นักเรียนมัธยม รับงานนางแบบแต่งหน้าเจ้าสาว โรงเรียนมาเห็น ตั้งข้อหาทำให้เข้าใจผิดว่าแต่งงานแล้ว พร้อมเซ็นลงนามรับผิด งานนี้ทัวร์ลงสนั่น แม้กระทั่งทนายดังมาโพสต์แจม ผิดกฎหมายนะ
วันที่ 18 มกราคม 2566 กำลังเป็นไวรัลที่ดุเดือด ทั้งที่มีการโพสต์ไป 4 ชั่วโมง แต่มีคนแชร์ทะลุ 1 หมื่นครั้งไปแล้ว โดยเป็นเรื่องนักเรียนคนหนึ่ง ถูกโรงเรียนตั้งข้อหาว่าสวมชุดเจ้าสาว ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกเสี่ยงพิจารณาโทษได้ เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร กระปุกดอทคอมจะสรุปให้
เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา เมื่อ เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี ประกอบอาชีพช่างแต่งหน้างานแต่ง มีการโพสต์ภาพของน้อง อ. ที่เป็นนางแบบชุดเจ้าสาวงานเช้า พร้อมกับลงภาพก่อนแต่งหน้าและหลังแต่งหน้า ผลออกมาคือ เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถึงแม้หน้าเดิมจะสวยอยู่แล้ว แต่เมื่อแต่งหน้าเพิ่มเข้าไปก็สวยคมกริบ
ด้วยความที่น้อง อ. กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง และมีบุคลากรของโรงเรียนมาเห็นภาพดังกล่าวเข้า จึงกล่าวหาว่า การที่น้อง อ. ไปรับงานเป็นนางแบบแต่งหน้าเจ้าสาว สร้างความเข้าใจผิด ทำให้คนคิดว่าน้อง อ. แต่งงานแล้ว ทำผิดกฎระเบียบโรงเรียน ให้น้อง อ. ลงแบบบันทึกการกระทำผิดของโรงเรียนเอาไว้ เซ็นชื่อรับผิดในข้อหา "พี่จับแต่งหน้าใส่ชุดเจ้าสาว ทางโรงเรียนเข้าใจผิดคิดว่าแต่งงาน" ทั้งที่ต้นโพสต์ก็ระบุชัดว่า น้อง อ. คือนางแบบ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี
แจงชัด น้อง อ. ไม่ได้แต่งงาน
ต่อมาทางเฟซบุ๊กของช่างแต่งหน้า จึงได้โพสต์เรื่องดังกล่าว ระบุว่า น้อง อ. คือ น้องสาวของตนเอง กินข้าวหม้อเดียวกัน และที่สำคัญคือ น้องไม่ได้แต่งงาน น้องเป็นแค่นางแบบของทางร้าน ถ้าหากเป็นนางแบบของทางร้านแล้วผิดกฎระเบียบโรงเรียน ก็ต้องขอโทษด้วย
นอกจากนี้ ทางช่างแต่งหน้า ระบุถึงชาวเน็ตว่า อย่าคอมเมนต์กันแรง ไม่อยากมีประเด็น ที่ออกมาโพสต์เพราะต้องการขอโทษทางโรงเรียนที่ทำให้น้องผิดระเบียบของโรงเรียน กลัวน้องมีผลกระทบด้านการศึกษา จึงต้องการเคลียร์เพื่อให้ทราบทั่วกันว่า ร้านไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แค่นำน้องสาวตัวเองมาแต่งเป็นนางแบบเจ้าสาวเท่านั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี
ทัวร์ลงโรงเรียนโดยพลัน แม้กระทั่งทนายดังมาโพสต์
ถึงแม้จะมีคอมเมนต์เบรกชาวเน็ต แต่กระแสก็แรงจนแทบเบรกไม่อยู่ คนตั้งคำถามกลับว่า แล้วถ้าน้องเป็นนางแบบแต่งหน้า มันผิดตรงไหน พร้อมกันนั้น ยังมีการซัดโรงเรียนว่าขาดวิจารณญาณ ควรแยกแยะเรื่องแบบนี้ได้ ถ้ายังแยกแยะไม่ได้ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า โรงเรียนจะสอนให้น้องเป็นผู้เป็นคน
ขณะเดียวกันก็มีคนซัดโรงเรียนเรื่องการอ่านตีความคำว่า "นางแบบเจ้าสาวงานเช้า" มันก็หมายถึงนางแบบ ไม่ได้เป็น "เจ้าสาว" แบบนี้โรงเรียนจะสอนให้เด็กมีคุณภาพได้หรือ
ด้านทนายเจมส์ ก็ร่วมแสดงความเห็นใต้โพสต์ว่า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าแต่งสวยเกินหน้าเกินตา เพราะจะมีพวกชอบฟ้องเบื้องบน แต่สิทธิ เสรีภาพในร่างกายเป็นของตัวเราตามกฎหมาย กฎของโรงเรียนข้อไหนที่ขัดต่อกฎหมายก็ควรปรับแก้
วันที่ 18 มกราคม 2566 กำลังเป็นไวรัลที่ดุเดือด ทั้งที่มีการโพสต์ไป 4 ชั่วโมง แต่มีคนแชร์ทะลุ 1 หมื่นครั้งไปแล้ว โดยเป็นเรื่องนักเรียนคนหนึ่ง ถูกโรงเรียนตั้งข้อหาว่าสวมชุดเจ้าสาว ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกเสี่ยงพิจารณาโทษได้ เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร กระปุกดอทคอมจะสรุปให้
เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา เมื่อ เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี ประกอบอาชีพช่างแต่งหน้างานแต่ง มีการโพสต์ภาพของน้อง อ. ที่เป็นนางแบบชุดเจ้าสาวงานเช้า พร้อมกับลงภาพก่อนแต่งหน้าและหลังแต่งหน้า ผลออกมาคือ เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถึงแม้หน้าเดิมจะสวยอยู่แล้ว แต่เมื่อแต่งหน้าเพิ่มเข้าไปก็สวยคมกริบ
ด้วยความที่น้อง อ. กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง และมีบุคลากรของโรงเรียนมาเห็นภาพดังกล่าวเข้า จึงกล่าวหาว่า การที่น้อง อ. ไปรับงานเป็นนางแบบแต่งหน้าเจ้าสาว สร้างความเข้าใจผิด ทำให้คนคิดว่าน้อง อ. แต่งงานแล้ว ทำผิดกฎระเบียบโรงเรียน ให้น้อง อ. ลงแบบบันทึกการกระทำผิดของโรงเรียนเอาไว้ เซ็นชื่อรับผิดในข้อหา "พี่จับแต่งหน้าใส่ชุดเจ้าสาว ทางโรงเรียนเข้าใจผิดคิดว่าแต่งงาน" ทั้งที่ต้นโพสต์ก็ระบุชัดว่า น้อง อ. คือนางแบบ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี
แจงชัด น้อง อ. ไม่ได้แต่งงาน
ต่อมาทางเฟซบุ๊กของช่างแต่งหน้า จึงได้โพสต์เรื่องดังกล่าว ระบุว่า น้อง อ. คือ น้องสาวของตนเอง กินข้าวหม้อเดียวกัน และที่สำคัญคือ น้องไม่ได้แต่งงาน น้องเป็นแค่นางแบบของทางร้าน ถ้าหากเป็นนางแบบของทางร้านแล้วผิดกฎระเบียบโรงเรียน ก็ต้องขอโทษด้วย
นอกจากนี้ ทางช่างแต่งหน้า ระบุถึงชาวเน็ตว่า อย่าคอมเมนต์กันแรง ไม่อยากมีประเด็น ที่ออกมาโพสต์เพราะต้องการขอโทษทางโรงเรียนที่ทำให้น้องผิดระเบียบของโรงเรียน กลัวน้องมีผลกระทบด้านการศึกษา จึงต้องการเคลียร์เพื่อให้ทราบทั่วกันว่า ร้านไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แค่นำน้องสาวตัวเองมาแต่งเป็นนางแบบเจ้าสาวเท่านั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อะไรดี หมีก็ว่าดี
ทัวร์ลงโรงเรียนโดยพลัน แม้กระทั่งทนายดังมาโพสต์
ถึงแม้จะมีคอมเมนต์เบรกชาวเน็ต แต่กระแสก็แรงจนแทบเบรกไม่อยู่ คนตั้งคำถามกลับว่า แล้วถ้าน้องเป็นนางแบบแต่งหน้า มันผิดตรงไหน พร้อมกันนั้น ยังมีการซัดโรงเรียนว่าขาดวิจารณญาณ ควรแยกแยะเรื่องแบบนี้ได้ ถ้ายังแยกแยะไม่ได้ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า โรงเรียนจะสอนให้น้องเป็นผู้เป็นคน
ขณะเดียวกันก็มีคนซัดโรงเรียนเรื่องการอ่านตีความคำว่า "นางแบบเจ้าสาวงานเช้า" มันก็หมายถึงนางแบบ ไม่ได้เป็น "เจ้าสาว" แบบนี้โรงเรียนจะสอนให้เด็กมีคุณภาพได้หรือ
ด้านทนายเจมส์ ก็ร่วมแสดงความเห็นใต้โพสต์ว่า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าแต่งสวยเกินหน้าเกินตา เพราะจะมีพวกชอบฟ้องเบื้องบน แต่สิทธิ เสรีภาพในร่างกายเป็นของตัวเราตามกฎหมาย กฎของโรงเรียนข้อไหนที่ขัดต่อกฎหมายก็ควรปรับแก้