เปิดสัญญาทาส เสี่ยบังคับทอมเป็นเมีย ทำเสื่อมเสียจ่าย 10 ล้าน - แจงรูปเที่ยว 3 คนผัวเมีย

 

           สาวทอมเปิดรายละเอียดสัญญาทาส กับสามีภรรยานักธุรกิจโลจิสติกส์ สั่งให้เป็นภรรยาอีกคน หากไม่ทำตามจะถูกฟ้อง 10 ล้าน แจงภาพเที่ยว 3 คนผัวเมีย จำใจทำเพราะถูกข่มขู่
           จากกรณีสาวหล่อออกมาร้องเรียนว่า ถูกเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ บังคับให้ไปอยู่กินกันแบบ 3 คนผัวเมีย บังคับให้เซ็นสัญญาทาส ทั้งยังบังคับขืนใจให้สาวหล่อเป็นภรรยาอีกคนของเขา ก่อนที่ในเวลาต่อมา ทนายของฝั่งสามีภรรยาจะออกมาตอบโต้ว่า ฝ่ายสาวหล่อยินยอมพร้อมใจเอง และก็มีรูปไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้ชีวิตแบบ 3 คนผัวเมียแบบเปิดเผยมานานแล้ว ส่วนสัญญาที่ว่า ฝ่ายสาวหล่อเป็นคนขอให้ทำขึ้นมาเอง

           อ่านข่าว : สาวทอมโดนบังคับสวิงกิ้ง นักธุรกิจงัดหลักฐานโต้ เต็มใจอยู่พร้อมกัน 3 ผัวเมีย พาเที่ยวสิงคโปร์ !
           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ช่อง 3 เปิดเผยว่า นายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ทนายความเสี่ยร้อยล้านเจ้าของธุรกิจโลจิสติกส์ จังหวัดชลบุรี เปิดภาพหลักฐานความสัมพันธ์ของสาวหล่อกับภรรยาเสี่ย ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายไว้เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นการแอบนัดเจอกันระหว่างสาวหล่อกับภรรยาเสี่ยที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และเป็นภาพที่เสี่ยจับได้และรู้ความสัมพันธ์ของเมียตัวเองกับสาวหล่อ จึงพยายามหาทางแก้ปัญหา เคยขอให้ทั้งคู่เลิกราหยุดความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล

           หลังจับได้ เสี่ยร้อยล้านถึงขั้นไปบวช พอสึกออกมาก็พยายามกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกับภรรยา ตามปกติ แต่ก็มาจับได้อีกช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ว่าภรรยากับสาวหล่อยังแอบมีสัมพันธ์กันและมีการให้เงิน รวมกว่า 5 แสนบาท ทางเสี่ยจึงนัดมาตกลง และได้ข้อสรุปว่าจะอยู่กันแบบ 3 คนผัวเมีย โดยมีการตั้งกลุ่มไลน์ 3 คนด้วย ซึ่งฝั่งสาวหล่อยอมรับเงื่อนไขและเป็นคนขอให้เขียนข้อตกลงขึ้น และข้อที่ 5 สาวหล่อก็เป็นคนขอให้เขียนขึ้น โดยใจความระบุว่า

           1. สาวหล่อ ยินยอมพร้อมเป็นภรรยาของเสี่ยตามพฤตินัย
           2. เสี่ยจะต้องดูแลสาวหล่อเฉกเช่นภรรยาอีกคนหนึ่งเป็นอย่างดี
           3. ภรรยาหลวง ยินยอมให้สาวหล่อ เป็นภรรยาของเสี่ยโดยจะไม่ให้ฟ้องร้องในเชิงคดีชู้สาวภายหลัง
           4. ในอนาคตถ้าต้องการแยกทาง ต้องยินยอมกันทั้ง 3 ฝ่ายเท่านั้น
           5. ถ้าเกิดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ชื่อเสียง หรือทำร้ายร่างกาย และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ฝ่ายที่เสื่อมเสีย มีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดี เรียกค่าเสียหาย เป็น 10 ล้านบาท

           หากทั้ง 3 ฝ่าย ได้อ่านและเข้าใจในข้อตกลงร่วมกันเป็นอย่างดี ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผิดข้อตกลงร่วมกัน จะถือว่าข้อตกลงนี้เป็นโมฆะ

           เกี่ยวกับสัญญาดังกล่าว ทนายเอกสิทธิ์ บอกว่าในทางกฎหมาย บางข้อใช้ได้ และบางข้ออาจใช้ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวก็เป็นการยินยอมพร้อมใจของทั้ง 3 คนด้วย ความสัมพันธ์ของ 3 คนก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบ 3 คนผัวเมีย ไปเที่ยวไปกินต่างประเทศด้วยกัน แต่ในรายละเอียดไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์เวลาอยู่ในห้องส่วนตัวเป็นยังไง ต่อมาเมื่อมีฝ่ายใดต้องการยุติความสัมพันธ์ในลักษณะนี้จึงทำให้เกิดปัญหา ซึ่งเชื่อว่าช่วงที่ 3 คนอยู่ด้วยกันต้องมีความรักความผูกพันเกิดขึ้นบ้าง และอยากให้หันหน้ามาพูดคุยตกลงกัน เพราะตอนนี้ เสี่ยและเมียเครียดมากเรื่อง สภาพจิตใจย่ำแย่ทุกฝ่าย

สาวทอมชี้ ภาพไปเที่ยว 3 คนผัวเมีย คืออะไร ยืนยันไม่เคยมีความสุขในฐานะเมีย

           ด้าน สาวหล่อ ยืนยันว่าถูกขืนใจ ส่วนที่ไปอยู่กินกัน 3 คนผัวเมีย เกิดจากการถูกข่มขู่ บังคับ เรื่องของสัญญาที่อีกฝ่ายอ้างว่าตนร้องขอให้เขียนขึ้นมา ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง จะทำแบบนั้นเพื่อผูกมัดตัวเองเพื่ออะไร

           ส่วนภาพที่มีการไปเที่ยวกัน 3 คน มีการไปเที่ยวกันจริง แต่ก็ไม่ได้เต็มใจหรือมีความสุข จำเป็นต้องทำไปตามน้ำ หากไม่ไปก็จะถูกข่มขู่อีก เช่น จะแจ้งความเอาผิดเรื่องที่ไปคุยกับภรรยาของเขา หรือขู่จะฟ้องเรียก 10 ล้าน เพราะผิดข้อตกลงในสัญญา

           กรณีที่ฝ่ายชายอ้างว่าตนยินยอมเองทุกอย่าง ด้วยเพศสภาพของตนยืนยันว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย จะมาบอกว่าตนยินยอมมันเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งยังมีคลิปเสียงระหว่างผู้เสียหายกับฝ่ายสามี ใจความคือสาวทอมพยายามจะต่อรองให้เสี่ยยินยอมปล่อยให้ไปเป็นอิสระ ยืนยันว่าตนไม่เคยยินยอมทนอยู่ในฐานะเมียสักครั้ง ตนย้ำว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วถ้าวันหนึ่งตนท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร

           ส่วนในคลิปเสียง ฝ่ายชายกล่าวว่าจะไม่ปล่อยแน่นอน เพราะสาวทอมเซ็นสัญญาไว้แล้ว ยินยอมจะอยู่เป็นเมียอยู่แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่เมียให้ดี เวลาจะอยู่กับคนอื่นจะไปชอบผู้หญิง หรืออะไรกับใคร ไม่เคยยุ่ง แต่เวลาอยู่กับเขาต้องทำหน้าที่เมีย หากไม่ทำแบบนี้แล้วมีเงิน 10 ล้านมาจ่ายเขาได้เหรอ ซึ่งสาวทอมยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนพยายามหนีมาตลอด แต่ตอนนี้ขอไม่เจรจาแล้ว และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส