนการศาลแล้วค่ะ

คุณอ๊อฟ ธนาคารบอกยังไง ?

              อ๊อฟ : ธนาคารชี้ให้ดูจุดว่าปลอมยังไง ให้ดูเลข ตั้งแต่ 2 พันบาท เป็นเลขจริง ตัวหนังสือจะเท่ากันหมด ฟอนต์ ความอ้วน อยู่ระดับเดียวกันหมด ลองเทียบเลข 0 หน้าเลข 2 กับหลังเลข 2 คนละแบบแล้ว ระดับก็เริ่มโย้ไปโย้มา ความกว้างจะไม่เท่ากัน ฉะนั้นบัญชีนี้ เงินที่มีจริง ๆ คือ 2 พัน ถ้าเราไม่ซูมดูจะไม่เห็นเลย

มายด์รู้ใช่ไหมว่าแม่ทำปลอมอันนี้ขึ้นมา ?

              มายด์ : หนูขอยืนยันคำเดียวว่าหนูขอไม่พูดถึง เพราะอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว

มายด์ได้คุยกับแม่บ้างไหม จะชดใช้คนยังไง มูลค่าเป็น 100 ล้านแล้วนะ ?

              มายด์ : แม่เขามีการติดต่อไปแจ้งไว้แล้วนะคะว่าจะเคลียร์กันยังไง

ของมายด์เองที่เอาไปโชว์กับเฟิร์นมีเงินอยู่ในบัญชี 3 ล้านกว่าบาท มายด์มีจริง ๆ ใช่ไหม ?

              มายด์ : ตรงนี้ก็ขอไม่พูดถึงค่ะ มันก็อยู่ในกระบวนการศาลแล้ว


ป้าแป้น ป้าโดนไป 60 ล้าน ป้าจะเอายังไงต่อไป ?

              แป้น : ฉันไม่รู้จะเอายังไง มันไม่มีปัญญาให้ฉันหรอก รับรองเลย ไม่ได้เด็ดขาดเลย

แล้วป้ามีเงินเหลืออยู่ไหม ?

              แป้น : ไม่มีหรอก

ยืมสัก 5 หมื่นได้ไหม ?

              แป้น : (หัวเราะ)

              ทนายแก้ว : เรื่องป้าแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่พฤติการณ์ปูกับมายด์มาหลอกคุณป้า ถือว่าเป็นการหลอกลวง ป้าสามารถแจ้งความเอาผิดเป็นคดีอาญาได้ครับ เพื่อรักษาสิทธิ์ของคุณป้า ก็ควรแจ้งความเป็นคดีอาญาข้อหาฉ้อโกง

              แป้น : เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลฉันไม่อยากเอาแล้ว เบื่อแล้ว ฉันไม่หวังได้เงินจากมันหรอก รับรองมันไม่มีเงินหรอก เชื่อเลย เอาหัวเป็นประกันเลย

ป้าแป้นรู้ไหมเขาไปทำพฤติกรรมกับคนอื่นอีกไหม ?


มายด์ อยู่ในสาย ทำไมต้องวางสายไป ?

              มายด์ : มันหลุดไปค่ะ

3 ล้าน มันมีจริง ๆ ใช่ไหม ?

              มายด์ : มีอยู่จริงค่ะ แต่เงินตรงนั้นก็หมดไปแล้ว สมุดที่โชว์เขามีอยู่จริง แต่หมดไปแล้ว เพราะหนูก็มีเรื่องบ้านแชร์ที่ต้องเอาเงินไปเคลียร์เขา หนูต้องเอาเงินไปหมุนค่ะ

แล้วเงิน 4.5 ล้าน ที่อยู่ในเช็คล่ะ ?

              มายด์ : ตรงนี้ขอไม่พูดถึงค่ะ มันอยู่ในศาลแล้ว หนูชี้แจงแล้วเรื่องสมุดบัญชี

              ทนายแก้ว : เบื้องต้นมายด์คิดว่าจะสู้คดีโดยรับสารภาพหรือปฏิเสธครับ ในคดีที่เฟิร์นฟ้องไป

              มายด์ : หนูไม่ได้คิดจะโกง ก็ยอมรับว่าเป็นหนี้ แล้วยอดฟ้องที่เขาฟ้องมา 4.5 ล้าน แต่มันมีการโอนเงินคืนบางส่วนแล้วหลักล้านเหมือนกัน เหลือประมาณ 3.5 ล้าน ซึ่งก็ไม่ตรงกับยอดฟ้องค่ะ