ย่า-ป้า VS แม่ โต้เดือดกลาง โหนกระแส หลัง น้องต่อ เด็ก 8 เดือน หายปริศนาจากบ้าน ด่าแรงตอ... รู้อยู่แก่ใจ เอาหลานคืนมาแล้วจะให้อภัย
จากกรณี "น้องต่อ" เด็กชายอายุ 8 เดือน หายตัวปริศนา
โดยแม่เผยลูกถูกอุ้มหายออกจากห้องนอน ในบ้านพื้นที่ จ.นครปฐม ทั้ง ๆ
ที่พ่อกับแม่นอนหลับอยู่ด้วยกัน โดยมีพยานอ้างว่า
เห็นชายคนหนึ่งรีบร้อนออกมาจากบ้าน เหมือนอุ้มอะไรบางอย่าง
แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร
ขณะที่แม่เด็กให้การว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ล่าสุด รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ นิ่ม-พุทธ แม่กับพ่อน้องต่อ, ป้าหมี และ ย่าจำเนียร
นิ่ม : ตอนเช้าวันที่ 5 หกโมง น้องร้องงอแง หิวนม หนูเลยลุกมาชงนมให้น้อง แล้วก็นอน ประมาณหกโมง หกโมงครึ่ง น้องร้องงอแงอีกรอบ หนูก็เอาที่ครอบน้องอยู่ออกจากตัวน้อง แล้วน้องก็คลานมาบนตัว พอน้องเงียบ หายงอแง หนูก็เอาน้องไปไว้บนเบาะนอน เป็นหมอนที่น้องนอนทุกวัน หนูก็เคลิ้มแล้วหลับไป ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ
ตอนแรกตีห้าครึ่งตื่นรอบแรก ตอนสองหกโมงครึ่ง รู้เวลาได้ไง ?
นิ่ม : ประเมินจากฟ้าเอาค่ะ ไม่ได้ดูนาฬิกา ตอนนั้นฟ้ามืด
พอเด็กอยู่ที่ตัวเรา เราก็หลับไปต่อ แล้วเกิดอะไรขึ้น ?
นิ่ม : พอน้องคลานมาบนตัว หนูก็เอาน้องไปไว้บนเบาะที่นอนประจำ
น้องไม่ได้นอนบนอกแม่ค่ะ ตอนน้องหาย พอเอาไปไว้บนเบาะนอนน้อง
น้องก็นอนกินนม แม่ก็เคลิ้มหลับไป ตอนสะดุ้งตื่น
คือรู้สึกว่าน้องโดนอุ้มขึ้น แว้บแรกที่เห็นเป็นเสื้อสีเหลือง เห็นเลยค่ะ
พุทธ : ริมกำแพงครับ เขยิบมาก็เป็นแม่ แล้วก็มีหลานอีกคนนอนอยู่ตรงนั้น อายุ 12 ปี
แม่เหมือนนอนตรงกลาง ห้องคนเดินเข้าไปได้มั้ย ?
พุทธ : เดินได้ ไม่มีประตูครับ ใครก็เดินเข้าออกได้ครับ
บ้านซ้ายขวาเป็นอะไร ?
นิ่ม : เพื่อนบ้านที่รู้จักกันเฉย ๆ ค่ะ
ข้างหลังทะลุไปบ้านย่า พอรู้สึกตัวเห็นผู้ชายเสื้อเหลืองทำไงต่อ ?
นิ่ม : ก็ถามแฟนว่าเมื่อกี้ใครอุ้มไป เห็นใครอุ้มไปหรือเปล่า เขาไม่ได้ตอบหนูค่ะ หนูก็ลุกขึ้นมานั่ง เดินไปหน้าบ้านว่ามีใครหรือเปล่า คือเดินไปมองซ้ายขวา ยังคิดว่าคนเดินไปอุ้มเล่นค่ะ
ออกไปดูแล้วไม่เจอ ?
นิ่ม : ไม่เจอเลยค่ะ
ตอนเห็นผู้ชายเสื้อเหลือง คุณลุกเลยมั้ย ?
นิ่ม : ถามแฟนก่อนว่าใครอุ้มไปค่ะ
เขาถามมั้ย ?
พุทธ : ถามครับ
นิ่ม : พอเขาไม่ตอบก็เดินไปดูหน้าบ้าน
ตามไปติด ๆ มั้ย ?
นิ่ม : แป๊บเดียว นาทีสองนาที แล้วหน้าบ้านไม่มีคน ก็ไปดูบ้านญาติข้างหลังว่ามีน้องหรือเปล่า แต่ไม่มี ก็บอกพ่อน้องว่าไม่มีน้อง ช่วยออกตามหาน้องหน่อย
ตอนเราเห็นเสื้อเหลือง เห็นชัดมั้ย ?
นิ่ม : เห็นแว้บเดียวค่ะ ตอนเห็นเสื้อเหลืองค่ะ
บริเวณแถวนั้นตอนเช้าจะมีชาวบ้านตื่นกันแล้ว ?
นิ่ม : ค่ะ วันปกติเขาตื่นกันหมดแล้ว
สงสัยใครเป็นพิเศษ ?
นิ่ม : ก็บอก ตร. ไปหมดแล้วค่ะว่าสงสัยใคร แต่ไปตรวจสอบแล้วยังไม่ใช่
เราสงสัยใคร ?
นิ่ม : สงสัยคนในหมู่บ้านค่ะ เขาเคยมาเล่นกับน้องค่ะ
น้องต่อถ้าคนแปลกหน้าอุ้มเขาร้องมั้ย ?
นิ่ม : ตอนหนูอุ้มน้องเขาจะมองหน้าเฉย ๆ ถ้าคนแปลกหน้าเขาไม่ให้อุ้มเลย
คุณเลยมองว่าน่าจะเป็นคนที่น้องต่อคุ้นเคย ?
นิ่ม : ตอนแรกคิดว่าใช่ แต่พอตรวจสอบคิดว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นคนนอกมากกว่า
พ่อล่ะสงสัยใคร ?
พุทธ : ผมก็สงสัยคนนอกหมู่บ้านครับ เพราะ ตร. ตรวจสอบคนในหมู่บ้านแล้วก็ไม่เจอน้อง ก็ยังค้างคาใจ
ป้าหมี พี่สาวคุณพุทธ, ย่าจำเนียร แม่พุทธ ตอนนี้ลูกแม่กับลูกสะใภ้แม่ เขายืนยันว่าไม่รู้ลูกหายไปไหน แต่แม่กังวลใจมาก ?
จำเนียร : หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากังวลใจมั้ย เพราะตัวเขาเราก็ไม่รู้ แต่ความเห็นเรา ลูกอยู่กับอก ทำไมต้องหนีไป ใครเอาไป ที่จริงแม่น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ แม่ไม่ได้โทษนะ หนูต้องรู้อยู่แก่ใจ บอกพี่เขาไปเลยว่าเป็นยังไง บอกไปเลยว่าขอโทษแม่ ขอโทษทุกคน หนูทำผิดเอง
ทำผิดอะไร ?
จำเนียร : แม่เด็กต้องรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าเด็กไปไหน
พี่สาวว่าไง บ้านเดียวกันมั้ย ?
ป้าหมี : บ้านเดียวกัน ไปทำงานก่อนเกิดเหตุหลานหายไป แล้วเขามาว่าคนในบ้านได้ไง ว่าไปทำงานแล้ววกกลับมาเอาลูกเขาหรือเปล่า ทั้งที่ลูกเขาอยู่บนอก
เขาคิดว่าป้าเป็นคนเอาไปเหรอ ?
ป้าหมี : ใช่ ป้าไปทำงาน 6 โมงเช้า แต่ลูกเขาหาย 7 โมง จะเป็นไปได้มั้ย ให้ ตร. ไปสอบถามที่ไร่ ดูตามกล้องวงจรปิดแล้ว ไปทำงานจริง แล้วเขามากล่าวหาคนในบ้านได้ไง
วันนั้นป้าได้ยินเสียงเด็กร้องมั้ย ?
ป้าหมี : ก่อนออกจากบ้านได้ยินอยู่ เสียงต่อ แต่เราไม่ได้โผล่หัวเข้าไปดูตรงที่เขานอน ตอนนั้น 6 โมงเช้ายังได้ยินอยู่ ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเด็กร้องทุกวันอยู่แล้ว ก็เอารถออกไปทำงาน จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เกิดยังไง
ณ วันนี้สงสัยใคร ?
ป้าหมี : สงสัยแต่แม่เขาอย่างเดียว ว่าทำไมไม่พูดความจริงออกมา
ทำไมทุกคนมองว่าแม่ไม่พูดความจริง เพราะอะไร ?
นิ่ม : ความคิดเขาค่ะ ตัวหนูก็พูดหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
เรายืนยันว่าเห็นคนเสื้อเหลือง ๆ อุ้มไป จริง ๆ จากข้อมูลที่ได้มา ชายเสื้อเหลืองที่น้องพูดถึง ตอนแรกน้องไม่ได้พูดถึง น้องบอกว่าน้องลืมตาขึ้นมาแล้วน้องเองเห็นชายคนนึงเท่านั้นเอง แต่มีลุงคนนึงบอกว่าเห็นชายเสื้อเหลืองคนนึงเดินอยู่แถวนั้น น้องเลยบอกชายเสื้อเหลืองอยู่แถวนั้นหรือเปล่า ?
นิ่ม : ไม่ใช่ค่ะ หนูบอก ตร. เอง
ป้าหมี : แล้วทำไมไม่วิ่งตามลูกมึงไป
นิ่ม : ก็คิดว่าคนในบ้านค่ะ
ป้าหมี : ไม่ใช่คนในบ้าน
คนในบ้านก็ต้องด่ามึงว่ามึงเลี้ยงลูกยังไงให้ลูกออกมา มึงจะคิดไม่ได้
เป็นแม่คน เป็นหลานเราเหมือนกัน เราเลี้ยงมากับมือ
ทำไมมึงเลี้ยงให้ลูกหายได้ ทุกวันนี้มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่รักหลานกู
มึงเลี้ยงยังไง
พ่อลงเฟซบุ๊กประกาศตามหา วันนี้ได้คุยกับ ตร. แล้ว ?
พุทธ : ที่ผ่านมาคุยแล้วครับ ตร. สันนิษฐานว่าเป็นคนใกล้ตัว เพราะแม่เห็นน้องคนสุดท้ายครับ เขาก็ยังคิดว่าแม่ปกปิดความจริงอยู่หรือเปล่า เขาบอกกลับมาบ้านก็ให้มาคุยกันว่าปกปิดอะไรอยู่หรือเปล่า ผมก็พยายามถาม เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
ประเด็นชายที่ชื่อนายแจ้ รู้จักมั้ย ?
พุทธ-นิ่ม : รู้จัก
จำเนียร : ไม่รู้ ต้องถามลูกสะใภ้ ผัวมึงเปล่า
นิ่ม : คนรู้จักพ่อค่ะ รู้จักหนูตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ
จำเนียร : โทษนะคะ มึงตอแหx ผัวมึงไปให้ข่าวว่าได้เสียกับมึงมา
นายแจ้เป็นเพื่อนของพ่อ เขาสนิทกับเด็กมั้ย ?
นิ่ม : เคยเล่นกับน้องค่ะ แต่ไม่ถึงกับจะมาขโมยน้อง เล่นแบบเอ็นดูแค่นั้น
มีใครเข้านอกออกในบ้านเราได้บ้างมั้ย ?
นิ่ม : ถ้าเป็นลุงแจ้ก็รู้ว่าหนูอยู่ตรงนั้น เขาเคยมาเล่นกับน้องค่ะ เล่นกันปกติค่ะ
ถ้าต่อคนแปลกหน้าไปอุ้มเขาไม่ยอม ถ้าคนคุ้นเคยเขาจะยอมให้อุ้ม ?
นิ่ม : เคยเล่นกับน้องค่ะ น้องเป็นเด็กงอแงคนนึงเลยนะคะ
ฉะนั้นใครอุ้มต่อได้ ต่อต้องคุ้นเคย ถ้าไม่คุ้นเคยเขาจะไม่ให้อุ้ม วันนั้นที่อุ้มไปต่อเองก็ไม่ได้ร้องอะไร ต้องเป็นคนที่ต่อคุ้นเคย ต้องมาเริ่มต้นว่าต่อคุ้นเคยกับใครบ้าง กับคุณอุ้มได้มั้ย ?
ป้าหมี : ถ้าบทต่องอแง เขาก็ไม่เอาใครเหมือนกัน ส่วนใหญ่เอาแค่แม่เขาอย่างเดียว
ลุงแจ้อุ้มได้มั้ย ?
นิ่ม : แป๊บเดียวค่ะ
แล้วใครอุ้มต่อได้อีก ?
นิ่ม : มียายค่ะ แล้วก็มีหนู พุทธ ที่ลูกจะไม่งอแง
พ่อหลับไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
พุทธ : ไม่รู้ครับ รู้แค่ว่ามีคนวิ่งออกจากบ้านแค่นั้นเอง
ตร. เองก็กำลังสงสัยเราด้วย เขาสงสัยอะไรเรา ?
นิ่ม : เรื่องเอาน้องไปขาย เอาน้องไปฝากเลี้ยง เขาสงสัยเพราะมันไม่มีมูลเหตุค่ะ ฟังจากที่เขาพูดนะคะ
ตร. สงสัยอะไรเรา ?
นิ่ม : หาว่าเอาน้องไปขายหรือเปล่า
ทำไมทุกคนต้องสงสัยเรา เราก็ยืนยันคำเดียวว่าเป็นอย่างที่เราพูด ?
นิ่ม : ก็ยืนยันค่ะ
นอกจากนายแจ้ รู้จักใครอีกมั้ย ?
นิ่ม : มันไม่มีแล้วค่ะ คนที่มาเล่นกับน้องแบบนี้ค่ะ
คุณทะเลาะกันมั้ยคืนวันที่ 4 ก่อนน้องหาย ?
นิ่ม : ทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่องตอนหกโมงเย็น เรื่องมุ้งค่ะ พุทธเขาผลักมุ้งแล้วล้ม เขาก็ไปดึงซิปแตก ก็เลยไล่เขาออกจากมุ้งไป แล้วเก็บมุ้งไปทิ้งค่ะ แล้วก็ไม่ได้คุยกันพักนึง แค่นั้น
ถามจริง ๆ ว่าไม่รู้จริง ๆ ใช่มั้ยว่าใครเอาไป รู้แล้วบอกพี่ได้มั้ย หรือบอกพี่หลังบ้านได้มั้ย ?
นิ่ม : มันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ถ้ามีหนูก็บอกทุกคนแล้วล่ะพี่ (หัวเราะ)
พ่อสงสัยตัวเมียเหมือนที่ทุกคนสงสัยมั้ย ?
พุทธ : ไม่มีนะครับ ผมคุยกับเขาทุกวัน เขาก็ยืนยันว่าน้องหายตัวโดยเขาไม่รู้เหมือนกัน
ชาวบ้านแถวนั้นว่าไง ?
พุทธ : ไมได้คุยเลยครับ กลับมาจาก สภ. ก็มืดทุกวัน
มีประเด็นขัดแย้งกับใครอีกมั้ย ?
นิ่ม : ไม่ค่ะ
เราสงสัยคนในหมู่บ้านกี่คน ทำไมเลือกสงสัย ?
นิ่ม : สงสัย 2 คน เพราะเขามีมาถ่ายรูปน้องแค่นั้น
พ่อสงสัยใคร ?
พุทธ : มีแค่คนเดียว เพราะเขาจะมาซื้อของที่บ้านทุกเย็น เขาก็ชอบมาเล่นกับน้อง ก็มีแค่นี้เลย
ตร. ไปคุยกับเขาหรือยัง ?
นิ่ม : ไปแล้วค่ะ เขาบอกว่าไม่ใช่
ทำไมสงสัยป้าหมี ?
พุทธ : เหตุการณ์วันที่ 4 เขาถามว่าในเหตุการณ์วันนั้นมีใครอยู่บ้างตอนกลางคืน ผมก็อธิบายทั้งหมด เขาก็เรียกมาสอบสวน ผมก็ไม่ได้อยากดึงใครมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นิ่ม : ไม่ได้สงสัยในตัวป้าหมีเลยค่ะ เขาเรียกมาสอบเฉย ๆ คนเรียกมาสอบคือ ตร. เขาเรียกไปสอบว่าออกไปจริงหรือเปล่า แค่นั้นค่ะ แต่ป้าเข้าใจผิดคิดว่าเราสงสัย เราไม่ได้คิดว่าเขาจะเอาไป
คิดถึงลูกมั้ย ?
นิ่ม : คิดถึงค่ะ ตอนนี้อยู่กับ สภ. ตร. ตลอด นักข่าวอาจไม่ได้เห็นพวกหนูมานั่งร้องไห้ตามที่เขาสงสัยกัน
มีคนสงสัยว่าเราไม่เศร้าเลย ?
นิ่ม : ค่ะ ที่เขาเห็นนั่งเล่นโทรศัพท์ หนูนั่งดูรูปน้องและติดตามข่าวทางฟซค่ะ
ถ้า ตร. บอกให้เข้าเครื่องจับเท็จ ?
นิ่ม : กล้าเข้าค่ะ
พุทธ : กล้าครับ
จำเนียร : ไม่ค่อยได้ข้ามไป เพราะอยู่บ้านอีกฝั่งนึง เขาก็ไม่เห็นพูดอะไร มีแต่พูดว่ามาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เขาไม่รู้เรือ่ง ทำไมต้องไปโบ้ยเขาด้วย บ้านใกล้เรือนเคียง ตร. เอาไปสอบสวน
ป้าหมี : ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
เห็นว่าแถวนั้นมีหมาพิตบูล ?
พุทธ : ใช่ แต่เขาขังไว้ในกรง ไม่ปล่อย
ตอนเช้าถ้ามีคนแปลกหน้าเดินไป ต้องกระโชกโฮกฮาก แต่วันนั้นมันไม่มี ?
นิ่ม : ใช่ค่ะ
กับตาแจ้ได้คุยหรือยัง ?
ตาแจ้บอกว่าเขาก็เสียหายหมดเลย เพราะคนบอกว่าเขาเป็นคนเอาเด็กไป ณ วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ก็ร้อนอกร้อนใจเหมือนกัน แม่เดินมาถามลูกชายคำแรกว่ายังไง ?
จำเนียร : ก็อยากให้ลูกพูดว่ามีอะไรเกิดขึ้น ตกลงรู้มั้ย มันยังไงกัน
ตอนอยู่บ้านได้คุยกันมั้ย ?
จำเนียร : ไม่ค่อยได้คุยกับลูกหรอก
เจอหลานมั้ย หลานน่ารักมั้ย ?
จำเนียร : เจอค่ะ น่ารัก
คิดว่าใครเอาไป ?
จำเนียร : ไม่รู้เหมือนกัน พูดไม่ถูก
แม่นิ่มสงสัยแก๊งลักเด็ก ?
นิ่ม : สองสามวันแรกค่ะ พอตัดประเด็นแก๊งลักเด็ก ก็เป็นเรื่องคนนอกที่เคยเห็นน้อง
ประเด็นดูอึมครึม แม่กับป้าดูไม่สบายใจเรื่องลูกสะใภ้ ?
จำเนียร : หนูไม่เชื่อใจลูกสะใภ้หนู ขนาดกับแจ้ยังเป็นแฟนกับเขาเลย ยังมีอะไรกันเลย
เป็นเรื่องในอดีตมั้ย ?
จำเนียร : ไม่รู้อดีตหรือไม่อดีตนะ ตอนนั้นเขาบอกไม่มีอะไรกัน พอมาออกข่าว อ้าว มีอะไรกัน ที่แจ้ออกข่าวเริ่มแรกบอกไม่มีอะไรกับนิ่ม
ป้าหมี : แจ้เป็นคนออกข่าว เริ่มแรกบอกว่าไม่มีอะไรกับน้องนิ่ม แต่ตอนหลังมีไปสัมภาษณ์ บอกว่ามีอะไรกันสองสามครั้ง แต่หลังคลอดน้องมาแล้วยังมีได้กันอีก
พุทธนั่งอยู่ตรงนี้นะ ?
ป้าหมี : ก็ให้รู้นี่แหละ
จำเนียร : ลูกหนูไม่รู้อะไร ตอนแรกบอกว่าเมียไปบ้านแม่ ๆ แต่ไปจริงหรือเปล่า
ป้าหมี : ลูกหายใครก็เสียใจ หลานเราก็เลี้ยงอยู่กับมือ เราก็อยากเจอหลานเหมือนกัน จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้
พุทธเคยสงสัยในตัวภรรยามั้ย ?
พุทธ : ไม่มีครับ ผมถามว่าเรื่องลูกจะเอาไปสร้างกระแสทำไม สมมติเอาลูกไปให้คนอื่นเลี้ยง แล้วมาบอกว่าลูกหาย จะทำเพื่ออะไร
มีคนบอกว่าเราเอาลูกไปขาย ?
พุทธ : ใช่ แล้วผมจะคิดอย่างนั้นเพื่ออะไร ลูกคนแรกด้วย ครอบครัวแต่ละคนเลี้ยงน้องไม่เหมือนกันหรอกครับ
นิ่มว่าไง ?
นิ่ม : ความคิดใครความคิดมัน
ก็แค่ขี้ปากชาวบ้าน ?
นิ่ม : ใช่ค่ะ เขาจะพูดยังไง จะเชื่อยังไงก็เรื่องของเขา แต่เราบริสุทธิ์ใจค่ะ
ตอนนี้คุณไปตามหาลูกที่ไหน ?
นิ่ม : ตอนนี้ไม่ได้ตามหา อยู่แต่กับ ตร. ทั้งวันเลย
อยากฝากอะไรถึงคนเอาลูกไป ?
พุทธ : อยากให้เห็นหัวอกคนเป็นพ่อแม่ เอาน้องมาวางตรงไหนก็ได้ ให้คนเขาเห็น อยากให้เขากลับมาอยู่อ้อมกอดพ่อแม่มากกว่า ไม่รู้เอาไปน้องกินอิ่ม นอนหลับมั้ย ให้นมขาดหรือเปล่า
นิ่ม : ก็อยากขอ และวิงวอนเลย ขอน้องเอามาวางทิ้งตรงไหนก็ได้ ที่ให้คนเห็น อยากให้คิดว่าตอนน้องโต น้องจะเอาข้อมูลที่ไหนทำบัตรประชาชนค่ะ
เรื่องนี้คนจับจ้องว่าจะเป็นน้องชมพู่ 2 หรือเปล่า น้องหายตัวไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับเด็กคนนี้บ้าง หลายคนก็พุ่งเป้ามาที่ตัวแม่ เพราะวันนั้นมีแค่แม่กับพ่อและหลานอีกคน อยากเตือนว่ามุมข้อกฎหมาย หากมีอะไรพิสูจน์ออกมาว่าแม่หรือพ่อมีส่วนรู้เห็นด้วย มันจะเป็นคดีความนะ แม่รู้ใช่มั้ย ?
นิ่ม : รู้ค่ะ
แม่ยืนยันว่าไม่รู้เห็น ไม่เกี่ยวข้อง ?
นิ่ม : ค่ะ
คนในสังคมสงสัยแม่ว่าแม่เอาไปไหนหรือเปล่า แม่ก็ยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง วันนี้ถ้าแม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน แม่บอกตามความเป็นจริงเลยได้มั้ยว่าเราเอาเด็กไปฝากที่นั่นที่นี่เลี้ยง หรือให้อุ้มไปดูแลเพราะเราดูแลไม่ได้ ถ้าพูดได้ก็จะเป็นส่วนที่ดี จะไม่เกี่ยวข้องกับคดีความ ทุกคนพร้อมให้อภัย คุณก็มีเหตุผลของคุณ ถ้าเลี้ยงไม่ไหว ก็จะมีคนหยิบยื่นมือมาช่วย แม่มองยังไง ?
จำเนียร : กลัวลูกสะใภ้เอาไปให้คนอื่นเลี้ยง ฝั่งญาติแฟนเก่า ไม่งั้นเด็กจะหายไปไหน
การที่จะกล่าวหาใครสักคน ต้องมีที่มาที่ไป เพราะอะไร ตั้งข้อสังเกตแบบนี้ หนึ่งสองสามสี่ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นการไปปรักปรำเขา ?
จำเนียร : ก็มองอย่างที่ถามลูกสะใภ้เมื่อกี้ ก็มองอย่างนั้นแหละ
ทำไมคิดว่าเขาจะส่งให้คนอื่นเลี้ยง เขาเลี้ยงไม่ได้เหรอ ?
จำเนียร : ไม่ใช่เลี้ยงไมได้หรอก ประชดลูกหนูหรือเปล่า เอาไปให้แฟนเก่าเลี้ยง ใจก็คิดแบบนี้
ก็เป็นลูกพุทธ จะเอาไปให้แฟนเก่าเลี้ยงทำไม ?
จำเนียร : ไม่รู้เหมือนกัน แต่ความคิดเป็นแบบนี้
พี่สาวว่าไง ?
ป้าหมี : ความคิดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ความคิดหนูคงไม่เกี่ยวแฟนเก่านิ่มหรอก คงคนรู้จัก หรือรู้จักมากหรือน้อยนี่แหละ พุทธคงไม่รู้จักเขา เป็นคนอื่นที่พุทธไม่รู้จัก แล้วให้เอาลูกมันไป มันไม่อยากให้เป็นกระแส แต่ทีนี้ผัวเขาโพสต์ในกลุ่ม มันเลยเป็นเรื่องใหญ่ไง ว่าลูกเขาหาย
เอาอีกที ?
ป้าหมี : คงไม่ใช่แฟนเก่านิ่ม คงเป็นคนอื่นที่นิ่มรู้จัก แต่พุทธไม่รู้จัก เขาคงอยากให้ลูกไป เขาก็ต้องมีเหตุผลของเขาที่ไอ้พุทธมันไม่รู้
ทำไมคิดแบบนั้น ?
ป้าหมี : ไม่งั้นจะหายไร้ร่องรอยแบบนี้ได้ไง หลานทั้งคน ไม่มีเหตุผลอะไรเลย
นิ่ม : ถ้าคนรู้จักทางหนูไม่มีใครที่เป็นไปได้ เพราะไม่มีใครมาเล่นกับน้อง เคยอุ้มไปเดิน ไปเล่น ไม่มีใครเลยค่ะ
แม่โกรธนิ่มมาก ถึงขั้นอยากตบเลยเหรอ ?
จำเนียร : จ้ะ เพราะไปเดือดร้อนข้าง ๆ บ้านเขา โมโห เขาอยู่ของเขาดี ๆ เรียกคนนั้นคนนี้มาให้ปากคำ
ป้าหมี : ทั้งที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ตร. เขาเรียกสอบปากคำหมดเกือบทั้งซอย
ที่พูดรู้สึกว่าจะสร้างเรื่องว่าลูกหายทำไม ทั้งที่รู้ว่าลูกไปไหน ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปหมด ?
ป้าหมี : จ้ะ ถ้า ตร. ไม่รู้จากปากนิ่ม เขาจะมาตรวจสอบจะเจาะจงคนได้ไง
"รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล" หรือ "อ.โต้ง" ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ตอนนี้อยู่อินเดีย ขอถามนิดนึง อาจารย์มองยังไง ?
กฤษณพงค์ : จริง ๆ มองได้สองประเด็น ประเด็นแรกช่วงเวลาเกิดเหตุ แม่อยู่ไหน
ทำอะไรอยู่ คุณแม่อาจไม่รู้เรื่องเลยก็ได้ อาจมีคนพาไปจริง ๆ
ประเด็นที่สองก็มีความเป็นไปได้ ที่ ตร.
ตั้งข้อสันนิษฐานว่าหรือคุณแม่มีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่
โดยปกติการสืบสวนสอบสวนของ ตร. อาจมีส่วนรู้เห็นหรือไม่รู้เห็น
ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ความเชื่อมโยงพยานบุคคล หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์
เช่น ร่องรอยต่างๆ มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้มั้ย
รวมทั้งความเชื่อมโยงด้านการใช้โทรศัพท์ การสื่อสารทุกอย่าง
ชาวบ้านลือเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนนอกจะเข้ามาในหมู่บ้าน เพราะเวลานั้นเวลา 6 โมงกว่า คนในหมู่บ้านตื่นกันแล้ว แล้วแถวนั้นมีคนเลี้ยงหมาพิตบูล ถ้ามีคนแปลกหน้าเดินผ่านเข้าไป หมาพิตบูลเห่ากระโชกโฮกฮากแน่นอน สามเรื่องแก๊งลักเด็ก ตร. และคนในหมู่บ้านก็บอกว่าไม่มีแน่นอน เพราะไม่เคยเกิดเหตุในหมู่บ้านนั้น สี่คนสงสัยว่าทำไมแม่ ลูกหายไป 6 วัน แม่ไม่ร้องไห้เลย แถมมีอารมณ์หัวเราะได้ในบางครั้ง มีอารมณ์เล่นโทรศัพท์ได้ในบางครั้ง ถ้าประมวล อาจารย์มองแบบไหน ?
กฤษณพงค์ : เราสามารถตั้งสมมติฐานได้หลายประเด็น ที่พูดมาก็ตั้งได้หมด แต่ต้องดูความเชื่อมโยงพฤติกรรมบุคคล อะไรก็ตามที่แตกต่างจากธรรมชาติ เช่น ถ้าอยู่ดีๆ ลูกหาย ไม่แจ้ง ตร. ไม่เสียใจ ไม่รีบตามหา อันนี้ถือว่าผิดปกติแล้ว เพราะปกติแม่กับลูกเขามีความรักความผูกพันกัน
ลูกหายไปแจ้งความเลยมั้ย ?
นิ่ม : แจ้งเลยค่ะ
แจ้งวันไหน ลูกหายเช้าวันที่ 5 ?
นิ่ม : แจ้งวันที่ 5 ตอน 10 โมงค่ะ
ประกาศเฟซบุ๊กวันไหน ?
พุทธ : น่าจะวันที่ 5 เหมือนกัน
กฤษณพงค์ : การแจ้งหาย มีหลายแบบ แจ้งทางโทรศัพท์เบื้องต้นก็ได้ อาจให้คนในหมู่บ้านตามหา แจ้งผู้ใหญ่บ้านตามหา อาจเป็นวิธีการสืบสวนหาน้องเบื้องต้นก่อนก็ได้ ประการต่อมา หลังมีการแจ้งแล้ว ให้ข้อมูล ตร. ว่าอย่างไร เพราะการให้ข้อมูลขณะใกล้ชิดเหตุการณ์สำคัญมาก ๆ เพราะยังจดจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ถ้าช่วงแรกบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นใครเอาลูกไป แต่ต่อมาบอกว่าจำได้เห็นแว้บ ๆ ใส่เสื้อสีอะไร อันนี้ก็อาจมีข้อคำถามได้ว่าช่วงแรกต้องจำเหตุการณ์ได้มากที่สุด ทำไมกลับไม่มี ก็ต้องถามคุณแม่ดู
ตรงส่วนอื่น ๆ มีอีกมั้ย ?
กฤษณพงค์ : เวลาคนเข้ามาต้องมีรอยเท้า ร่องรอยการเดิน ยานพาหนะที่เข้ามา ปกติการนำตัวเด็กออกจากบ้าน ต้องคนคุ้นเคยบริเวณบ้าน ทางเข้าออก
ตอนนี้ดูภาพในห้องนอนแม่ ประเด็นที่เกิดขึ้น บ้านหลังนี้ ด้านหน้าเป็นร้านขายของชำ น้ำอัดลม เดินจากหน้าบ้าน ทางขวาเดินเข้าสู่ห้อง ตรงทางเข้าห้องไม่มีผ้าม่าน พอเข้าไปมีกำแพงอยู่ แล้ววกซ้ายไปจะเป็นที่นอน ต้องเป็นคนที่เคยเข้าห้อง ถึงรู้ว่าเด็กนอนอยู่ตรงไหน ไม่น่าใช่คนนอกที่ที่ไม่รู้ น่าเป็นคนที่เคยเข้าบ้านหลังนี้ คิดแบบนี้มั้ย ?
กฤษณพงค์ : ถ้ามองเข้าไป
แม้แต่คนทั่วไปผ่านไปผ่านมาอาจไม่รู้ว่าเด็กมีหรือไม่ในบ้านหลังนี้
แสดงว่าคนที่นำตัวเด็กไป น่าต้องรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน
รู้ว่าบ้านนี้มีเด็ก แล้วคนที่รู้ถ้าไม่ใช่คนใกล้ชิดแล้วจะเป็นใคร
ต้องถามกว้างๆ แบบนี้ก่อน ความเชื่อมโยงตรงนี้ต้องติดต่อสัมพันธ์สื่อสาร
คิดว่าทาง ตร. คงทำงานอย่างหนักครับ
ทำไมแม่สงสัยคนชื่อแจ้ ?
จำเนียร : ก็เขาเป็นแฟนเก่า ก็เลยสงสัย
พุทธเคยทราบมั้ย ?
พุทธ : ไม่เคยครับ ผมก็เพิ่งรู้ตอนหลังเหมือนกัน แต่อดีตก็เป็นอดีต ไม่ได้เข้าไปยุ่ง
แล้วทำไมแม่ยังสงสัย ?
จำเนียร : กลัวลูกสะใภ้เอาลูกทางนี้ไปให้ญาติฝั่งโน้นเลี้ยง
ทำไมเขาจะเอาไปให้แจ้เลี้ยง หรือให้ญาติแจ้เลี้ยง ด้วยเหตุผลอะไร ?
จำเนียร : ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นอกจากตัวเขารู้เอง
พี่ล่ะ สงสัยตาแจ้มั้ย ?
ป้าหมี : ไม่ได้สงสัยตาแจ้ แต่สงสัยคนอื่น คนที่พุทธมันไม่รู้จัก มันมีลับลมคมในเยอะ ทุกอย่างที่ผัวมันไม่รู้ ขนาดตาแจ้ยังปิดบังผัวเลย นับประสาอะไรกับคนอื่น
พูดค้าง ๆ คา ๆ เดี๋ยวคนจะด่าพี่นะ พี่สงสัยอะไร ?
ป้าหมี : สงสัยเป็นคนอื่นมากกว่าที่ไม่ใช่ตาแจ้ คนอื่นที่คบหาเขามากกว่า
เหตุผลที่สงสัยคืออะไร ?
ป้าหมี : มันไม่มีเหตุผลหรอก แต่คนชื่อแจ้
เขาสัมภาษณ์แล้วเขาแค่เลี้ยงดูเป็นลูก ๆ หลาน ๆ แล้วเขาจะเอาไปทำไม
แต่ถ้าคนนอกที่พุทธไม่รู้ว่านิ่มคบใครบ้าง คนนอกที่นิ่มคบ พุทธก็ไม่รู้
แล้วพี่รู้เหรอ ?
ป้าหมี : ไม่รู้ แต่เห็นเขาคุยโทรศัพท์ทุกวัน ไม่รู้คุยกับใครบ้าง น่าจะคุยกับคนอื่น เพราะคุยตอนผัวไปทำงาน
คุยกับใคร ?
นิ่ม : คุยกับลุงแจ้นี่แหละ
ป้าหมี : ทำไมต้องคุยทุกวันเล่นโทรศัพท์ เล่นเฟซตามปกติ
ป้าหมี : คนปกติไม่เอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำไปเล่นกันหรอก ไอ้นี่ตลอดเลย ไปไหนก็ถือตลอด
พุทธ : ไม่ต้องว่ามันหรอก กูก็เป็น เอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำเนี่ย
ป้าหมี : มึงไม่อยากให้ลูกกลับมาก็แล้วแต่มึง แต่นี่กูสงสารเด็กว่าจะไปอยู่ยังไง จะเป็นอะไรหรือเปล่า ถ้าแม่รู้ก็ให้พูดออกมา
พุทธ : ถ้ารู้จะไปแจ้งความเพื่ออะไร จะไปกุเรื่องให้ติดตะรางทำไม
ป้าหมี : ลูกอยู่บนอก ถ้ามึงไม่รู้แล้วใครจะรู้
พุทธ : เขาก็อธิบายแล้วไม่ได้อยู่บนอก อยู่บนหมอน
ป้าหมี : ทำไมไปบอกสื่ออย่างนั้นล่ะ
นิ่ม : มันเป็นข่าวผิดค่ะ เราบอกกับทุกคนว่าอยู่บนหมอน ที่นอนประจำ ไม่ได้นอนอยู่บนอกค่ะ
ป้าหมี : ข่าวจะพูดได้ไง นอกจากพูดจากปากมึงเอง
พุทธ : ข่าวมันย้อนแย้งกันอยู่ ช่องนึงบอกว่าอยู่บนหมอน อีกช่องบอกอยู่บนอก
ป้าหมี : ทำไมบางทีเด็กคลานออกมาล่ะ เขาให้การวกไปวนมา เด็กอยู่ตรงนี้บ้าง เด็กคลานออกมาบ้าง
นิ่ม : บางทีข่าวออกไม่ตรงกับที่เราพูด
ข่าวไม่ตรงหรือเราพูดไม่ตรง ?
นิ่ม : ข่าวไม่ตรง เราพูดเหมือนกัน ให้สัมภาษณ์เหมือนกันตลอดทุกที่
มันไม่ได้มีแค่พี่ แม่ คนในสังคมรอบตัวเราในบ้าน แต่ ตร. ยังสงสัยเลย ทำไม ตร. สงสัยเรา ?
นิ่ม : เขาบอกหนูว่ามีข้อพิรุธหลายที่ในตัวเรา อย่างเราบอกอะไรไม่หมดหรือเปล่า เรามีอะไรในใจแล้วไม่ได้บอกหรือเปล่า แล้วก็เรื่องขายลูก บัญชีเราก็ให้ตรวจสอบได้เลย เอาโทรศัพท์ให้ ตร. ตรวจสอบด้วย
พุทธ : วันนั้นมีเงินเด้งมา 5 พัน เงินเดือนออกพอดี วันที่น้องหาย เขาก็เลยสงสัยว่าเงินเข้ามาได้ยังไง เป็นเงินเดือนของผม
เราคุยกับผู้ชายคนอื่นอีกมั้ย ?
นิ่ม : ไม่มีค่ะ
พุทธ : โทรศัพท์เขาจะมีแชตเรา และมีแชตไลน์ เฟซเขาจะล็อกอยู่เครื่องเดียวคือเครื่องผม
แม่ก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจของเขาอยู่ แม่กับพี่เข้าใจว่าห่วงหลานและสงสัยหลาย ๆ เรื่อง ถ้าเขายอมรับก็ไม่โกรธ ?
ป้าหมี : ไม่มีใครโกรธมึงหรอก ถ้าเอาลูกกลับมา มีแต่คนรักเด็ก
จำเนียร : เขาให้อภัยทุกคนแหละลูก
พุทธ : ส่วนตัวผมไม่ได้สงสัยอะไรเขาอยู่แล้ว กลับจากโรงพักก็ให้เขาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดทุกวัน คำตอบก็เหมือนเดิมทุกวัน
ป้าหมี : คนที่บ้านอยากให้กลับมา
พุทธ : เราก็ไม่ได้อยากให้ลูกหาย
ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ?
นิ่ม : ยืนยันค่ะ
เสื้อเหลืองจะอธิบายยังไง ?
นิ่ม : หนูเห็นแว้บเดียวจริง ๆ
พุทธ : ต้องบอกว่าเห็นลาง ๆ มากกว่า เพราะเธอมัวขี้ตา
นิ่ม : ยืนยันว่าเห็นเสื้อสีเหลือง
มีข้อมูลว่าตอนแรกเราไม่ได้บอกว่าหนูเห็นเสื้อเหลือง ?
นิ่ม : เห็นจริง ๆ ค่ะ
เห็นหลังลุงวีบอก ?
นิ่ม : เห็นแต่ไม่ได้พูดค่ะ จนกระทั่งลุงวีมาพูดค่ะ
ไม่ได้พูดก่อนว่าเห็นชายเสื้อเหลือง จนลุงวีบอกว่าเห็นชายเสื้อเหลืองเดินไปแว้บ ๆ นิ่มก็เลยพูดว่าเสื้อเหลือง ?
นิ่ม : ค่ะ
รู้มั้ย ?
นิ่ม : ไม่รู้ค่ะ
สงสารลูกสะใภ้มั้ย ?
จำเนียร : ไม่ค่อยสงสารหรอกค่ะ เขาเลี้ยงหลานหนูไม่ดี
อยากบอกอะไร ?
จำเนียร : ไม่บอกค่ะ
นิ่มอยากบอกอะไร ?
นิ่ม : หนูก็ทำดีที่สุดแล้ว เลี้ยงเท่าที่หนูดูแลได้ค่ะ
มีคนบอกมีคราบเลือดบนหมอน คืออะไร ?
นิ่ม : น้องปากแตกค่ะ หน้าหนาว