เมียปากแจ๋วกลาง โหนกระแส ลั่นค่าหวย 6 ล้าน เป็นของตัวเอง อีกฝ่ายไม่ใช่ผัว ให้ไปแล้ว 1 ล้าน ในฐานะคนรู้จัก ทั้งที่มีลูกด้วยกัน 3 คน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่เกิดเหตุสองสามีภรรยาถูกรางวัลที่ 1
แล้วไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท โดยโอนเข้าบัญชีภรรยา
แต่สุดท้ายภรรยาหอบเงินหนีไปพร้อมกับชายชู้ โดยที่ลูกก็พยายามต่อว่า
แต่แม่ก็ไม่ฟัง ปิดโทรศัพท์หนี
อ่านข่าว : ผัวถูกหวยรางวัลที่ 1 โอนเงินให้เมีย 6 ล้าน เจอหอบหนีไปกับชายชู้ ลูกเตือนฟังแล้วหน้าแห้ง !
ล่าสุด วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 รายการโหนกระแส มีการเชิญนายมะนิช สามีวัย 49 ปี มาร่วมรายการ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากถูกรางวัลที่ 1 ตนก็ไปขึ้นเงินกับภรรยา ตนเขียนหนังสือไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็น บัญชีตัวเองก็ไม่มี ต้องพาภรรยาไปด้วย เรื่องเงินที่ขึ้นภรรยาก็เป็นคนจัดการ เปิดบัญชีให้ตน แล้วเก็บเงินให้ 1 ล้านบาท เอาไปจ่ายหนี้ครอบครัวอีก 1 ล้านบาท ให้ลูก 2 แสน ที่เหลือ 3.7 ล้านอยู่ในบัญชีภรรยา
จากนั้นตนก็ทำบุญใหญ่ที่บ้าน เพราะถือได้โชคก้อนใหญ่ วันที่ทำบุญภรรยายังอยู่ จัดงานอะไรเรียบร้อย ไม่นานภรรยาก็หนีออกจากบ้านไปพร้อมกับเงินในบัญชีทั้งหมด
ด้านลูกชาย เปิดเผยว่า ตนได้ยินมาจากชาวบ้านว่า แม่มีชายอื่น และเคยเสียเงินเสียทองให้ชายอื่นมาแล้ว ตนจึงไปเตือนแม่หลังจากทำบุญบ้านว่า เงินถูกหวยเป็นของพ่อ ห้ามเอาไปให้ใครเด็ดขาด แต่แม่ร้อนตัวจึงทะเลาะกันขึ้น แล้วก็หนีออกจากบ้านไป ในช่วงที่ทุกคนโทรศัพท์ตามหาแม่ ก็ได้ยินเสียงอยู่กับผู้ชาย จึงมั่นใจว่า แม่ไปอยู่กับชายอื่นแน่นอน ยอดเงินตอนนี้เหลือ 3.1 ล้าน หายไปอีก 6 แสน
คุณติ๋ม เพื่อนของภรรยา ยอมรับว่า รู้มานานแล้วว่าเพื่อนมีชายอื่น แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เพื่อนมักมาเล่าให้ฟังว่า มีผู้ชายคนไหนบ้าน คนนั้นเลิกไปแล้ว ให้เงินไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็มีคนใหม่ โดยส่วนใหญ่รู้จักผ่านเฟซบุ๊ก เคยถึงขั้นพามาบ้านตอนงานบุญ บอกว่าเป็นหลาน แม้แต่สามีก็ยังไม่รู้
ด้านนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว กล่าวว่า เงินที่ถูกรางวัลถือว่าเป็นทรัพย์สินของนายมะนิช สามารถไปแจ้งความอดีตภรรยาฐานยักยอกทรัพย์ได้ และใครที่ได้เงินไปจากผู้หญิงคนนี้ถือว่ารับของโจร แม้ว่าทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่เงินถูกรางวัลก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวกับการสมรส เท่าที่ตนฟังทั้งสองคุยกัน มีแววว่าจะไม่ได้จบด้วยดี อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ท้ายรายการ นายมะนิช กล่าวว่า ไม่อยากเอาผิดนางอังคณารัตน์ ไม่อยากให้ติดคุกติดตาราง สงสารลูก อยากให้เขากลับใจ กลับมาแต่โดยดี เงินจะเอาไปใช้ก็เอาไปเลย ตนหาเงินใหม่ได้ ถ้าอยู่เป็นครอบครัวไม่ได้ก็กลับมาดูแลลูกก็พอ
ส่วนความเห็นชาวเน็ตต่างสับสนกับคำศัพท์มิติใหม่ในครั้งนี้ ไม่ใช่ภรรยา แต่กลับมีลูกด้วยกัน 3 คน แล้วความสัมพันธ์คู่นี้ควรเรียกว่าอะไร
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส