เอ๋ พิชชานันท์ นักวิ่งเทรลทีมชาติไทย เกิดภาวะไตวาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด่วน หลังลงแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก 80 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยได้สำเร็จ
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เอ๋ พิชชานันท์ มหาโชติ วิ่งเทรล (Trail Running) ทีมชาติไทย ได้โพสต์เล่าในเฟซบุ๊ก คนเดียว ก็วิ่งได้ ถึงเหตุการณ์ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังเข้าแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก โดยระบุว่า เต็มที่แล้วในการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย
เอ๋ในนามคนไทยคนหนึ่ง อยากบอกว่า ทุก ๆ คนก็ต่างทำหน้าที่จนสุดความสามารถแล้วจริง ๆ ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมการแข่งขันระดับโลก ครั้งนี้เจอแต่ของจริงตั้งแต่เริ่ม ออกตัว เขาใส่กันเต็ม ไม่มีใครคิดจะยอมแพ้แน่นอน เพราะมีสัญลักษณ์ธงชาติของตัวเองเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องสู้
เอ๋รู้ตัวตั้งแต่แรกว่าสู้ไม่ได้หรอก แต่จะทำให้ดีเท่าที่ตัวเองทำได้มาก ๆ ที่สุด แล้วก่อนเริ่มออกสตาร์ต เอ๋บอกว่าจะทำเวลาไม่เกิน 13 ชั่วโมง ในระยะ 80k ความชันสะสม 4,400+ไม่ง่ายเลย เอ๋เคยทำเวลาดีที่สุดคือ 14 ชั่วโมง ครั้งนี้เป้าหมายคือทำเวลาเก็บไว้เป็นสถิติ เพราะไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะมีโอกาสได้กลับมายืนตรงนี้อีกไหม สุดท้ายเข้าเส้นมา 12.07 ชั่วโมง ขอบคุณหัวใจตัวเอง ที่พยายามอดทนวิ่งทั้ง ๆ ที่ 10 กิโลสุดท้าย วิ่งบนความทรมานอย่างหาที่สุดไม่ได้ เข้าเส้นชัยมาเอ๋มีภาวะไตวาย ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน เอ๋เลยไม่ได้ไปรับน้อง ๆ ที่หน้าเส้นชัย น้อง ๆ ในทีมทุกคนสุดยอดมาก ยินดีด้วยกับทุกคนค่ะ
ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ เอ๋ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนตอนตี 1 กลับมาพักแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นอะไร แต่คุณหมอบอกอยากให้นอนโรงพยาบาลต่อ เอ๋ขอมารักษาตัวที่บ้าน โดยรับยามากิน โดยความสมัครใจ และจะดูแลตัวเองให้ดี ยอมรับทุกการแข่งของเอ๋จะเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันตลอด น้อยบ้างมากบ้าง ถ้าถึงต้องเข้าโรงพยาบาล ร่างกายคงเตือนเอ๋แล้วจริง ๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง
อยากจะบอกว่า การเตรียมรับมืออยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด ครั้งนี้ยอมรับอากาศร้อนมาก ๆ เอ๋ก็กินน้ำตามปกติ และก็พยายามเติมเกลือแร่ แต่ขณะที่การขับออกทางเหงื่อมีมากกว่าการเติมเข้าไป อย่างไรก็เติมไม่ทัน เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นอีกบทเรียนของเอ๋ จะนำไปแก้ไขในครั้งต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คนเดียว ก็วิ่งได้
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เอ๋ พิชชานันท์ มหาโชติ วิ่งเทรล (Trail Running) ทีมชาติไทย ได้โพสต์เล่าในเฟซบุ๊ก คนเดียว ก็วิ่งได้ ถึงเหตุการณ์ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังเข้าแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก โดยระบุว่า เต็มที่แล้วในการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย
เอ๋ในนามคนไทยคนหนึ่ง อยากบอกว่า ทุก ๆ คนก็ต่างทำหน้าที่จนสุดความสามารถแล้วจริง ๆ ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมการแข่งขันระดับโลก ครั้งนี้เจอแต่ของจริงตั้งแต่เริ่ม ออกตัว เขาใส่กันเต็ม ไม่มีใครคิดจะยอมแพ้แน่นอน เพราะมีสัญลักษณ์ธงชาติของตัวเองเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องสู้
เอ๋รู้ตัวตั้งแต่แรกว่าสู้ไม่ได้หรอก แต่จะทำให้ดีเท่าที่ตัวเองทำได้มาก ๆ ที่สุด แล้วก่อนเริ่มออกสตาร์ต เอ๋บอกว่าจะทำเวลาไม่เกิน 13 ชั่วโมง ในระยะ 80k ความชันสะสม 4,400+ไม่ง่ายเลย เอ๋เคยทำเวลาดีที่สุดคือ 14 ชั่วโมง ครั้งนี้เป้าหมายคือทำเวลาเก็บไว้เป็นสถิติ เพราะไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะมีโอกาสได้กลับมายืนตรงนี้อีกไหม สุดท้ายเข้าเส้นมา 12.07 ชั่วโมง ขอบคุณหัวใจตัวเอง ที่พยายามอดทนวิ่งทั้ง ๆ ที่ 10 กิโลสุดท้าย วิ่งบนความทรมานอย่างหาที่สุดไม่ได้ เข้าเส้นชัยมาเอ๋มีภาวะไตวาย ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน เอ๋เลยไม่ได้ไปรับน้อง ๆ ที่หน้าเส้นชัย น้อง ๆ ในทีมทุกคนสุดยอดมาก ยินดีด้วยกับทุกคนค่ะ
ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ เอ๋ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนตอนตี 1 กลับมาพักแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นอะไร แต่คุณหมอบอกอยากให้นอนโรงพยาบาลต่อ เอ๋ขอมารักษาตัวที่บ้าน โดยรับยามากิน โดยความสมัครใจ และจะดูแลตัวเองให้ดี ยอมรับทุกการแข่งของเอ๋จะเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันตลอด น้อยบ้างมากบ้าง ถ้าถึงต้องเข้าโรงพยาบาล ร่างกายคงเตือนเอ๋แล้วจริง ๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง
อยากจะบอกว่า การเตรียมรับมืออยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด ครั้งนี้ยอมรับอากาศร้อนมาก ๆ เอ๋ก็กินน้ำตามปกติ และก็พยายามเติมเกลือแร่ แต่ขณะที่การขับออกทางเหงื่อมีมากกว่าการเติมเข้าไป อย่างไรก็เติมไม่ทัน เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นอีกบทเรียนของเอ๋ จะนำไปแก้ไขในครั้งต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คนเดียว ก็วิ่งได้
