พระแจ๊ส สรวีย์ เจ้าของตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ 2009 ที่ออกบวชสู่ทางธรรม ล่าสุดลาสิกขา กลับมาใช้ชีวิตทางโลก ขอทำหน้าที่ต่อไป ตอบแทนทุกความรักที่ทุกคนมอบให้กัน
ภาพจาก หลวงพี่แจ๊ส สรวีย์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 หลายคนคงฮือฮา กับกรณีที่ แจ๊ส - สรวีย์ นัดที เจ้าของตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ 2009 ทิ้งมาดสาวเปรี้ยว แล้วเดินเข้าสู้ร่มกาสาวพัสตร์ ละทุกอย่างทางโลก มุ่งไปสู่ทางธรรม ทั้งที่ก่อนหน้านี้แจ๊สถือเป็นคนที่แรงคนหนึ่งสุด ๆ ในวงการสาวประเภทสอง
ล่าสุด หลังจากผ่านมากว่า 9 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร พระแจ๊ส สรวีย์ ก็ได้ประกาศลาสิกขาบท เดินกลับเข้าสู่ทางโลกอีกครั้ง พร้อมกับเผยรูปใส่ชุดฆราวาส ยืนไหว้อยู่หน้าที่พุทธคยา ดินแดนแห่งต้นกำเนิดศาสนาพุทธ และส่งข้อความสั้น ๆ ถึงสาเหตุที่สึกว่า ถึงเวลาที่จะได้กลับไปทำหน้าที่ต่อไป
ภาพจาก หลวงพี่แจ๊ส สรวีย์
"ขอบคุณทุกความรัก ความเมตตาจากทุก ๆ ท่านครับ ขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรับสายและตอบข้อความจากทุกช่องทาง ขอถือโอกาสนี้ตอบแทนความจากของทุกท่าน จากแดนพุทธภูมินะครับผม #สึกเพราะถึงเวลาจะได้กลับไปทำหน้าที่ต่อไป #ไร้ซึ่งครหาและปัญหาใด ๆ นะครับผม"
งานนี้ก็มีคนออกมาอนุโมทนาสาธุกันเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าไม่ว่าจะด้วยสถานะใด คุณงามความดีของพระแจ๊สที่ได้ทำเพื่อพุทธศาสนา ก็จะยังคงอยู่ต่อไป และคนก็ยังคงรักและศรัทธาพระแจ๊สเช่นเดิม
ภาพจาก หลวงพี่แจ๊ส สรวีย์
ก่อนหน้านี้ พระแจ๊ส สรวีย์ เข้าสู่วงการบันเทิงโดยการประกวดมิสทิฟฟานี่ และด้วยบุคลิกมั่นใจ หุ่นสวยสไตล์นางแบบ ทำให้แจ๊สเป็นผู้ที่ชนะจนคว้ามงกุฎมาครองได้สำเร็จ และด้วยบุคลิกตรง ๆ แรง ๆ จึงทำให้แจ๊สเป็นที่จดจำ โดยเฉพาะการออกมาพูดถึงอ๊อฟ ชนะพล, ปอย ตรีชฎา และกล่าวหาว่าใช้เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งจนหน้าพัง
จนกระทั่งเมื่อบวชและเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ พระแจ๊สก็ได้ตัดขาดจากลาภยศ ชื่อเสียง และเงินทอง ซึ่งพระแจ๊สลาสิกขาสั้น ๆ ช่วงปี 2558 และกลับไปบวชใหม่ พร้อมกับเดินหน้าไปแสวงบุญถึงอินเดีย และถือเป็นพระสายกรรมฐาน นั่งสมาธิอย่างเคร่งครัด จนตระหนักได้ถึงบาปที่ตนเคยกระทำ และได้ออกมาขอโทษ อ๊อฟ ชนะพล ซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก, ปอย ตรีชฎา, คุณจ๋า อลิสา ผู้บริหารทิฟฟานี่โชว์, คุณซูซาน เจ้าของเครื่องสำอางยี่ห้อดัง ซึ่งทางปอย ตรีชฎา ก็ได้ออกมาอนุโมทนาและยืนยันว่าอโหสิกรรมต่อกันและกันแล้ว
ตลอดเวลาที่พระแจ๊สบวชที่อินเดีย ก็ให้การต้อนรับพุทธมามกะ และอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ไม่หวังลาภยศสรรเสริญ และแผ่ขยาย ทำนุบำรุงศาสนาพุทธที่อินเดียจนแข็งแกร่ง จนได้รับความเคารพจากผู้มาแสวงบุญมากมาย