อัปเดตอาการ พยาบาลอุ้ม เหตุรถฉุกเฉินชนรถพ่วง ครบ 1 ปี เกือบถอดใจ
แต่ตอนนี้มีข่าวดี ถอดท่อที่คอได้แล้ว หายใจได้เองเป็นปกติ ยิ้ม ชูสองนิ้ว
นั่งได้ และกำลังฝึกยืน
ภาพจาก เรื่องเล่าหมอชายแดน
จากกรณีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ
ชนกับรถตู้ฉุกเฉินของโรงพยาบาลอุ้มผาง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง หรือ น้องอุ้ม ซึ่งเป็นพยาบาล
ถูกแรงกระแทกอัดติดคาซากรถ อาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565
วันที่ 20 มกราคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน ได้มีการโพสต์อัปเดตอาการน้องอุ้มว่า 1 ปีที่ผ่านไป กับชีวิตใหม่ของน้องอุ้ม ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้ม พยาบาล โรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้ว ที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรกหลังจากที่อาการทรงตัวได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด
วันที่ 20 มกราคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน ได้มีการโพสต์อัปเดตอาการน้องอุ้มว่า 1 ปีที่ผ่านไป กับชีวิตใหม่ของน้องอุ้ม ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้ม พยาบาล โรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้ว ที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรกหลังจากที่อาการทรงตัวได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด
ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถี ที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอได้แล้ว สามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจเนื่องจากหัวใจเต้นช้าอันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจคิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุดอาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา
ภาพจาก เรื่องเล่าหมอชายแดน
ทางโรงพยาบาลอุ้มผางโดยท่าน ผอ. นพ.วรวิทย์ ก็ได้เตรียมทำห้องเพื่อดูแลน้องอุ้มหากเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคตค่ะ มาร่วมเป็นกำลังใจให้น้องอุ้มกันนะคะ จึงขออัปเดตเรื่องราวการต่อสู้ของน้องอุ้มตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบความเคลื่อนไหว หากน้องพร้อมเมื่อไหร่คงจะได้มาพบปะทุกท่านด้วยตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยท่านอื่นและครอบครัวที่กำลังท้อแท้เกี่ยวกับการเจ็บป่วยได้มีแรงสู้ต่อเหมือนน้องอุ้มและครอบครัว ที่สู้กันสุด ๆ จนมีวันนี้วันที่ดีกว่าเมื่อวานค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน