ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก น้ำอุ่น รัชเดช 8 ปี คดีพริตตี้ ลัลลาเบล เสียชีวิต ด้านเจ้าของบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง และพรรคพวก โดน 5 ปี 4 เดือน ส่วนอีก 2 คนยกฟ้อง อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น
วันที่ 17 มกราคม 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ที่ศาลอาญาธนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาคดี ลัลลาเบล พริตตี้สาวเสียชีวิต ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ และมารดาของ น.ส.ธิติมา หรือ ลัลลาเบล ผู้ตาย เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น อายุ 27 ปี อาชีพพริตตี้บอย จำเลยที่ 1, นายชัยพล หรือคิว อายุ 30 ปี เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2, นายนที หรือตี๋ อายุ 34 ปี จำเลยที่ 3, น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส อายุ 25 ปี แฟนสาวของคิว จำเลยที่ 4, นายกฤษฎา หรือโนบิ อายุ 28 ปี จำเลยที่ 5, นายโกเศศ หรือปิงปอง อายุ 36 ปี จำเลยที่ 6
ในความผิดฐานเป็นซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด ๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย โดยจำเลยทั้ง 6 คน ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 กระทำต่อเนื่องเชื่อมโยงในวาระเดียวกันโดยมีเจตนาเพื่อกระทำอนาจารและล่วงละเมิดในทางเพศผู้ตาย จึงให้ลงโทษฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังกล่าว ให้จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่มารดาผู้ตาย โจทก์ร่วม จำนวน 748,660 บาท จำเลยทั้งหมดยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่ากระทำของจำเลยที่ 1-4 เป็นความผิดจริงตามฟ้อง อุทธรณ์จำเลยที่ 1-4 ฟังไม่ขึ้น จึงยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น ส่วนอุทธรณ์จำเลยที่ 5-6 อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นเพียงบุคคลที่ถูกชักชวนไปครั้งแรก ไม่ได้ร่วมจัดงาน จึงพิพากษาแก้ลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1-4 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ 5-6 ยกฟ้อง
ภาพจาก โหนกระแส
โดยพ่อแม่ของลัลลาเบล ยอมรับคำตัดสินของศาล จะมีการพิจารณาเรื่องยื่นฎีกากับทนาย ที่ผ่านมาเดือดร้อนต้องเลี้ยงดูลูกของลัลลาเบลวัย 7 ขวบ และมีรายได้จากการทำขนมขายเท่านั้น แม้จะมีบุคคลภายนอกช่วยเหลือค่าเทอม แต่ก็ไม่เพียงพอค่ากินค่าอยู่ ทนายความของลัลลาเบล ระบุว่า วันที่ 31 มกราคม จะนำคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยื่นต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่คำนวณไว้ประมาณกว่า 13 ล้านบาท อาทิ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่าย ค่ารักษาหลานที่ป่วย ซึ่งจะมีการตกลงค่าเสียหายอีกครั้ง โดยขอให้จำเลยจ่ายเยียวยา เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย
ภาพจาก โหนกระแส
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
วันที่ 17 มกราคม 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ที่ศาลอาญาธนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาคดี ลัลลาเบล พริตตี้สาวเสียชีวิต ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ และมารดาของ น.ส.ธิติมา หรือ ลัลลาเบล ผู้ตาย เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น อายุ 27 ปี อาชีพพริตตี้บอย จำเลยที่ 1, นายชัยพล หรือคิว อายุ 30 ปี เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2, นายนที หรือตี๋ อายุ 34 ปี จำเลยที่ 3, น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส อายุ 25 ปี แฟนสาวของคิว จำเลยที่ 4, นายกฤษฎา หรือโนบิ อายุ 28 ปี จำเลยที่ 5, นายโกเศศ หรือปิงปอง อายุ 36 ปี จำเลยที่ 6
ในความผิดฐานเป็นซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด ๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย โดยจำเลยทั้ง 6 คน ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 กระทำต่อเนื่องเชื่อมโยงในวาระเดียวกันโดยมีเจตนาเพื่อกระทำอนาจารและล่วงละเมิดในทางเพศผู้ตาย จึงให้ลงโทษฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังกล่าว ให้จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่มารดาผู้ตาย โจทก์ร่วม จำนวน 748,660 บาท จำเลยทั้งหมดยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่ากระทำของจำเลยที่ 1-4 เป็นความผิดจริงตามฟ้อง อุทธรณ์จำเลยที่ 1-4 ฟังไม่ขึ้น จึงยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น ส่วนอุทธรณ์จำเลยที่ 5-6 อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นเพียงบุคคลที่ถูกชักชวนไปครั้งแรก ไม่ได้ร่วมจัดงาน จึงพิพากษาแก้ลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1-4 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ 5-6 ยกฟ้อง
ภาพจาก โหนกระแส
โดยพ่อแม่ของลัลลาเบล ยอมรับคำตัดสินของศาล จะมีการพิจารณาเรื่องยื่นฎีกากับทนาย ที่ผ่านมาเดือดร้อนต้องเลี้ยงดูลูกของลัลลาเบลวัย 7 ขวบ และมีรายได้จากการทำขนมขายเท่านั้น แม้จะมีบุคคลภายนอกช่วยเหลือค่าเทอม แต่ก็ไม่เพียงพอค่ากินค่าอยู่ ทนายความของลัลลาเบล ระบุว่า วันที่ 31 มกราคม จะนำคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยื่นต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่คำนวณไว้ประมาณกว่า 13 ล้านบาท อาทิ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่าย ค่ารักษาหลานที่ป่วย ซึ่งจะมีการตกลงค่าเสียหายอีกครั้ง โดยขอให้จำเลยจ่ายเยียวยา เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย
ภาพจาก โหนกระแส