ดราม่า ชายตายทิพย์จัดงานศพสุดอาลัย ทำญาติ-เพื่อนช็อกซ้ำกลางงาน จบอย่างสาปส่ง

           สำหรับบัลทาซาร์ เขามีอาชีพเป็นผู้ดำเนินพิธีมากประสบการณ์ ที่เคยจัดงานพิธีต่าง ๆ มามากมาย รวมถึงจัดงานศพมาเป็นร้อย ๆ งาน โดยที่บางงานมีผู้มาร่วมงานเพียง 2 คน ขณะที่บางงานมีมากถึง 500 คน เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า เมื่อถึงเวลาที่เขาจากไปจริง ๆ จะมีเพื่อนและครอบครัวสักกี่คนที่มาร่วมไว้อาลัยแก่ตัวเอง แน่นอนว่ามันเป็นคำตอบที่ไม่มีวันรู้หากรอให้วันนั้นมาถึง ดังนั้นเขาจึงวางแผนตายทิพย์ เพื่อจะดูว่ามีคนมาร่วมงานศพของเขามากแค่ไหน
 
           ขณะที่ก่อนหน้านี้นในเฟซบุ๊กของเขา มีการโพสต์ภาพถ่ายบริเวณหน้าโรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในเซาเปาลู ดังนั้นคนที่เข้ามาดูจึงเชื่อว่า บัลทาซาร์ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

           ข่าวร้ายกะทันหันสร้างความช็อกแก่ครอบครัวของบัลทาซาร์อย่างมาก เพราะไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาแอดมิตเข้าโรงพยาบาล หลานคนหนึ่งถึงกับรีบไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อถามข้อมูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าไม่มีบันทึกการเข้ารักษาตัวของบัลทาซาร์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
 
           แม้จะไร้ข้อมูลยืนยันจากทางโรงพยาบาล แต่ญาติ ๆ และเพื่อนพ้องของบัลทาซาร์ต่างจมอยู่กับความโศกเศร้า ผู้คนต่างก็พากันเข้ามาคอมเมนต์ไว้อาลัยและสอบถามสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งก็ยังไม่มีคำอธิบายใด ๆ มีเพียงโพสต์แจ้งเวลากับสถานที่ในการจัดงานไว้อาลัยกับสถานที่จัดงานศพของบัลทาซาร์ลงเฟซบุ๊กเท่านั้น  

           กระทั่งวันที่ 18 มกราคม เพื่อนและครอบครัวของบัลทาซาร์ต่างก็มารวมตัวกันในโบสถ์เล็ก ๆ เพื่อจะร่วมงานศพของเขา ในจุดหนึ่งอยู่ ๆ ก็มีเสียงของบัลทาซาร์ดังขึ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ทำให้ผู้เข้าร่วมงานบางคนเริ่มร้องไห้ เพราะคิดว่าเป็นเสียงบันทึกของผู้ล่วงลับ แต่แล้วจู่ ๆ ประตูบริเวณทางเดินของโบสถ์ก็เปิดออก ขณะที่บัลทาซาร์ก้าวเข้ามายืนต่อหน้าทุกคน

           อย่างที่คาดคิด ปฏิกิริยาของคนที่ได้เห็นเขาต่างก็เต็มไปด้วยความสับสน บางคนเริ่มร้องไห้ ขณะที่บางคนอ้าปากค้าง แต่เมื่อทุกคนได้ฟังคำอธิบายของบัลทาซาร์ ว่าทั้งหมดเป็นเพียงการจัดฉากเพื่ออยากดูว่าจะมีใครมางานศพของเขาบ้าง ผู้คนก็เริ่มต่อว่าในความใจดำของเขา
 
           เรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นดราม่าหนัก ทั้งในหมู่คนรู้จัก รวมถึงผู้คนบนโลกออนไลน์ที่รู้ข่าว โดยชาวเน็ตรายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ว่า "คุณได้สิ่งที่ต้องการแล้วนะบัลทาซาร์ นั่นก็คือการเรียกร้องความสนใจ บรรดาช่างภาพและผู้คนต่างก็พูดถึงการตายของคุณ ทุก ๆ คนต่างโศกเศร้า นี่มันเรื่องตลกไร้สาระอะไร ฉันว่าคุณควรถ่ายภาพทุก ๆ คนที่เศร้ากับการตายของคุณซะนะ ฉันไม่รู้จักคุณเป็นการส่วนตัวหรอก และก็หวังว่าจะไม่มีวันได้พบคุณด้วย"
 
           ต่อมามีนักข่าวที่พยายามติดตามบัลทาซาร์ไปเพื่อนถามแรงจูงใจในการตายทิพย์ของเขา ซึ่งบัลทาซาร์อธิบายว่า เขาไม่ได้อยากจะทำให้ทุกคนเศร้าโศก แต่นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เขารู้ได้ว่า จะมีใครไว้ทุกข์แก่เขาบ้าง หากถึงวันที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

           "ผมเกิดไอเดียนี้เมื่อ 5 เดือนก่อน ผมอยากทำให้ดูเหมือนผมตายไปแล้วจริง ๆ ผู้คนจะตีความกันในแบบตัวเอง ความจริงคือผมอยากรู้ว่าจะมีใครมางานไว้อาลัยของผม ผมไม่ได้บอกใครเลย เพราะหวังว่ามันจะได้ผล ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย รุกราน หรือสร้างอันตรายแก่ใคร ผมอยากขอโทษคนเหล่านั้นจริง ๆ" บัลทาซาร์ กล่าว

           อย่างไรก็ตาม คนในสังคมมองว่าเป็นคำขอโทษที่ฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าจริง ๆ แล้วบัลทาซาร์ยังมีแม่วัย 80 กว่าปี ที่ต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ ซึ่งหญิงชราอาจหัวใจวายได้หากทราบข่าวการตายของลูกชาย ยังไม่นับรวมถึงญาติ ๆ เพื่อนร่วมงาน และครอบครัวของเขาที่ต้องเศร้าใจกับเรื่องนี้
 
           "ผมรู้จักเขามาตั้งแต่ปี 2544 ผมคิดว่าเรื่องครั้งนี้แย่มาก ๆ ผมใช้ 1 วันจมอยู่กับความเศร้า และอีก 1 วันจมอยู่กับความโกรธเคือง สำหรับผมเขาตายไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ตอนที่ผมรู้ความจริงบอกเลยว่ามันแย่มาก" หนึ่งในนักวางแผนอีเวนต์ที่เคยร่วมงานกับบัลทาซาร์ กล่าว
 

ขอบคุณข้อมูลจาก อ็อดดิตี้เซ็นทรัล