รองผู้ว่าฯ กทม. ร่ายยาวแจง ดราม่าเทศกิจทำร้ายประชาชน เล่าชัดความจริงเป็นยังไง ยันไม่มีการทำร้าย ผู้ค้าไม่ยอมย้าย - อยู่ ๆ ก็ล้มเอง ยันจัดพื้นที่ให้แล้วแต่ไม่ยอมปฏิบัติตาม
กลายเป็นกรณีดราม่าสนั่น หลังผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งเผยแพร่คลิปขณะหญิงเจ้าของร้านขายโรตี บริเวณปากซอยทางเข้าศาลาแดง กำลังทำโรตีไปร้องไห้ไป ด้วยความน้อยใจหลังถูกเทศกิจเข้ามาไล่ที่จนลูกค้าต้องเข้ามาช่วยปลอบ โดยเธอกล่าวทั้งน้ำตาระหว่างทำโรตีว่า เธอไม่ได้ตั้งร้านกีดขวางขนาดนั้น พ่อเธอขายมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว ถ้าเธอไม่อดทนแล้วคนที่บ้านจะกินอะไร ขนาดที่อื่นยังขายได้เลย
รวมถึงมีการเผยแพร่อีกคลิป ขณะที่ผู้ค้าย่านสีลมกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่เทศกิจ ซึ่งกลุ่มผู้ค้ามีการแสดงความไม่พอใจ มีการตะโกนบอกว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน ก่อนจะปรากฏภาพขณะก้มกราบเจ้าหน้าที่ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ด้านแม่ค้าโรตีในคลิป ยังเปิดใจ บอกว่าจากนี้พวกเธอก็จะยืนหยัด จะสู้ต่อ ขอให้พวกเธอได้ขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว เพราะทุกคนมีภาระ หลังจากมีคำสั่งจัดระเบียบมา ให้ทำรถเล็กลง ก็ทำไปแล้ว พวกเธอทำทุกอย่างตามที่สั่งมาแล้ว ขอกราบเรียนท่านผู้ว่าฯ พวกหนูขอความวิงวอน ขอให้มีพื้นที่ทำมาหากิน และมาจัดระเบียบให้พวกเรา ขอความเห็นใจด้วย
ต่อมา (21 มกราคม 2566) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ทางกรุงเทพมหานคร นำโดย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงประเด็นที่เกิดขึ้น ระบุว่าที่ผ่านมาผู้ค้าทางเท้ามีปัญหามาโดยตลอด กทม. มีผู้ค้าบนทางเท้า 700 แห่ง หรือคิดเป็นผู้ค้าประมาณ 20,000 ราย ที่ผ่านมาก็มีการจัดระเบียบโดยมีกฎหมายรองรับแล้ว ดังนั้นจะทำการค้าได้ต้องขออนุญาตตั้งแต่มิถุนายน 2565
ทาง กทม. ได้สำรวจพื้นที่เพื่อให้ผู้ค้าเข้าไปขายในที่เหมาะสม ซึ่งสำรวจมาได้ 125 แห่งรองรับให้ผู้ค้ากว่า 10,000 ราย โดยที่ผ่านมา กทม. มีการอนุโลมให้ผู้ค้าทางเท้า ค้าขายได้แต่ต้องมีเงื่อนไข ไม่รบกวนทางเท้าประชาชนด้วย เพราะเป็นพื้นที่ของประชาชน หากมีการค้าขายบนทางเท้าตลอดไปเป็นไปไม่ได้ ต้องย้ายเข้าไปในจุดที่ กทม. จัดให้ และต้องยอมรับว่าถนนบางเส้นมีคนใช้จำนวนมาก จะไปกีดขวางการจราจรของคนส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อ กทม. จัดหาพื้นที่ให้แล้ว ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการโยกย้ายไปจุดที่กำหนด
ทั้งนี้ การดำเนินการในวันที่ 19-20 มกราคม เป็นไปตามอำนาจหน้าที่หลังแจ้งให้ผู้ค้าทราบ แต่ในวันที่ 20 มกราคม ผู้ค้ามีการขัดขืน ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
ขณะที่ นายจักกพันธุ์ รองผู้ว่าฯ ได้เล่าเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป ยืนยันว่าตนอยู่ในเหตุการณ์วันที่ 20 มกราคม ซึ่งมีภาพว่าท่านไปยกถังแกลลอนของผู้ค้าขึ้นรถเทศกิจ รวมถึงมีคนส่งเสียงกล่าวหาว่าท่านทำร้ายประชาชน โดย นายจักกพันธุ์ เล่าว่า ความจริงผู้ค้ารายนี้เคยมาร้องเรียนที่ กทม. และได้ชี้แจงแล้วว่า กทม. จัดพื้นที่ไว้ 3 ที่ ในซอยศาลาแดง ซอนคอนแวนต์ และซอยตรงข้ามวัดแขก แต่ผู้ค้าไม่ปฏิบัติตาม และตนก็เคยไปพูดคุยด้วย
โดยผู้ค้าชี้ว่า ฝ่ายเทศกิจเขตบางรัก ตกลงว่าจะเตรียมที่ให้เขาในซอยศาลาแดง แต่ยังไม่จัดการให้สักที ดังนั้นเมื่อเขตบางรักพูดคุยก็ต้องจัดการให้ และเทศกิจเขตบางรักก็ไปเตรียมที่ให้แล้ว แต่เขาไม่ยอมไป จนมาวันที่ 20 มกราคม ก็จะเห็นว่ามีผู้ค้าเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ลงมาบนทางเท้าเต็มที่ คือร้านน้ำเต้าหู้
เมื่อตนเองไปเจอก็ได้ไปแจ้งว่า ปฏิบัติไม่ถูกต้อง หัวหน้าเทศกิจก็แจ้งว่า เนื่องจากปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายท่านจะต้องออกจากการค้าขาย แต่เขาไม่ยอม หลังจากนั้นเขาก็ยกถังแกลลอนใส่น้ำเต้าหูไปเตรียมของขาย ตนจึงแจ้งว่าต้องขอยึดของกลาง และเทศกิจก็ยกบางส่วนไปที่รถของเทศกิจเพื่อเป็นการบอกว่า ให้ผู้ค้าหยุดขาย และเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจที่สำนักงานเขต
แต่ระหว่างพูดคุยปฏิบัติหน้าที่ ก็มีคนประมาณ 10 คน เข้ามารุมเจ้าหน้าที่ ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่บอกเพียงว่า ท่านปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง จากนั้นก็มีคนมามุงดูและด่าทอเจ้าหน้าที่ ตนจึงให้เทศกิจถอยออกมาเพื่อไม่ต้องการให้กระทบกระทั่งกัน
แต่ตอนเดินออกมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินไปประกบหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ คอยต่อว่าตลอด ลักษณะขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ จากนั้นระหว่างเดินอยู่ ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ล้มลงไปเอง ไม่ได้มีใครแตะตัว จากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนชี้ไปทางหัวหน้าเศรษฐกิจว่าคนนี้ทำร้าย จากนั้นเทศกิจก็กระจายตัวกันให้มากที่สุด ทำให้ยืนยันได้ว่า คลิปที่มีการต่อว่ารองผู้ว่าฯ ไปตบตีแม่ค้า ไม่เป็นความจริง และตนได้ให้หัวหน้าฝ่ายเทศกิจเขตบางรัก ไปแจ้งความกล่าวโทษผู้ที่กล่าวหาตนเองแล้ว
นอกจากนี้ นางฐิติมา จิตติวรรณ พนักงานกวาดถนนของ กทม. ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้ยืนยันอีกเสียงว่า เรื่องเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชนนั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาทำร้ายประชาชน มีแต่ผู้ค้าพยายามเดินมาต่อว่า ขวางทางเดินเจ้าหน้าที่ พูดจา ยุยงเสียดสีใส่ และมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7- 8 คน พยายามเข้ามาเอาเรื่องเจ้าหน้าที่เทศกิจ
สำหรับเรื่องที่ทำไมเยาวราชขายได้ นายจักกพันธุ์ ชี้แจงว่า ที่ตรงนั้นทางเท้าค่อนข้างแคบ และได้รับการผ่อนผันอยู่แล้ว ประกอบกับบริเวณนั้นเป็นสตรีทฟู้ด มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รวมถึงตนได้สั่งการให้แต่ละเขตจัดหาสถานที่ที่เหมาะสม ให้ผู้ค้าได้ไปขายอย่างถูกต้องแล้ว
ยืนยันว่าหลังการจัดระเบียบก็ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ค้า ที่ผ่านมามีการไปต่อรองกับเอกชนให้คิดค่าเช่าผู้ค้าให้ถูกที่สุด รวมถึงการจัดการปัญหาขยะด้วย และมองว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าทุกคนเข้าใจสิ่งที่ตัวเองปฏิบัติ และปฏิบัติตามเงื่อนไข
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
