คาหนังคาเขา ผอ. เรียกเงินค่าอาหารเด็ก 3 แสนบาท เดิมหัวละ 28 บาท น้อยแล้วยิ่งโดนกด


          จับคาหนังคาเขา ผอ. เรียกเงินคู่สัญญา โกงค่าอาหารกลางวันเด็ก 3 แสนบาท จากทุน 28 บาทต่อหัว ก็ยิ่งต่ำลงไปอีก หากินกับความเดือดร้อนเด็ก

 
         วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมนายไพฑูรย์ วัย 58 ปี ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่ง เขตคลองสามวา คาห้องทำงาน มีของกลางคือเงินสด 329,000 บาท

          ก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ทราบว่า ผอ. คนดังกล่าว นัดคู่สัญญาหรือผู้ประมูลโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ให้นำเงินส่วนต่างดังกล่าวมามอบให้ มิเช่นนั้นจะแจ้งเรื่องไป กทม. และคู่สัญญารายนี้ก็จะไม่ได้รับงานอีก ทั้งที่เป็นผู้ชนะการเสนอราคาทำอาหารกลางวันให้นักเรียน โดยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์


          อย่างไรก็ตาม ผอ. มักเรียกรับผลประโยชน์จำนวนหลายครั้ง แต่ละครั้งมักเสนอว่า ควรแบ่งเงินกำไรจากการประกอบอาหารให้ตนบ้าง และพูดทำนองให้คู่สัญญาคิดว่า จะแบ่งเงินให้จำนวนเท่าไหร่ กระทั่งวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ผอ. เรียกคู่สัญญาเข้าไปพบ พูดคุยเกี่ยวกับเงินส่วนแบ่งที่เคยเรียกรับ มีการกำหนดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคือ 347,000 บาท อ้างว่า เงิน 320,000 บาท จะนำไปปรับปรุงวัสดุอุปกรณ์ในโรงเรียน เงื่อนไขตรงนี้ ไม่มีการระบุในสัญญาแต่อย่างใด

          ส่วนเงินที่เหลือ 27,000 บาท จะนำไปแบ่งให้ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการอาหารนักเรียน 5 คน แบ่งจ่าย 3 เดือน เดือนละ 9,000 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่สัญญาต้องมอบเงินดังกล่าวให้ ผอ. โดยตรงเท่านั้น ถ้าไม่ทำตามจะรายงานไปยัง กทม. ว่า คู่สัญญาได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เอง จึงกลายเป็นแผนเข้าจับกุมครั้งนี้

นาทีจับกุม เปิดซองเงินคาหนังคาเขา อ้างไม่รู้ของใคร


          ดังนั้น เมื่อวานนี้ คู่สัญญาจึงนำเงินดังกล่าวใส่ซองสีน้ำตาลมาพบ ผอ. ตามนัด พอเจรจากันสักพัก ก็วางซองสีน้ำตาลใส่เงินสดเอาไว้ แล้วออกไปจากห้อง พอ ผอ. เปิดเงินในซองดู เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม แจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149

          อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวให้การปฏิเสธ บอกไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เงินของใคร แต่มีการนัดคู่สัญญามาพูดคุยเรื่องร้องเรียนจริง จากนั้นมีการนำ ผอ. มาสอบสวนที่กองบังคับการ ปปป. ทาง ผอ. ก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะขอประกันตัวสู้คดี และการจับกุมนี้ ไม่กระทบกับอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน


          นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า การจับกุมคดีเบียดบังค่าอาหารเด็กนักเรียน เรื่องเหล่านี้เราพบเห็นบ่อย ๆ ถือเป็นเรื่องรุนแรงมากในสถานศึกษา ครูมีหน้าที่ให้ความรู้ ดูแลนักเรียน กลับไปเบียดบังอาหารเด็กที่กำลังเติบโต

          นอกจากนี้ ยังสืบสวนพบว่า ผอ. รายนี้ มีการแนะนำคู่สัญญาให้ไปทำแบบนี้กับโรงเรียนอื่น ๆ ใน กทม. จึงขอให้สำนักการศึกษาของ กทม. ตรวจสอบ โดยเงินนี้เป็นเงินงบประมาณของ กทม. ที่สนับสนุนโรงเรียนประมาณ 8 ล้านบาท แล้วยังถูกเบียดบังไปอีก แม้ ผอ. จะปฏิเสธ แต่ก็มีหลักฐานเอาผิด


สาเหตุเรื่องแดง เพราะคู่สัญญาทนไม่ไหว


          พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับป้องกันปราบปรามการทุจริต หรือ ปปป. กล่าวว่า การกระทำของ ผอ.รายนี้ เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ หากข้าราชการด้วยกันจะมองว่าเป็นเหมือนเปรต ส่วนการจับกุม เป็นเพราะคู่สัญญาทนไม่ไหว ต้องยืมเงินมาให้ ผอ. จากเดิมงบประมาณอาหาร 28 บาทต่อหัวก็น้อยอยู่แล้ว ยังถูกรีดเงินอีก

          ต่อมา พนักงานสอบสวนให้ประกันตัว ผอ. รายนี้วงเงิน 4 แสนบาท พร้อมประวัติการทำงานพบว่า เพิ่งมาอยู่โรงเรียนนี้เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา จะมีการตรวจสอบโรงเรียนเก่าที่ ผอ. เคยอยู่ว่ามีการทุจริตหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คาหนังคาเขา ผอ. เรียกเงินค่าอาหารเด็ก 3 แสนบาท เดิมหัวละ 28 บาท น้อยแล้วยิ่งโดนกด อัปเดตล่าสุด 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:07:09 46,965 อ่าน
TOP
x close