เพื่อนไม่คุยกัน 2 ปี จู่ ๆ มาเชิญไปงานแต่ง แถมให้กำเงินมาจ่ายเกือบ 2 หมื่น ได้เหรอ ?

         นับจากนั้นเธอก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้อีกเลย จนล่าสุดเธอเพิ่งได้รับอีเมลฉบับหนึ่งที่คิดว่าเป็นสแปม แต่กลับกลายเป็นคำเชิญไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนคนนี้ ซึ่งเจ้าสาวก็ไม่ได้เป็นคนส่งมาเอง แต่ส่งมาจากออแกไนเซอร์อีกที พร้อมแนบบิลเรียกเก็บเงิน 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,900 บาท) เป็นค่าสถานที่ พร้อมอีก 150 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,100 บาท) เป็นค่าอาหาร มาท้ายคำเชิญไปงานแต่งงานด้วย
 
         เธอเข้าใจดีว่าธรรมเนียมแต่ละที่แตกต่างกันไป แต่พื้นที่ที่เธออาศัยอยู่นั้น บ่าวสาวหรือคนในครอบครัวจะต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าอาหารและค่าสถานที่จัดงานเอง ไม่ใช่อยู่ ๆ จะมาสุ่มขอให้คนอื่นจ่ายให้  
 
         ทั้งนี้ เธอพบว่ามีคนที่ได้รับอีเมลเหมือนกันนี้ 20 คน ซึ่งเธอก็คิดว่าเจ้าสาวแค่น่าจะอยากชวนเธอไปเพื่อให้ช่วยจ่ายเงินเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นเธอคงไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้ โดยเฉพาะหลังจากเคยบอกอีกฝ่ายว่าเราคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้ว เพราะเพื่อนยังโสด
 
         ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจปฏิเสธไป หลังจากนั้นเจ้าสาวจึงส่งข้อความมาถามเหตุผลที่เธอปฏิเสธ ซึ่งเธอก็แค่บอกไปว่า เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปช่วยออกเงินแบบนั้น
 
         ทั้งนี้ ต่อมาเธอได้ไปคุยกับเพื่อนอีกคนที่รู้จักกับเจ้าสาวเช่นกัน ปรากฏว่าเพื่อนคนนั้นเองก็ปฏิเสธไม่ยอมไปงาน ตั้งแต่ยังไม่ได้รับการ์ดเชิญ และดูเหมือนเจ้าสาวจะต้องการให้มีแขกมาร่วมงานจริง ๆ เพราะสถานที่จัดงานจะมอบส่วนลดพิเศษให้ หากมีคนมาร่วมงานถึงจำนวนที่กำหนด ตัวเธอจึงเป็นเหมือนที่พึ่งสุดท้าย เป็นตัวเลือกสำรองของเจ้าสาวเท่านั้น
 
         หญิงสาวเผยว่า พวกเธอยังอายุเพียง 23-24 ปี ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะจ่ายเงินตามจำนวนที่เจ้าสาวต้องการได้อยู่แล้ว และเจ้าสาวก็คงคิดว่าเธอลืมไปแล้ว ว่าตัวเองอ้างเหตุผลในการตัดเพื่อนไว้ยังไง แต่แน่นอนว่าเธอไม่ลืมแน่ ๆ
 
         ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก boredpanda