เมียขอความช่วยเหลือ ถูกผัวตำรวจติดยาใช้ถุงดำคลุมหัวซ้อม - ทำร้ายลูก ร้องผู้บังคับบัญชา แต่อีกฝ่ายขออย่าออกสื่อ จนปัญญาคิดฆ่าตัวตาย
กรณี คุณเจี๊ยบ ผู้เสียหาย ถูกสามีเป็นตำรวจทารุณกรรมจนทนไม่ไหว
พยายามขอหย่า ทำทุกวิถีทาง สุดท้ายไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งใจ หนำซ้ำหนักข้อ
เอาถุงดำคลุมหัว หายใจไม่ออก เกือบเอาชีวิตไม่รอด
พยายามไปร้องผู้บังคับบัญชาสามี กลับขออย่าออกสื่อ และไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ
จนปัญญาคิดฆ่าตัวตาย ก่อนร้องขอ กัน จอมพลัง ให้ช่วย
รายการโหนกระแส
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 สัมภาษณ์ เจี๊ยบ ผู้เสียหาย, กัน จอมพลัง
ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ รวมทั้ง แรมรุ้ง วรวัธ
รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม
อัยการอาวุโส สำนักงานสอบสวน
เรื่องเกิดอะไรขึ้น ?
เจี๊ยบ : โดนสามีทำร้ายเป็นประจำค่ะ สามีเป็นตำรวจ ยศจ่าสิบตำรวจ ตอนนี้อยู่ สภ.ฮอด
จ.เชียงใหม่ เราคบกันมาประมาณ 8 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 6 ขวบ
เรื่องมันเกิดยังไง ? เจี๊ยบ : แรก ๆ เขาก็ดีนะคะ เราไปอยู่กับเขาแรก ๆ ก็ดี หลัง ๆ เขาเปลี่ยนไป ติดเพื่อนมากขึ้น
เพื่อนที่อยู่ในที่ทำงานหรือข้างนอก ? เจี๊ยบ : ทั้งข้างนอกและที่ทำงานด้วย
ความรุนแรงที่เขาเริ่ม เริ่มจากอะไรก่อน ? เจี๊ยบ : เริ่มจากเงินที่ไม่ค่อยมีเพียงพอกับครอบครัว เริ่มจากจุดตรงนี้
ค่าใช้จ่ายมันไม่พอ เงินเริ่มหายไปค่ะ พอเราถามปุ๊บ
เขาก็จะอ้างว่าเอามาใช้จ่ายในครอบครัว ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดเราจับได้ว่าเขาเอาไปเสพยาเสพติด
ตอนเขาเสพยา เขาเป็นตำรวจแล้ว ?
เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ
คุณทราบได้ไง ? เจี๊ยบ : เริ่มรู้ตอนหลัง ๆ เขาเริ่มเอายาเสพติดเข้ามาในบ้าน
เลยเริ่มรู้ว่าเขาเล่นของพวกนี้
ดิฉันเคยเอาหลักฐานให้ผู้บังคับบัญชาไปว่าเขาเล่นของพวกนี้
หลักฐานเป็นน้ำผสมยาบ้าค่ะ
กัน : ส่วนของผม
ที่น้องเอมาขอความช่วยเหลือ วันแรกน้องเขาจะกระโดดน้ำตาย
ส่งข้อความอินบ็อกซ์มา ตอนแรกคิดว่าเรื่องล้อเล่นหรือเปล่า ก็เลยทักไปคุย
เขาโทร. มาบอกว่าจริง ๆ อยากบอกว่ารถจอดอยู่ที่นี่
หลังเกิดเรื่องช่วยมาเอาของเขาหน่อย พอฟังแล้วตกใจ พยายามคุยไกล่เกลี่ยกัน
มีทนายไพศาลช่วยคุยด้วย ส่งทีมงานไปรับมาก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มีปัญหาหนักใจอะไรถึงจะฆ่าตัวตาย แล้วไม่ได้มีแค่เขานะ เขาพาลูกไปด้วย
แล้วส่งรูปให้ผมดู ผมตกใจมาก
ให้ลูกกินข้าวเพื่อบอกลูกว่ากินข้าวเสร็จแล้วเราไปสะพานกันนะ พาลูกมาวัด
เขาก็รู้สึกผิดหวัง เสียใจร้องห่มร้องไห้
ผมก็เอาทีมงานไปรับตัวก่อน
แล้วมานั่งคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าเขาถูกสามี
ที่เป็นตำรวจทำร้าย มีปัญหาเรื้อรังสักระยะแล้ว
ไปขอความช่วยเหลือผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดเดิม ก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม
มาที่ใหม่ โดนทำร้ายไปแจ้งความก็บอกว่าไม่ได้ บอกเป็นเรื่องครอบครัว
ต้องไปเคลียร์กันก่อน เขาไปมาหลายที่ รู้สึกไม่มีที่พึ่ง
โดนเอาถุงดำคลุมหัว บีบคอระหว่างอยู่ในถุง 4-5 ชั่วโมง เอาท่อ PVC ตี
แอลกอฮอล์สาดไปที่ตัว ผมก็ถามว่าทำแบบนั้นทำไม
มันเป็นผลของยาเสพติดที่เรื้อรัง จากที่ฟังเขาเสพมา 7 ปีแล้วนะ
เจี๊ยบ : ตั้งแต่รับราชการแรก ๆ เลยค่ะ พอเสพยาเสพติดแล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไป
เขาจะเกเร ไม่ค่อยเข้าเวร เขาเหมือนคนหลอน เราหลับกับลูก เขาหลอน ประมาณดึก
ๆ เที่ยงคืน เขาเดินขึ้นห้องมา โดยที่ตัวเขาอยู่ในชุดถุงดำเหมือนกัน
เขาตัดถุงดำแล้วใส่เป็นชุด ไม่ใส่กางเกง เราตื่นมาก็ตกใจ
เขาเอาถุงดำมาใส่ตัวเราเลยค่ะ เขาก็บอกว่าอย่าส่งเสียงดัง
เราก็ถามว่าเป็นอะไร อย่าทำ เงียบ ๆ เขาก็เอามือปิดปากไว้
เราก็ยกมือร้องขอเขาว่าไว้ชีวิตเราหน่อย อย่าทำเราค่ะ เขาก็ไม่ฟัง
เขาก็บีบคอ เราบอกว่าอย่าทำ เดี๋ยวลูกตื่นมาเห็นสภาพแบบนี้ สงสารลูกค่ะ
พอเขาเริ่มใจเย็นลงก็คลานออกจากถุงดำ แล้วไปนอนกอดลูก เริ่มห่วงลูก
พอไปนอนกับลูกเขาก็เอาถุงดำมาห่อเราอีก เขาก็มานอนกอดเรา
เหมือนอยากมีอะไรด้วยค่ะ
เขาก่อเหตุทำร้ายร่างกายเราบ่อยไหม ?
เจี๊ยบ : บ่อยค่ะ หนักสุดคือทุบตี กระทืบเรากับรองเท้าคอมแบท รองเท้าทหารค่ะ
เขากระทืบเพราะเราขอดูกระเป๋าเป้ว่ามีอะไรเราสงสัยว่ามียาเสพติดค่ะ
เขาไม่พอใจก็เลยกระทืบเราเลย
ภาพเมื่อกี้เป็นภาพที่เขาไปบำบัด ?
เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ เราร้องระดับหัวหน้าสายงานเขา ภาพนี้ไม่นาน กลางปีที่แล้วค่ะ
จนวันนี้เขายังเป็นตร. เขายังเสพอยู่ไหม ? เจี๊ยบ : เสพค่ะ
กัน : ก่อนมีภาพ มีเหตุการณ์อะไรที่เขาไปหาเราที่กองอำนวยการ
เจี๊ยบ : พอเราออกจากถุงดำได้ ก็หนีมาขอความช่วยเหลือจากสารวัตรข้างบ้าน
สารวัตรข้างบ้านก็ช่วยเหลือ แต่ตัวสามีหนีและปิดบ้านพัก และตามหาล่าเรา
โดยเอาปืนหนึ่งกระบอกไปด้วย และบุกขึ้นสำนักงานตำรวจ ไปทำไมไม่ทราบค่ะ
ตอนนั้นทางผู้บังคับบัญชาพาเรากับลูกหลบหนีอยู่ค่ะ
เขาก็ระงับเหตุโดยการให้ร้อยเวรเข้าล็อกตัวและยึดปืนเอาไว้
และส่งบำบัดยาเสพติดค่ะ
กัน : ปกติเขามีปืนประจำตัว
แต่วันนั้นเขาเอาปืนไปกองอำนวยการเขา
ต้องมีเจ้าหน้าที่คนอื่นมาช่วยระงับเหตุ ตามหาผู้หญิงคนนี้
ถ้าเจออาจมีเรื่องใหญ่
เจี๊ยบ : เขาไม่ได้แต่งชุดตำรวจนะคะ เขาไม่มีรองเท้า กางเกงขาสั้น เสื้อยืดธรรมดา และตัวเปียกไปหมดเลย เมายา หลอนค่ะ
กัน : นึกสภาพถ้าวันนั้นมันพีคไปจัด ๆ เป้าหมายวันนั้นไม่ใช่น้อง
สมมติปนเปเป็นเจ้านาย มีปัญหากันเรื่องโน้นเรื่องนี้ พกปืนไปที่กองอำนวยการ
นั่นคือครั้งที่หนึ่ง
ฟังแล้วหนักใจไหม ? แรมรุ้ง : ต้องมองสองมุม มุมนึงเราต้องรีบเข้าไปดูแลผู้ถูกกระทำ
ในฐานะผู้อ่อนแอและยังไม่ได้เข้าไปรับการประเมินโดยทีมสหวิชาชีพโดยแท้จริง
เพราะมีทั้งผู้หญิงและเด็กเป็นกลุ่มเปราะบางทั้งคู่
มุมครอบครัวเมื่อไหร่ก็ตาม ที่มีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
แล้วตัวผู้ถูกกระทำแจ้ง
กลไกของกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวเกิดแล้วนะคะ
แต่เรื่องนี้ไม่ถูกส่งต่อมายังพนักงานเจ้าหน้าที่
ดังนั้นการคุ้มครองที่ถูกต้องที่ควรจะเป็น คุ้มครองแม่ คุ้มครองลูก
มันจึงไม่ได้เกิดโดยสมบูรณ์แบบ
พอมีการแจ้งปุ๊บต้องรีบส่งเรื่องมาที่
พม. แต่เรื่องนี้แจ้งตำรวจแจ้งผู้บังคับบัญชา
แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ส่งเรื่องต่อ แถมยังเจรจาว่าอย่าไปทำอะไรเลย จริง ๆ
เรามีหลักฐานการทำร้ายคุณเอกับลูก เรื่องนี้คุณได้มีโอกาสไปคุยกับ ผกก.
ที่ไหน ?
เจี๊ยบ : ที่ฮอดค่ะ บอกว่าอดิศักดิ์ทำแบบนี้กับเรา ทาง ผกก. บอกว่าเดี๋ยวเคลียร์กันก่อน เป็นความรุนแรงในครอบครัว ใจเย็น ๆ ค่ะ
ถ้าผู้บังคับบัญชาทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาติดยา ทำร้ายลูกเมีย ต้องแจ้งไหม ? แรมรุ้ง : เสียงที่ได้ยิน ผู้ชายที่พูด
พูดถูกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัว
แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการแจ้ง ไม่ต้องไปเซ็นนะ ไม่ต้องไปเขียนอะไรเลยนะ
แค่โทรศัพท์บอกก็ใช้ได้แล้ว
แค่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีการทำความรุนแรงในครอบครัว
ถ้าบอกว่าเราแจ้งตำรวจ
พนักงานสอบสวนเขามีอำนาจในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
เขาต้องนำเรื่องนี้แจ้งให้กับทีมสหวิชาชีพ
ยิ่งมีผู้ถูกกระทำทั้งเด็กและผู้หญิงอยู่ในครอบครัว
ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในเคหะสถานนั้นโดยไว
นำบุคคลที่ถูกกระทำให้มาอยู่ในที่ปลอดภัยโดยเร็ว ไม่ใช่ไปเคลียร์เอง
แล้วต้องรีบพาตัวไปโรงพยาบาลเพื่อดูว่าบาดแผลมีอะไรบ้าง
บาดแผลทั้งเก่าทั้งใหม่ บันทึกไว้เป็นเรื่องคดีได้หมด
ต่างกรรมต่างวาระหมดเลย
อาจารย์มองยังไง ? ปรเมศวร์ : จริง ๆ
ชัดแล้วนะว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่จะอ่อนกฎหมายหรือเปล่าผมไม่รู้
แต่กฎหมายบอกแล้วว่าเมื่อมีการกระทำความรุนแรง
ต้องส่งสำเนาให้ศูนย์คุ้มครองเด็ก คุ้มครองเรื่องนี้ทั้งหมด
มันเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทีนี้ตำรวจบ้านเรายุคหลังไม่รู้เป็นอะไร
มีเรื่องต้องแจ้งความ จริง ๆ เรื่องที่เป็นความผิด ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว
ไม่ต้องแจ้งความ อย่างเห็นคนตาย คุณจะสอบสวนไหม
ไม่มีใครแจ้งก็ต้องสอบใช่ไหม เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
คนถูกทำร้ายก็เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ และตามมาตรา 25
พระราชบัญญัติความรุนแรง เขาบอกว่าต้องแจ้งศูนย์ แต่ทีนี้การไม่แจ้ง
พูดกันตรง ๆ เป็นการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่
ถ้า ผกก. เขาบอกว่าแค่อยากเคลียร์เท่านั้นเอง ? ปรเมศวร์ : คงไม่ได้ นั่นไม่ใช่หน้าที่ตำรวจ ในการเคลียร์
เจ้าหน้าที่ศูนย์เขาจะยื่นขออำนาจศาลคุ้มครอง ไม่จำเป็นต้องหย่า
แต่การอยู่ด้วยกันจะครอบถุงดำอีกกี่ครั้ง โดนตีอีกกี่รอบ ตำรวจไม่มีอำนาจ
อำนาจอยู่ที่ศูนย์ ศูนย์ยื่นคำร้องศาล
แล้วเด็กเป็นพ่อลูกกันเขาตัดกันไม่ขาด เขามีสิทธิ์เบิกค่าเล่าเรียน
ค่ารักษาพยาบาลได้ ถ้าพ่อรับราชการอยู่ เราต้องมองให้ครบ
อย่ามองว่าถ้าเป็นเรื่องแล้วจบ เด็กไม่ได้อะไรเลย ไม่ใช่
เด็กอาจได้ชีวิตที่ดีขึ้น ตัวเขาเองก็อาจหายป่วยหายไข้
ผมยังมองว่าเป็นคนป่วยนะ เข้าใจนะตร.ทำคดียาเสพติดเยอะ ๆ
มีโอกาสที่จะเพี้ยน ๆ เวลาไปเข้ากลุ่มเพื่อสืบยาเสพติด
บางครั้งก็ทำตัวเหมือนคนติดยา ทำไปทำมา ติดจริงก็มี เราก็เห็นใจนะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจติดยาแบบนี้ มองมุมไหนเขาเป็นตำรวจได้อยู่เหรอ ? ปรเมศวร์ : ต้องไปบำบัดให้หาย ทฤษฎีเราเขายังเป็นผู้ป่วย แต่ถ้าเรื้อรังแบบนี้ มันไม่ป่วยแล้วนะ
แล้วชาวบ้านชาวช่อง จับฉี่ม่วงแล้วเข้าคุกไปก่อน ? ปรเมศวร์ : ไม่ ถ้าจับฉี่ม่วง ต้องเข้าศูนย์บำบัด แต่บางทีมันข้ามขั้นตอน
สถานบำบัดอาจจะน้อย นี่มองแบบความเป็นธรรมนะ
แต่กรณีน้องต้องบำบัดให้หายแล้วมาว่ากันใหม่ ไม่ใช่เดี๋ยวไปเคลียร์ให้
ถ้าผมเป็น ผกก. ผมต้องกันคนนี้ออก ส่งไปบำบัดให้เรียบร้อย แล้วค่อยมาคุยกัน
ถือว่าออกจากราชการไหม ? ปรเมศวร์ : ถ้าเขาสอบสวนทางวินัยก็ถือว่ามีโอกาส
กัน : ฝากถึง ผกก. แล้วกัน น้องเขาไม่ได้อยากได้เงิน เขาได้ชีวิตใหม่
เขารอดมาแล้ว ทั้งลูกทั้งเขา เขชาอยากได้รับความเป็นธรรม เขาถูกสามีตี
เขาไปแจ้งความแล้วไม่รับแจ้งความ เขาต้องการความเป็นธรรมจากท่าน
มีคลิปบางส่วนบอกว่าอย่าไปออกสื่อ ให้ทำเอกสารไว้
ถ้าไปออกสื่อก็ดำเนินการเรื่องละเมิด ผมถามว่าวันนี้ผมมาช่วย
ท่านจะมาบอกว่าละเมิดเหรอครับ วันที่เขาเดือดร้อน ท่านอยู่ไหน
ท่านช่วยอะไรเขา วันนี้ผมมาช่วย ท่านชี้ให้เขามาเล่นผมละเมิดเหรอ
เขาจะให้ทางนี้เขียนทำสัญญาว่าจะไม่ไปออกรายการไหน พอผมเอาเขามาออก
ก็ถือว่าผมละเมิด
อยากถามว่าวันที่เขามาขอความช่วยเหลือผม
เขาจะเป็นจะตาย ท่านอยู่ไหน
ผมไปคุยกับผู้ใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวาน ก็ตลกมาก
เขาเก็บกวาดในบ้านให้สะอาดสะอ้าน แต่เรื่องนี้เหมือนเก็บไว้ใต้พรม ตลกไหม
ท่านพบเห็นแล้ว ท่านพูดแทนตำรวจที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนะครับ
ท่านมาไกล่เกลี่ยให้เหรอ ท่านควรไปดำเนินการยังไง ควรให้ความเป็นธรรมเขาไหม
คุณกันได้คุยกับผู้บังคับบัญชา อย่างผู้การจังหวัดเชียงใหม่ ?
กัน : มีคุยกันบ้าง พี่แป๊ะจะดำเนินการให้ ช่วยเหลือเต็มที่
ส่วนไหนที่ผิดก็ดำเนินการไป แต่ด้วยความรักและห่วงใยผู้ใหญ่ทุกท่าน
เรื่องนี้เหมือนระเบิดเวลา ถ้าวันนี้ ผกก. ยังอยู่ ผู้ใหญ่หลายท่านยังอยู่
ยังดูแลได้ ถ้าวันนึงผ่านไป ท่านไม่อยู่แล้วล่ะ
มันเหมือนภาคใต้ที่เขาถูกยึดปืน วันนี้เขาถูกยึดปืนเหมือนกัน
แต่เขาได้ปืนกลับมาแล้วนะครับ ถ้าทุกคนย้ายไป เขาได้ปืนกลับไป
ทำตัวเหมือนเดิม ใครจะรับผิดชอบ
พี่แรมรุ้ง ในฐานะคนดูแลเรื่องนี้โดยตรง จะทำยังไงกับเคสนี้ดี ? แรมรุ้ง : กรณีนี้ถ้าวิเคราะห์จากสิ่งที่เห็น คนได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเด็ก
เราต้องรีบทำงานกับเด็ก
เขาเกิดมาเราไม่รู้เขาเห็นความรุนแรงมาตลอดชีวิตหรือเปล่า
หรือถูกกระทำความรุนแรงมาไหม ดังนั้นต้องรีบทำงานกับเด็ก
เพื่อให้ได้รับการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเร็วที่สุด
อยู่ในสายกับ
พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่
ท่านมีการเรียกหรือตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคนกระทำความผิดหรือยัง ?
พล.ต.ต.
ธวัชชัย : ในส่วนของ สภ.ฮอด ผมได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปก่อน
อีกเรื่อง วันพรุ่งนี้ได้รับการประสานกับคุณกัน จะพาผู้เสียหายมาพบ
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกันอีกครั้งนึงครับ
มุม ผกก.ฮอด ที่มีการต่อรองเจรจาเบื้องต้น ว่าอย่าไปแจ้งความ อย่าไปออกสื่อ เรื่องนี้มีการพูดคุยกันยังไงบ้าง ? พล.ต.ต.
ธวัชชัย : อันนี้เราทำการสอบสวน ส่วนการที่เขาโทรศัพท์ไป
เขาใช้คำว่าพยายามไกล่เกลี่ย
แต่คำพูดที่ออกไปอาจไม่เหมาะสมว่าอย่าไปออกสื่อ แต่เขาเป็นผู้บังคับบัญชา
ที่เพิ่งเข้ามารักษาราชการแทน ผกก.ฮอด คนเก่าที่เกษียณไปได้ประมาณ 1 เดือน
เขาก็เพิ่งทราบเรื่องเหมือนกัน เขาก็พยายามไกล่เกลี่ย
พยายามตรวจสอบข้อเท็จจริง มีความพยายามที่จะพูดคุย แต่คำพูดที่ออกไป
อาจสื่อไปในทำนองว่าไม่ให้ออกสื่อ
ก็มีการว่ากล่าวตักเตือนกันไปแล้วส่วนหนึ่ง และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้
แรมรุ้ง : จะเรียนท่านว่าตอนนี้ทีมงาน พม.
ในพื้นที่สแตนบายไว้สำหรับการคุ้มครองเรียบร้อยแล้วนะคะ
ยังไงฝากท่านช่วยดูแลให้ถึงทีมสหวิชาชีพ หรือเจ้าหน้าที่เขาจะได้เข้าไปช่วย
ตัวเองเห็นว่าต้องทำงานทั้งสองฝั่ง ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำด้วย
เพราะเราไม่รู้ว่ากระบวนการบำบัดยาเสพติด
ได้มีการประเมินว่าเขากลับไปสู่ชุมชนได้แน่ ทำงานได้แน่
ดังนั้นก็จะมีหลายภาวะมาก เช่นคุมตัวเองไม่ได้ กระทำความรุนแรง
หรือเจตนาอะไร ข่มขู่หรือจะให้อันตรายต่อชีวิตหรือยังไง ต้องเข้าไปดู
พล.ต.ต.
ธวัชชัย : เนื่องจากตำรวจย้ายมาอยู่กับเราเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่วนของเราเองขณะนี้ก็มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาดูแลอย่างใกล้ชิด
มีการประเมิน ส่วนการติดสารเสพติดมาอย่างไร รักษาอย่างไร
ขอตรวจสอบไปยังต้นสังกัดเก่านิดนนึง
เห็นว่ามีพฤติกรรมถือปืนขึ้นไปก่อเหตุ ตามล่าภรรยา กลัวว่าวันนึงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอีก ? พล.ต.ต.
ธวัชชัย : อันนี้ข้อเท็จจริงขอตรวจสอบ ตอนนี้ข้อเท็จจริงมันไม่ตรงกัน
ก็เลยนัดผู้เสียหายมาพูดคุยกันอีกครั้งนึง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
รับรองว่าผมจะดูแล และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝั่งอย่างเต็มที่
และพยายามรักษาไม่ให้เกิดเหตุใด ๆ เกิดขึ้น
และประสานพม.ในพื้นที่ทำงานร่วมกัน จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
แรมรุ้ง : จริง ๆ ถ้าเห็นว่ามีการทำร้ายกัน
ที่แรกที่ควรไปคือโรงพยาบาลเพื่อให้เขาได้รับการรักษาก่อน แค่บาดแผลที่เห็น
อาจรวมสภาพจิตที่บอบช้ำ หรือแม้แต่ตัวลูกเอง
เขามีภาวะพาไปทำร้ายตัวเองและทำร้ายลูก ตรงนี้ควรได้รับการคลี่คลาย
และเยียวยาโดยด่วน
ผู้กระทำความผิดเป็นถึงตำรวจและติดยาเสพติด มีโอกาสให้ออกจากราชการได้ไหม ? ปรเมศวร์ : อย่างที่ผู้การเชียงใหม่พูด ผมเข้าใจนะ
ระบบราชการก่อนตั้งกรรมการสอบสวนต้องสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น
พอได้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่ามีมูลมีการกระทำความรุนแรงจริง มีการติดยาจริง
ก็ตั้งกรรมการสอบสวน อะไรที่เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ทั้งแม่และเด็ก
ก็เข้าสู่กระบวนการของพนักงานสอบสวน
ถ้าติดยาเสพติดก็ว่ากันไปในกระบวนการยาเสพติด และกันสอบไป
ถ้ามีโทษทางวินัยก็ออกได้ เพราะตำรวจจริง ๆ เป็นหน่วยงานที่หนักที่สุด
ตำรวจรอการลงโทษยังไม่ได้เลย โดยปรับโดนอะไรก็ไม่ได้ ผมเข้าใจนะ
บางทีผู้บังคับบัญชาพยายามจะช่วย แต่วิธีการช่วยไม่ได้ช่วยอย่างนี้
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยว่าช่วยอย่างนี้ไม่ได้
ต้องไปช่วยอย่างอื่น เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายซะ
แต่จะไปไกล่เกลี่ยแล้วบอกอย่าไปออกสื่อ ผู้การบอกว่าเป็นการใช้ภาษาที่ผิด
มันคงไม่ผิดหรอก เขาคงไม่อยากให้ออก เราก็เคยพูดหลายครั้ง
ส่วนราชการมักเป็นแบบนี้ เปิดเผยไปเถอะพูดความจริงแล้วจะเกิดความยุติธรรม
แต่เมื่อไหร่ความจริงไม่ปรากฏความยุติธรรมก็ไม่เกิด
แล้วผู้กำกับรักษาการไปบอกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าเอากันจริง ๆ
จะเป็นความผิดฐานละเว้นได้ แต่ก็เข้าใจอีกอย่าง
บางครั้งเราไม่ได้เดินตามกฎหมายเป๊ะ
กฎหมายเป็นเครื่องมือก่อให้เกิดความสงบสุข
ตำรวจยิ่งต้องรักษาความสงบเรียบร้อย ทำไมเราต้องมีรูปปั้นจ่าเฉยมายืน
เพราะเราต้องการความเรียบร้อยไง ให้คนละเมิดน้อยที่สุด
อย่างขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร จำเป็นต้องออกใบสั่งไหม อาจไม่จำเป็น
ใช้ดุลยพินิจเจ้าพนักงานที่จะว่ากล่าวตักเตือน นี่หลัก ๆ การดำเนินคดีอาญา
ให้มองให้รอบคอบทุกมุมว่าทำยังไงให้เกิดความสงบสุขและความยุติธรรมในสังคม
ขอให้มีจ่าเฉยก็พอ อย่ามี ผกก. เฉยเลย คุณกันจะเอาไงต่อไป ? กัน : ตามที่คุยไว้จะพาคุณเจี๊ยบไปหาผู้การเชียงใหม่ พรุ่งนี้จะพาน้องไป
ผมเชื่อว่าท่านให้ความเป็นธรรม
เพราะผมเคยส่งเคสให้ท่านช่วยเหลือแล้วหนึ่งครั้ง ท่านก็ช่วยเหลือเต็มที่
หลังจากนี้เรื่องที่ยื่นไปทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เราจะติดตามผลต่อไป ส่วนทางพัฒนาสังคม พี่บี๋อาจต้องรบกวน
เรื่องน้องที่อยู่ภาคใต้ อาจจะพาน้องไปหาพัฒนาสังคมหลังจบรายการด้วย
ซึ่งพี่บี๋ช่วยเคสมาเยอะมากแล้ว และฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกัน
คำว่าเรื่องของคนในครอบครัวไม่รับแจ้งความ ฟังมาแล้วเยอะมาก ผมบอกให้นะครับ
ถ้าวันใดคนเราต่อยตีกัน ใช้ไม้ฟาด เอาถุงดำคลุมหัว
ผมว่ามันไม่ใช่คำว่าครอบครัว
ไม่มีครอบครัวไหนหรอกครับที่ดูแลกันโดยใช้ถุงดำคลุม เอามือบีบคอ
เอาไม้ตีกัน ถ้าครอบครัวไหนมี ท่านเอาออกมาให้ผมดูหน่อย แล้วท่านถือกฎหมาย
ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา ถ้าเขาไปหาท่าน แล้วท่านไม่ช่วย
จะให้เขาไปหาใครล่ะครับ
ปรเมศวร์ : ใบทะเบียนสมรส
ไม่ใช่ใบอนุญาตตบตีนะ ทะเบียนสมรสคือใบอนุญาตเลี้ยงดู ดูแลซึ่งกันและกัน
แล้วฝากน้อง ๆ ตำรวจนิดนึง จริง ๆ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ท่านเป็นคณะกรรมการส่งเสริมพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว มีนายกฯ
เป็นประธาน
ฉะนั้นโปรดทำความเข้าใจว่าความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องที่นายกฯ
สนใจที่สุด ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ ผบ.ตร. ก็อยู่ นายกฯ ก็เป็นประธาน
ก็ฝากไว้ตรงนี้แหละ
เดี๋ยวพี่แรมรุ้งรับไปดูแล ?
แรมรุ้ง : รับไปดูแลค่ะ ตอนนี้ตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้เรียบร้อยแล้วทั้งสองกฎหมาย
เรื่องความรุนแรงในครอบครัว และกฎหมายคุ้มครองเด็ก
อยากบอกว่าเรื่องความรุนแรงเป็นเรื่องในครอบครัวใช่
แต่เป็นเรื่องที่คนที่พบเห็นต้องรีบแจ้ง เพราะเรื่องความรุนแรงจะได้เบาลง
และการทำงานจะได้ทำงานด้วยกระบวนการของสหวิชาชีพ
มีเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลตามกฎหมายครบถ้วนในทุกกระบวนการค่ะ
ปัจจุบันมีเรื่องตำรวจเป็นข่าวเยอะมาก
ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา จะทำไง จะบูรณาการยังไง
ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ สมันก่อนพ่อแม่สอนว่าให้กลัวตำรวจ
ทำผิดไม่ได้จะถูกจับ แต่ปัจจุบันนี้กลับกันแล้ว จะถูกสอนว่าไม่ต้องกลัว
ตำรวจทุกอย่างเหมือนผิดเพี้ยนไป สะท้อนให้เห็นเลยเหมือนกัน
ประชาชนขาดความเชื่อถือ ขาดความศรัทธา ? กัน : สำหรับผมตำรวจดี ๆ
ยังมี ขอให้กำลังใจตำรวจที่ดี คนดีชื่นชม ส่วนใครรู้ว่ามีปัญหา
อาจเกิดอันตรายได้ในอนาคต ก็จัดการไปตามเรื่องตามราว
แต่อย่าปกป้องช่วยเหลือกันเท่านั้น
แรมรุ้ง : อย่าไปว่าทั้งวงการ มันเป็นบางคน
เป็นองค์กรใหญ่ ก็จะมีทั้งคนดีและไม่ดี ? ปรเมศวร์ : ตำรวจเขามีตั้ง 3 แสนคนทั้งประเทศ ทำชั่วทำเลวแค่วันละ 3 คน ปีนึงแค่พันเดียว พันใน 3 แสนเล็กนิดเดียว ตำรวจมีเยอะมาก
แรมรุ้ง : พม. ก็ทำงานกับตำรวจเยอะมากค่ะ
ทั้งนี้สามารถติดตามชมรายการ
โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท
ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3
กดเลข 33