ติวเตอร์ดังเล่าเข้าอเมริกา ภาษาอังกฤษดีจัด ตม. ลัดคิวให้นึกว่าเป็นซิตี้เซ่น โป๊ะแตกเปล่า ?!

 
             ติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษชื่อดังโพสต์เล่า ตอนที่ไปสหรัฐอเมริกา ตม. พาเข้าแถวลัดคิว เพราะพูดอังกฤษคล่องจนคิดว่าเป็นพลเมืองอเมริกัน ชาวเน็ตจับโป๊ะ เรื่องนี้ต้องหารร้อย

ตม.

          กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในโลกทวิตเตอร์ หลังติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษชื่อดัง มีการทวีตข้อความเล่าเรื่อง เมื่อครั้งเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกริ่นมาว่าถ้าไปประเทศนี้แล้วพูดภาษาอังกฤษคล่อง จะถูกเข้าใจว่าเป็นคนอเมริกันทันที เพราะประเทศนี้มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายมาก

           ติวเตอร์สาวเล่าอีกว่า ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาทักเธอว่า "Gurlll you on fireee! Where did you get that coat ?" (เธอแซ่บมาก ซื้อโค้ทที่ไหน) พอเมาท์กันเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็พาเธอไปเข้าแถวพลเมือง (American Citizen) แล้วบอกให้เอาใบขับขี่มา เดี๋ยวลัดคิวให้เลย เธอจึงบอกไปว่า เธอเป็นคนไทย ไม่ใช่คนอเมริกัน

          อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องที่ติวเตอร์สาวคนดังกล่าวเล่า เพราะหลายเรื่องที่เล่ามักจะต้องเอามาหารร้อย จึงมองว่าเรื่องนี้จ้อจี้หรือเปล่า ซึ่งก็มีคนไทยที่ตอนนี้กลายเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกา เข้ามาให้ข้อมูลว่า ในฐานะที่เธอเป็นพลเมือง เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ลัดคิวให้ใครทั้งนั้น ตม. ที่นั่งอยู่ประจำโต๊ะเท่านั้น ที่จะยกมือเรียกคนที่ยืนต่อแถว อีกอย่างถ้าเข้าสหรัฐฯ ต้องใช้พาสปอร์ตเท่านั้น ไม่ใช้ใบขับขี่

ตม.
ภาพจาก Kristyna Henkeova / Shutterstock.com

           นอกจากนี้ยังมีคนให้ข้อมูลเสริมด้วยว่า เวลาขับรถไปเม็กซิโก แคนาดา แล้วขับกลับมา สามารถใช้ใบขับขี่เช็กสถานะพลเมืองเพื่อกลับเข้าประเทศได้ ดังนั้นในทางเทคนิคจึงไม่จ้อจี้ ทำได้ แต่ที่สนามบินไม่เคยเห็นมีใครใช้ เพราะธรรมชาติของการเดินทางกลับจากประเทศอื่นโดยเครื่องบินมันต้องมีหนังสือเดินทางอยู่แล้ว ไม่ใช่จะเป็นพลเมืองหรือไม่ใช่พลเมืองของอเมริกัน และยิ่งการถามหาใบขับขี่ยิ่งไม่ใช่ อย่างน้อยต้องถามหา บัตรประจำตัวประชาชน หรือ ID Card ของคนคนนั้น

           ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะไม่ถามหาใบขับขี่ก่อนหนังสือเดินทาง และแถวคนต่างชาติกับแถวพลเมืองจะแยกกันโดยเด็ดขาด ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงคิดว่าจะดึงคนจากแถวคนต่างชาติไปเข้าแถวพลเมืองได้ เพราะพลเมืองก็ไปเข้าแถวพลเมืองอยู่แล้ว ซึ่งคิวสั้นกว่า ตรวจสอบน้อยกว่า จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เรื่องราวที่ติวเตอร์สาวเล่าจะเป็นเรื่องจ้อจี้

           และตอนนี้ติวเตอร์สาวได้ลบทวีตดังกล่าวออกไปแล้ว ซึ่งหลายคนก็มองว่าน่าจะเป็นการโฆษณาขายคอร์สให้ตัวเองมากกว่า อีกอย่าง ตม. ที่นั่นก็ตรวจเข้มมาก ไม่มีทางที่จะปล่อยไปง่าย ๆ

ตม.

ตม.

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ติวเตอร์ดังเล่าเข้าอเมริกา ภาษาอังกฤษดีจัด ตม. ลัดคิวให้นึกว่าเป็นซิตี้เซ่น โป๊ะแตกเปล่า ?! อัปเดตล่าสุด 18 มกราคม 2566 เวลา 16:33:44 9,522 อ่าน
TOP
x close