ลีซอ ควงว่าที่เจ้าสาว เล่าเส้นทางรัก 10 ปี หวิดเลิกเพราะมือที่สาม-หยุดเจ้าชู้ เพื่อคนนี้ !

 
           ลีซอ ธีรเทพ จับมือแฟนสาว เฟี๊ยต อภิสรารัชต์ เล่าเส้นทางรัก 10 ปี ที่ไม่ธรรมดา จุดเริ่มต้นจีบ แต่เคยเลิกเพราะมือที่สาม ก่อนหยุดเจ้าชู้เพื่อคนนี้ จนถึงวันขอแต่งงาน

ลีซอ

           ว่าที่เจ้าบ่าวอดีตนักฟุตบอลตัวจี๊ด ลีซอ ธีรเทพ จับมือแฟนสาว เฟี๊ยต อภิสรารัชต์ มาเผยเส้นทางรัก หลังขอแต่งงานสุดโรแมนติกกลางกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ฉลองรัก 9 ปี พร้อมกับประกาศฤกษ์แต่งงานครั้งแรก แถมยังเผยชีวิตรักสุดทรหด เคยเลิกกันมาแล้วเพราะมือที่สาม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ลีซอ

- ฤกษ์แต่งงานวางแผนยังไงบ้าง ?

              ลีซอ : ก็น่าจะเป็นช่วง 19 พฤศจิกายน ตอนแรกได้ฤกษ์วันที่ 29 เมษายน แต่มันค่อนข้างเร็ว เราเลยคิดว่าไปพฤศจิกายนดีกว่า ตอนแรกมันเหมือนจะนานไปหน่อย แต่ว่าทุกคนลงความเห็น คุณแม่ผม คุณแม่เขา คิดว่ามันจะได้ไม่ต้องเร่งรัดมาก ให้มันพอดี ๆ แต่คนที่อยากให้เร็ว ๆ คือคุณพ่อ เขาอยากให้ผมแต่งตั้งแต่ 27-28 แล้ว เขาบอกอยากให้เหมือนนักฟุตบอลอาชีพต่างประเทศที่เขาแต่ง มีครอบครัวแล้วมีความรับผิดชอบ ผมบอกไม่ต้องใช้ครอบครัวมาให้ผมรับผิดชอบก็ได้ ผมรับผิดชอบเองได้ จนมาตอนนี้คุณพ่อไม่อยากให้มันยืดไปนาน อยากให้มันจบเร็ว ๆ แต่พอมันมีฤกษ์แบบนี้ทุกคนก็ลงความเห็นเหมือนกันว่า 19 พฤศจิกายน

- วางแพลนไว้ไหมว่าอยากมีเบบี๋เลยไหม ?

              ลีซอ : จริง ๆ เบบี๋ปล่อยมาสักพักแล้ว น่าจะเดือนที่ 4 แล้วก็ยังไม่มา

- ถ้าปล่อยแบบนี้ถ้าอยู่ดี ๆ ท้องขึ้นมา ?

              ลีซอ : ก็ขยับงานแต่งก่อนครับ เพราะล่าสุดเพิ่งมีรุ่นน้องเฟี๊ยตเป็นผู้หญิง แล้วแต่งงาน เขาท้อง 8 เดือน คือมาท้องใหญ่มาแล้ว ผมก็ไม่อยากให้เขาต้องมาเหนื่อยวันนั้น คนก็ต้องเยอะ ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ อาจจะต้องเลื่อนไปอีก

ลีซอ

- เราก็ไม่ได้มายด์ว่ามีน้องก่อนหรืออะไรยังไง ?

              ลีซอ : ไม่ซีเรียสครับ เราก็คบกันมานี่ปีที่ 10 แล้ว ทุกคนก็รับรู้หมด สมมติจะบอกว่าจะมาท้องก่อนแต่ง ที่แต่งงานเพราะท้องก่อนหรือเปล่า ผมไม่ซีเรียส

- เฟี๊ยตอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว ?

              เฟี๊ยต : ได้หมดค่ะ ถ้าลูกชายเผื่อเขาได้พ่อมา เป็นนักกีฬา เราจะได้ส่งเสริมเขาเต็มที่

              ลีซอ : ผมอยากได้ลูกสาว ผมชอบเวลาเขาอ้อน แต่จริง ๆ ก็ได้หมด ไม่ได้คาดหวัง

- อะไรทำให้มั่นใจผู้ชายคนนี้ ?

              เฟี๊ยต : คือซอเขาเป็นคนทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย คือลุคเขาดูเป็นแบดบอยมาก อาจจะเป็นความโชคดีของเฟี๊ยตมั้งค่ะที่มาเจอเขาตอนที่เขาเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว เริ่มรู้จักเขาตอนเขา 28-29 ที่ผ่านมาเขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด คบเขา 10 ปี ไม่เคยมีวันไหนที่ซอให้เฟี๊ยตนั่งแท็กซี่เลยสักครั้ง ถ้าเขาติดงาน เขาก็จะมารับเฟี๊ยตไปส่งก่อนแล้วไปทำงาน และถ้าเขาอยู่ต่างประเทศเขาก็จะโทร. หาน้องสาวหรือโทร. หาใครที่ว่างให้ไปดูแล เขาเป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่ที่คบกัน เขาเป็นคนมีวินัย ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว เขาเป็นคนรักครอบครัว จริง ๆ พื้นฐานครอบครัวและพื้นฐานจิตใจเขาดี

ลีซอ

- คนนี้น่ารักยังไง ?

              ลีซอ : อันดับแรกเขาเป็นคนเก่ง ขยัน ฉลาด คือเขาเหมือนทำธุรกิจแล้วดูแลตัวเองมาตั้งแต่เรียนจบแรก ๆ เลย แล้วผมก็อยู่กับเขามา ซึมซับได้ว่าเขาเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ หาเงินเองได้ เขาสมบูรณ์แบบด้านการทำงานมาก ๆ แล้วด้วยนิสัยเขา ทุกอย่างของเขามันเข้ากับเราได้ ช่วงแรก ๆ ก็มีช่วงที่ต้องปรับตัว เราก็เห็นผู้หญิงสวย ๆ หน้าตาดี ๆ มาเยอะแล้ว แต่สุดท้ายคนที่อยู่กับเราแล้วช่วยนำพาเราไปในทางที่ดีขึ้นมันน้อย เขาส่งเสริมเราอีกด้านหนึ่งของชีวิต คือผมเก่งด้านกีฬาก็จริง แต่ว่าด้านอื่น ๆ เราไม่ค่อยรู้ ไม่ค่อยชำนาญ แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่มาลองอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ เขาเป็นคนที่สอนเราเรื่องธุรกิจด้วย ก็เลยรู้สึกว่าเออมันน่าจะไปด้วยกันได้ดี

- อะไรทำให้คุณเลิกเจ้าชู้ ?

              ลีซอ : ก็เขานี่แหละครับ

- เห็นบอกว่าตอนแรกพี่เฟี๊ยตไม่เอา แล้วคนรอบข้างก็ปฏิเสธ ?

              เฟี๊ยต : ใช่

- ตอนนั้นคนรอบข้างพูดยังไงบ้าง ?

              เฟี๊ยต : ตอนที่เขาเริ่มมาจีบเราก็จะมีน้องที่สนิทรู้ไปรายงานคุณแม่ บอกว่า แม่รู้จักไหม ลีซอเป็นนักฟุตบอลมาจีบเจ้นะ คำตอบแรกแม่บอกว่าไปบอกเจ้มึงเลยนะว่าอย่าไปยุ่งนะกับคนนี้ มันแบดบอยมาก แม่ต่อต้านมาก แบดบอยมาก เจ้าชู้มาก แม่เขาก็ดูจากข่าวที่ออกไป แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้อะไรกับเขาอยู่แล้ว แค่เขามาจีบเรา เขาก็เหมือนมาแอ๊ว ส่งไลน์มา เรารู้อยู่แล้วด้วยความเป็นเขา แต่เราชอบเวลาคุยกับเขา เพราะเขาเป็นคนตลก เขาเป็นคนที่คุยได้ทุกเรื่อง แล้วมีเรื่องให้หัวเราะ มีเรื่องแซว มีเรื่องมาคุยเล่น ตอนแรกที่รู้จักกันเขามีแฟนอยู่แล้ว ครั้งแรกที่เขามาจีบเรา คำถามแรกที่ถามคือ มีแฟนหรือยัง เขาก็บอกว่ามีแล้ว เราก็บอกโอเค จะได้รู้ว่าสถานะที่เราคุยกันไปทางไหน เราจะได้เป็นเพื่อนกันนะ เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเฟี๊ยตอีกที มันก็อยู่ในก๊วน ๆ เดียวกัน เขาก็โอเคไม่เป็นไร

ลีซอ

- แล้วมันมาเริ่มเปลี่ยนยังไง ?

              เฟี๊ยต : พอหลังจากที่คุย พอเรารู้จักกันใช่ไหม เหมือนไปแฮงก์เอาต์ในกลุ่มเดียวกัน แล้ววันหนึ่งเขามาบอกว่าขอคุยด้วยได้ไหม เฟี๊ยตก็ถามมีแฟนหรือยัง เขาบอกมีแล้ว แต่เราไม่เคยติดตามข่าวเขา แล้วเราไม่ใช่สายกีฬา เรารู้จักแค่ว่าลีซอ แต่เราไม่รู้ประวัติเขาหรอกว่าเขามีแฟนหรือไม่มี เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น แต่พอเขาบอกว่ามีแฟนแล้ว เราก็โอเค ก็เหมือนเป็นเพื่อนกันไปเที่ยว แล้วไม่สนใจเลยนะ ไม่เคยโทร. หาเขา แต่ว่าให้ไลน์ไป เพราะก่อนเราให้ไลน์เราไม่รู้ว่าเขามีแฟน มีอยู่วันหนึ่งเขาทักไลน์มา อยู่ไหนครับ เราก็บอกว่ากำลังไปปาร์ตี้กับเพื่อน เขาถามไปที่ไหน เราบอกไปร้านนั่งเล่น เขาบอกอ๋อ ไปหาได้ไหม เดี๋ยวจะไปกับเพื่อน ไปเจอที่นู่นได้ไหม เราก็บอกได้สิ เพราะเราก็ไปกับเพื่อนเรา เขาก็มา พอเขามาปุ๊บก็เหมือนทักทาย แต่เราก็ไม่ได้สนใจเขาเลย เพราะเขาเริ่มรู้จักเพื่อนเราแล้ว เขาก็ไปชนแก้วกับเพื่อนเรา เราก็ไม่สนใจเขา เราอยู่กับสาว ๆ ของเรา จนกลับเราก็ไม่ได้อะไรกับเขาเลย จนเขาส่งไลน์มาบอกว่าเสียใจนะทำไมไม่สนใจเขาเลย ไม่คุยกับเขาเลย อุตส่าห์มาหา เราก็บอกว่าอ้าว...ก็เป็นเพื่อนกันไง แล้วเราจะไปอะไร เขาก็โอเค ๆ ไม่เป็นไร แล้วมีช่วงหนึ่งเขาก็หายไปเลย แล้วอยู่ดี ๆ เขาก็ส่งกลับมาว่าเขาโสดแล้วนะ

- ช่วงที่หายไปนานไหม ?

              เฟี๊ยต : หายไปเป็นอาทิตย์ ๆ นะคะ

ลีซอ

- แสดงว่าตอนที่ไปหาที่ร้านนั่งเล่นคือยังมีแฟนอยู่ ?

              ลีซอ : มี แต่ว่าปลาย ๆ ละ

              เฟี๊ยต : คือเขามีปัญหากันเราก็ไม่อยากยุ่ง

              ลีซอ : ใช่ เลยขอไปเคลียร์ตัวเองก่อน

              เฟี๊ยต : ใช่ เขาบอกว่าไปเคลียร์ตัวเองก่อนแล้วเขาจะกลับมาใหม่

ลีซอ

- คบกันได้ 2-3 ปี เพราะว่า ?

              เฟี๊ยต : เพราะว่าเรื่องผู้หญิง ปกติโทรศัพท์เขาไม่เคยห่างกายเลย วางก็ไม่ได้ อยู่กับตัวตลอด แล้วเรารู้สึกว่าช่วงหนึ่งพฤติกรรมเขาเปลี่ยนไป ช่วงเราคบกัน 2-3 ปีแรกจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เราได้ยิน แต่ไม่เคยเห็น ไม่เคยจับได้เลยสักครั้ง เราไม่มีหลักฐาน แต่พอวันหนึ่งเขาลืมวางโทรศัพท์ไปหยิบของ เราก็ไม่ทันได้หยิบ มันมีข้อความขึ้นมาหน้าจอ เหมือนไดเรกต์ไอจีมาว่า ที่รักคะ อยู่ไหน ตอนนั้นเราหน้าชาหมดเลย แต่ก็พยายามดูใหม่ มันอาจจะเป็นข้อความอะไรที่โดนแกล้งหรือเปล่า เราก็หยิบโทรศัพท์ไปเลย เปิดเดี๋ยวนี้ ปลดล็อกเดี๋ยวนี้ เขาก็เหมือนลุกลี้ลุกลน แล้วเหมือนเขาไม่ยอม เราบอกว่าถ้าไม่เปิดเราจะเขวี้ยงโทรศัพท์ให้แตกเลยนะ เขาก็เลยเปิด พอเข้าไปอ่านเท่านั้นแหละช็อกเลย

- ตอนนั้นคุณทำยังไง ?

              ลีซอ : ทำตัวไม่ถูก ใจสั่นถึงตาตุ่มเลย แต่ผมก็ยอมหมด เล่าหมดเลย ไม่ต้องถาม

- พอเล่าให้ฟังคือเลิกเลยเหรอ ?

              เฟี๊ยต : คือเราก็ถามเขา เขาก็ค่อย ๆ สารภาพ แล้วมันเจ็บตรงที่ว่าช่วงที่เขาไปเจอกัน คือช่วงที่เราไปอินเดีย เราไปถือศีล ไปบวชที่อินเดีย 10 วัน บวชเพื่อเขา เพราะช่วงนั้นงานเขาเริ่มไม่ค่อยดี เหมือนกับเริ่มหลุดจากทีมชาติ 10 วันนั้นเราทำบุญให้เขาทุกวัน แต่เขาไปนัดเจอกัน แล้วเขาเป็นคนสารภาพเองด้วย เขาบอกว่าเพิ่งไปเจอกันแค่ครั้งเดียวเอง เราก็ถามวันไหน เขาก็บอกวันที่เราไปอินเดีย เราก็เลยรู้สึกว่าถ้ายังไม่พร้อมก็เลิกกันไปก่อนดีกว่า ให้เขาไปใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่ เขาก็ไม่ยอม ไม่ได้ นู่นนี่นั่น เราก็เลยบอกงั้นแยกกันอยู่เลย คือแต่ก่อนเราอยู่ด้วยกัน แล้วมันก็เลยเป็นที่มาที่เพื่อนแซวว่าลีซอโดนไล่ออกจากบ้าน ก็คือต่างคนต่างอยู่ แยกกันประมาณเกือบอาทิตย์ 2 อาทิตย์

ลีซอ

- แล้วเขาแก้ตัวยังไง ?

              ลีซอ : ผมก็เลิกนิสัยนี้ ง้อเขา สุดท้ายโทร. หาคุณแม่เขา สารภาพว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้น แล้วให้คำมั่นสัญญากับคุณแม่เขา จะไม่ทำแล้ว จะพยายามปรับตัว

              เฟี๊ยต : มีอยู่คำหนึ่ง เขารักน้องสาวเฟี๊ยตมาก เขาจะสนิทกันมาก แต่พอน้องรู้เรื่อง น้องบอกผิดหวังในตัวพี่มากเลย ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ เขาก็มาเล่าให้ฟังว่ามันเป็นคำนี้ที่น้องเราพูด แล้วเขารู้สึกว่าเขาเจ็บมาก

- วันนั้นแม่โทร. มาบอกเราเลยไหม ?

              เฟี๊ยต : เราโทร. ไปบอกแม่เขาและแม่เราว่าขอยุติความสัมพันธ์นะ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ ไปต่อไม่ไหว แม่ก็เหมือนเรียกมาคุยกัน 2 คน แม่ก็บอกเราให้เขามา แล้วเขาก็มาพอดี แม่เฟี๊ยตนะคะ แล้วเขาก็มาขอโทษแม่ บอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งได้ไหม แล้วเขาจะไม่ทำอีก

              ลีซอ : อันนี้แม่เขานะ ส่วนแม่ผม ทำไมทำแบบนี้ ลูกผู้ชายทำแบบนี้ได้ไง มายับเลย

ลีซอ

- แล้วอะไรทำให้เราลองอีกครั้งกับผู้ชายคนนี้ จนวันนี้เราแต่งงานกับเขา ?

              เฟี๊ยต : เรารู้สึกว่าตลอดเวลาที่เราคบกันมา เขาไม่เคยมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเลย นอกจากเรื่องผู้หญิงที่เราจับได้แค่ครั้งนี้ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เราจับได้แบบไม่มีหลักฐาน มันหาตัวตนไม่ได้ แต่พอครั้งนี้เราจับได้ เราก็โอเค เราลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งไหม เอาข้อดีและข้อเสียมาบาลานซ์กัน คือข้อดีเขาเยอะกว่าข้อเสีย ก็เลยให้โอกาสอีกครั้ง

- ทำไมแขวนสตั๊ด ?

              ลีซอ : ผมว่าฟุตบอลมันถึงจุดที่น่าจะสุดทางของผมแล้ว เราก็เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้ว เราก็ 37 แล้วเต็มที่แล้ว อยากเปลี่ยนบทบาทในชีวิตไปอีกอย่าง

- บทบาทนั้นคือ ?

              ลีซอ : คนขับรถ คือก่อนหน้าที่ผมจะเลิก มีโอกาสได้ไปทำงานกับเขาหลายครั้ง มีการประสานงานกับชาวต่างชาติบ้าง แล้วเวลาไปไหนมาไหน ถ้าเราขับรถมันก็จะง่าย แล้วเขาเองก็คุยงานกับมือถือตลอด ถ้ามีคนขับเราก็จะง่ายขึ้น เราเลยคิดว่าพอเราเลิกแล้วเรามีโอกาสไปทำงานกับเขาได้ ช่วยเขาในการประสานงานในด้านการใช้ภาษาต่างประเทศก็ได้

ลีซอ

- อยากจะบอกอะไรกับผู้หญิงคนนี้ ?

              ลีซอ : อยากจะขอบคุณเขาที่อยู่ด้วยตลอดทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี และเป็นคนที่คอยแนะนำในอีกพาร์ตหนึ่งของชีวิต ในการทำธุรกิจ ในการใช้ชีวิตคู่ ก็ขอบคุณ รักมาก

             เฟี๊ยต : ให้เขาเป็นแบบนี้แหละ เป็นคนที่น่ารัก เป็นคนที่มีวินัย ถึงแม้จะเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว แต่ยังคงต้องมีวินัยเหมือนเดิม แล้วดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว แล้วก็อยากให้เขาเลิกเล่นโทรศัพท์ ขับรถก็เล่นโทรศัพท์ ทุกอย่างคือโทรศัพท์หมด เป็นห่วง อันตราย

              ลีซอ : โอเค ขอบคุณมากครับ

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลีซอ ควงว่าที่เจ้าสาว เล่าเส้นทางรัก 10 ปี หวิดเลิกเพราะมือที่สาม-หยุดเจ้าชู้ เพื่อคนนี้ ! อัปเดตล่าสุด 18 มกราคม 2566 เวลา 15:04:01 18,785 อ่าน
TOP
x close