อันโตนิโอ รูดิเกอร์ นักบอลเยอรมัน เหยียดผู้เล่นญี่ปุ่นในสนาม ใช้ท่า Mazy Run ยั่วคู่แข่ง งานนี้ฟังความเห็นอีกมุม สรุปเหยียดเชื้อชาติหรือแค่ปั่นประสาท
ภาพจาก JEWEL SAMAD / AFP
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 แม้ยังไม่จบนัดแรกครบทุกกลุ่ม แต่ก็มีคู่ที่พลิกล็อกแบบถล่มทลาย 2 คู่แล้ว ได้แก่ อาร์เจนตินา แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 และสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา คือ เยอรมนี แพ้ ญี่ปุ่น 1-2
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ควันหลงเกมการแข่งขันคู่ดังกล่าวยังคงมีอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ญี่ปุ่นชนะ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนาที 63 ตอนนั้นเยอรมนีนำญี่ปุ่น 1-0 ทาคุมะ อาซาโนะเลี้ยงบอลไปยังข้างสนาม กลับมีอันโตนิโอ รูดิเกอร์ วิ่งบังทางบอลเอาไว้ไม่ให้ญี่ปุ่นเล่นต่อได้จนบอลออกหลัง
จุดที่กลายเป็นดราม่าคือ ท่าวิ่งของรูดิเกอร์ที่ทำท่ากระโดดเขย่งขา ขณะที่อาซาโนะวิ่งตามหลัง ทำให้แฟนบอลหลายคนมองว่า นี่เป็นการเหยียดว่าคนเอเชียขาสั้นหรือเปล่า ต่อให้วิ่งแบบหย็องแหย็ง ทำยังไงก็วิ่งตามไม่ทัน แถมพอวิ่งเสร็จมีการหันมามองอาซาโนะอีกด้วย
ภาพจาก ADRIAN DENNIS / AFP
ผลสุดท้าย เมื่อเยอรมนีแพ้จากประตูชัยของอาซาโนะ แฟนบอลหลายคนที่ไม่ชอบใจก็ต่างสะใจกันเพียบ ได้เห็นรูดิเกอร์โดนเอาคืน ส่วนผู้เล่นญี่ปุ่นก็มีไปดีใจใกล้ ๆ กับรูดิเกอร์
ประเด็นถกเถียง รูดิเกอร์ ตั้งใจเหยียดคนเอเชียหรือไม่
จากการตรวจสอบในกลุ่มแฟนบอลทีมเชลซี, เรอัล มาดริด และเยอรมนี ซึ่งเคยดูรูดิเกอร์เล่นเป็นประจำ ต่างบอกกันว่า รูดิเกอร์เป็นกองหลังสายปั่นประสาทคู่ต่อสู้ สายฮา และท่าวิ่งแบบนี้รูดิเกอร์ชอบทำเป็นปกติ แม้กระทั่งเจอทีมเก่ง ๆ อย่างบาร์เซโลน่า รูดิเกอร์ก็ทำ ซึ่งในอีกทางสามารถแปลได้ว่า รูดิเกอร์ต้องการปั่นหัวอาซาโนะให้เสียสมาธิ เพราะในตอนนั้นญี่ปุ่นตามหลังอยู่ กลายเป็นว่าทำให้ญี่ปุ่นมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เพราะเขาไม่ตลกด้วย ซึ่งท่าวิ่งของรูดิเกอร์เรียกว่าท่า Mazy Run
ภาพจาก PHILIP FONG / AFP
เมื่อรูดิเกอร์เป็นกองหลังสายปั่นประสาท แล้วเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่กองหน้าทำปั่นประสาทกองหลังคู่แข่ง ก็คือการเดาะบอลล่อให้มาแย่ง หรือทำท่าเลี้ยงบอลในท่าที่ไม่จำเป็น ถ้าเกิดฝั่งตรงข้ามนอตหลุด ก็สามารถเรียกใบแดงได้เป็นของแถม
อย่างไรก็ตาม แม้รูดิเกอร์จะทำท่าวิ่งแบบนี้บ่อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่เป็นเวทีฟุตบอลโลก เป็นการแข่งขันระหว่างทีมชาติ การทำแบบนี้จะสุ่มเสี่ยงถูกตีความว่าเหยียดเชื้อชาติก็คงไม่แปลกอะไร