มูลนิธิกระจกเงา เผยเคสสะท้อนสังคม หญิงท้อง 9 เดือน ใกล้คลอดแบบเด็กกลับหัวแล้ว แต่ไร้หน่วยงานรัฐดูแล เพียงเพราะคำว่า "คนไร้บ้าน" จึงถูกปฏิเสธบอกไม่ใช่ภารกิจ ถาม มันเป็นหลักคิดแบบไหนกันนะ !?
โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า เย็นวันหนึ่งในอาทิตย์ก่อน ทางทีมผู้ป่วยข้างถนนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีพบคนเร่ร่อนไร้บ้านเป็นหญิงตั้งครรภ์กลับมาอีกครั้งแล้ว ที่ว่าเจออีกครั้งเพราะคนไร้บ้านคนดังกล่าวหายไป และทางทีมงานได้ลงพื้นที่ติดตามหลายครั้งแต่ไม่พบ ครั้งนี้ทีมงานจึงรีบลงด่วนที่สุดทันที
เธอตั้งครรภ์น่าจะไม่ต่ำกว่า 7-8 เดือน และไม่แน่ใจว่าเธอจะมีความสามารถในการดูแลครรภ์ตัวเองต่อไปได้ดีแค่ไหน เมื่อทีมงานลงพื้นที่พบเจอเธอ จึงเข้าไปพูดคุย เพื่อทำการเช็กอาการจิตเวชเบื้องต้น ซึ่งไม่พบอาการจิตเวช
เธอเล่าว่า ตัวเธออยู่กับแฟนที่ใช้ชีวิตไร้บ้านเช่นกัน และบางครั้งต้องหลบออกมาอยู่ที่อื่น เพราะแฟนทำร้ายร่างกาย ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ข้อมูลสำคัญที่เธอเล่าก็คือ มีคนใจดีแถวนั้นพาเธอไปโรงพยาบาล หมอบอกเธอตั้งครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ (9 เดือน) และเด็กนั้นกลับหัวแล้ว
หน่วยงานรัฐกับคำปฏิเสธการดูแล เพราะคำว่า "ไร้บ้าน"
ทั้งนี้ เธอตั้งท้องไปแล้ว 36 สัปดาห์ และเด็กกลับหัวแล้ว นัยก็คือเธอจะคลอดแล้วแน่นอนไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ ทีมงานจึงเริ่มคุยทำความเข้าใจกับเธอว่า เธอควรถูกดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกว่า "บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพ" และตัวเธอก็ตกลงจะเข้าสู่การดูแลนั้น ทีมงานจึงรีบประสานงานไปทันที
หลังเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ รับสายจากทีมงาน และรู้ข้อมูลของเคสคนไร้บ้านที่ตั้งครรภ์ไปทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่มีคำถามที่ทำให้ทีมงานต้องอึ้ง ถามกลับมาว่า... "แล้วค่าใช้จ่ายเรื่องท้องจะทำอย่างไร" และตามด้วยประโยค "ขอไปปรึกษาผู้บังคับบัญชาก่อนว่าจะเอาอย่างไร" ก่อนจะวางสายไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ โทร. กลับมาหาทางทีมงานผู้ป่วยข้างถนนอีกครั้ง พร้อมบอกว่า ทางบ้านพักเด็กฯ ไม่สามารถจะรับเคสคนไร้บ้านตั้งครรภ์คนนี้เข้าสู่การดูแลได้ เนื่องจากเขาเป็นคนไร้บ้าน แต่ถ้าเป็นเคสคนท้องที่มีบ้านและมีปัญหาครอบครัว ทางบ้านพักเด็กฯ ถึงจะเข้ามาดูแล
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เสนอแนวทางกับทีมงานผู้ป่วยข้างถนนว่า ทางบ้านพักเด็กฯ จะประสานกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งให้ เนื่องจากเคสเป็นคนไร้บ้าน (แม้ว่าท้อง 9 เดือน และเด็กกับหัวแล้วด้วย)
"ไม่ใช่บทบาทหน้าที่ผม และไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องตามข้อมูลให้คุณ ให้ไปตามข้อมูลกับทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเองได้เลย"
ทางทีมผู้ป่วยข้างถนนจึงได้ประสานไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และได้ข้อมูลว่า หญิงคนไร้บ้านที่ตั้งครรภ์นั้น ตอนนี้ไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว ด้วยเหตุเพราะเขาปวดท้องจะคลอดลูกเลยมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และทางศูนย์คุ้มครองฯ กำลังติดตามเคสดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล
ทีมงานขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองฯ และขออนุญาตติดตามผลหลังจากไปติดตามเคสดังกล่าวที่โรงพยาบาล
เพียงเพราะเขาไร้บ้านจึงไม่อยู่ในการดูแล... เกิดคำถาม หลักคิดแบบไหนกันนะ !?
ผู้หญิงตั้งครรภ์ 9 เดือนคนหนึ่ง มีสถานะไร้บ้าน ต้องมาเจ็บท้องคลอดโดยไม่มีหน่วยงานรัฐใดที่เข้ามาดูแล ไม่ต้องย้อนไปถึงการเข้ามาดูแลก่อนที่เธอจะคลอด ตอนนี้เธอมีสถานะแม่เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นแม่ที่อยู่ในสถานะคนเปราะบางทางสังคม คนท้องและคนเปราะบางทางสังคมคนหนึ่งที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องที่สุดอย่างบ้านพักเด็กและครอบครัวบอกว่าไม่ใช่ภารกิจของเขาอย่างเต็มปากเต็มคำ
เพียงเพราะเขาไร้บ้านจึงไม่อยู่ในการดูแล แต่ถ้าเขามีบ้านและตั้งครรภ์แต่มีปัญหาในการดูแลตัวเองและลูกในท้อง บ้านพักเด็กและครอบครัวจะเข้ามาดูแล มันเป็นหลักคิดแบบไหนกันนะ
หลักการแบบใดกันที่ไม่ใช้ตัวตั้งที่สำคัญที่สุดนั้นคือ ความเป็นผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน และมีปัญหาทางสังคมเศรษฐกิจที่ไม่สามารถจะดูแลตัวเองและครรภ์ตัวเองได้ดีนัก เพื่อเป็นตัวตั้งหลักในการที่รัฐจะเข้ามามีบทบาทดูแล แต่กลับดันใช้สถานะไร้บ้านมาเป็นตัวตั้งก่อน และทำการปฏิเสธการดูแล ทั้ง ๆ ที่หน่วยงานอย่างบ้านพักเด็กและครอบครัวนั้นมี Setting ที่พร้อมที่สุดแล้วในการดูแลเคสผู้หญิงตั้งครรภ์และมีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม
และความไร้บ้านนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญใด ๆ เลยถ้าจะใช้ Setting ที่มีอยู่เพื่อจะดูแลพลเมืองของรัฐที่มีปัญหาอย่างผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ได้ 9 เดือนคนนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา
