x close

สรุป หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา กลัวความผิดรีบหนีกลับมาไทย ชาวเน็ตชี้เป้า เธออยู่ไหน !


           ทับทิม ฮาวสัน หญิงไทยที่อาศัยที่สหรัฐอเมริกา ขับรถชนคนตายแล้วหนี ผ่านไปไม่กี่วันรีบซื้อตั๋วบินกลับมาที่ไทย ด้านโลกออนไลน์ตามสืบ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน พบเฟซบุ๊กลบรูปเกลี้ยงไปหมดแล้ว
หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย

            วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์ CBS รายงานว่า นางทับทิม ฮาวสัน คือ ซู วัย 57 ปี หญิงไทยที่ได้รับสัญชาติอเมริกัน ถูกตั้งข้อหาชนแล้วหนี และมีการออกหมายจับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2566 นางทับทิมได้ก่อเหตุขับรถชนนาย นายเบนจามิน เคเบิล วัย 22 ปี แล้วหนี


พบนางทับทิม ขับรถชน ลังเลสักครู่ก่อนรีบหนี คนโดนชนตายคาที่ ชิ้นส่วนรถยังตกในที่เกิดเหตุ


            เบน เคเบิล ซึ่งเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงวันหยุดปีใหม่ โดยเวลาประมาณ 05.45 น. เขาได้เรียกรถอูเบอร์เพื่อที่จะกลับบ้าน แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้เขาต้องลงจากรถและเดินกลับ  ในขณะที่นายเบนจามินกำลังเดินบนถนนในเมืองโอ๊กแลนด์ ซึ่งถนนแถวนั้นไม่มีทางเท้าหรือไฟส่องสว่าง นางทับทิมซึ่งขับรถ BMW ซีรีส์ 3 ไปทำงานในเมืองเบอร์มิ่งแฮม ก็ขับรถชนนายเบนจามินเข้าอย่างจัง จนชิ้นส่วนของรถตกในที่เกิดเหตุ ด้านพยานให้การว่า หลังจากที่ชนแล้ว คนขับรถก็ขับรถต่อไปอีกนิดและอยู่แถวนั้นสักพักก่อนที่จะเร่งเครื่องหนี นายเบนจามินเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย
ภาพจาก gofundme

            ในวันที่ 5 มกราคม เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ พบรถ BMW ซีรีส์ 3 สีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ เมื่อทำการตรวจเช็กก็พบว่ารถคันดังกล่าวมีนางทับทิมเป็นผู้ครอบครอง

นางทับทิม ชนเสร็จแล้วรีบซื้อตั๋วขึ้นเครื่องมาที่ไทย บอกกับคนใกล้ชิด ไม่เอาตำรวจ


            ด้านนายแมทธิว ชูฟฟ์ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เผยว่า นางทับทิม ฮาวสัน ซึ่งเป็นคนไทยที่ได้รับสัญชาติอเมริกัน ได้บอกกับคนใกล้ชิดของเธอว่า เธอคิดว่าเธอขับรถชนคนตาย และเธอได้รีบกลับไปที่เมืองไทยทันที และเมื่อคนใกล้ชิดพยายามบอกให้เธอมอบตัว เธอกลับบอกว่า "ไม่เอาตำรวจ"

            ในส่วนเส้นทางการหลบหนีนั้น เฟซบุ๊ก Macomb County Scanner ให้รายละเอียดว่า นางทิบทิมได้ขึ้นเครื่องจากมิชิแกน มาที่ดัลลัส เมื่อวันที่ 3 มกราคม จากนั้นไปเปลี่ยนเครื่องที่ฟินแลนด์ และมาถึงประเทศไทยในวันที่ 5 มกราคม

หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย
ภาพจาก gofundme

พ่อคนตายใจสลาย บาดแผลแห่งการสูญเสียลูก ไม่มีวันเยียวยา ไม่มีแม้แต่น้ำใจจะโทร. เรียกรถพยาบาล


            ด้านเจ้าหน้าที่ได้ประสานมายังทางการไทย เพื่อส่งตัวเธอกลับมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อดำเนินคดี ในขณะที่นายไมเคิล เคเบิล คุณพ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เขาหวังว่านางทับทิมจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และกลับมาที่สหรัฐอเมริกา

            "อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ แต่คนเราก็ควรมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป ผมหวังว่าเธอจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และกลับมาที่สหรัฐอเมริกา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายลงไปอีกสำหรับครอบครัวของเรา การสูญเสียลูกก็ยากอยู่แล้ว และยิ่งมาเสียลูกไปแบบนี้ และมารู้ว่ามีบางคนที่ไม่มีแม้แต่น้ำใจจะช่วยโทร. เรียกหน่วยฉุกเฉินหรือให้ความช่วยเหลือ มันเข้าขั้นร้ายแรงและทำให้รู้สึกสูญเสียศรัทธาในตัวเพื่อนมนุษย์ ผมไม่เข้าใจเลยว่า คน ๆ หนึ่งจะกลายเป็นคนร้ายกาจขนาดนั้นได้อย่างไร"


หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย

            "ผมบอกเลยว่า แผลนี้ไม่สามารถเยียวยาให้หายได้ การสูญเสียลูก สูญเสียพี่น้อง ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะก้าวผ่านไปได้ง่าย ๆ บาดแผลมันจะอยู่ตรงนั้นตลอดไป ผมใช้เวลาครุ่นคิดมาอย่างยาวนานว่า เราเรียนรู้ที่จะรับมือกับสถานการณ์แย่ ๆ ได้ดีขึ้น แต่เรื่องนี้ก็มาทับถมตอกย้ำซ้ำเติมให้ทุกอย่างมันยากไปกว่าเดิมอีก แน่นอนว่า ผมเองก็โกรธเหมือนกัน"

นักข่าว ตามไปถึงบ้าน พบสามีมาเปิดประตู - พบตอนนี้นางทับทิม ลบรูป - ข้อความในเฟซบุ๊กเกลี้ยง


            ในขณะที่ Foxnews ได้ตามไปถึงบ้านของทับทิมที่มิชิแกน และพบว่าสามีของทับทิมเป็นคนเปิดประตู เขาบอกว่าตอนที่เกิดเหตุ เขาไม่อยู่ในอเมริกา และบางทีเราก็ต้องสูญเสียคนในชีวิตเราไปเหมือนกัน

            อย่างไรก็ตาม ได้มีคนไทยในกลุ่มคนไทยในอเมริกา แชร์เฟซบุ๊กของนางทับทิม และพบว่าปัจจุบันเธอได้ปิดเฟซบุ๊ก ปิดคอมเมนต์ ลบรูปต่าง ๆ ออกจนเกือบหมด มีเพียงโพสต์จากเมื่อ 10 ปีก่อนที่เพื่อน ๆ เข้ามาคอมเมนต์เท่านั้น

หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย

หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย

หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา หนีกลับไทย


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุป หญิงไทยชนแล้วหนีที่อเมริกา กลัวความผิดรีบหนีกลับมาไทย ชาวเน็ตชี้เป้า เธออยู่ไหน ! อัปเดตล่าสุด 12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:47:46 38,986 อ่าน
TOP