เกาะติดปริศนา สหรัฐฯ ยิง UFO ฟันธงหรือไม่ คืออะไร ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีน

          ไขปริศนา สหรัฐฯ ยิง UFO ตก หลังพบวัตถุปริศนาลอยเหนือน่านฟ้า เปิดดีเทลวัตถุที่ถูกยิงตกรอบ 4 ยังไร้ข้อมูลระบุชัด เป็นวัตถุอะไร


          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ส รายงานสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นหลังทั้ง 2 ประเทศต่างแลกเปลี่ยนข้อกล่าวหาที่รุนแรงต่อกันในเรื่องโครงการสอดแนม หลังจากสหรัฐฯ ยิงบอลลูนจากจีนตกไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รวมถึงยิงสอยวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้ (UFO) อีก 3 ครั้งภายในเวลา 1 สัปดาห์ หลังวัตถุปริศนาเหล่านั้นลอยเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ ในพื้นที่ทางอเมริกาเหนือ


โดยสามารถไล่เหตุการณ์สหรัฐฯ สั่งยิง UFO ที่ลอยเหนือน่านฟ้าได้ ดังนี้

          - 10 กุมภาพันธ์ ยิงวัตถุปริศนาเหนือน่านฟ้าในรัฐอะแลสกา

          - 11 กุมภาพันธ์ ยิงวัตถุปริศนาตกเหนือดินแดนยูคอน ประเทศแคนาดา

          - 12 กุมภาพันธ์ ยิงวัตถุปริศนาตกเหนือทะเลสาบฮูรอน รัฐมิชิแกน

เปิดดีเทลวัตถุปริศนาทั้ง 3 ชิ้น ใช่บอลลูนไหม ?

          ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าวัตถุปริศนาทั้ง 3 ชิ้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคนบนภาคพื้น ไม่มีการส่งสัญญาณสื่อสาร ไม่มีคนอยู่ภายใน รวมถึงไม่มีความสามารถในการหลบหลีกหรือขับเคลื่อน วัตถุเหล่านี้ลอยอยู่ในระดับความสูง 20,000 - 40,000 ฟุต หรือราว 6.09 - 12.19 กิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าบอลลูนจากจีนที่ยิงตกไปก่อนหน้านี้

          โดยวัตถุลอยที่ถูกยิงตกครั้งล่าสุด พบว่าเป็นวัตถุที่มีโครงสร้าง 8 เหลี่ยม และมีสายห้อยอยู่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่ หน่วยงานสหรัฐฯ ยังคงอยู่ระหว่างสอบสวนหาที่มาของวัตถุปริศนาทั้ง 3 ชิ้น และมีความพยายามเก็บกู้ซากของวัตถุทั้งที่รัฐอะแลสกา ดินแดนยูคอน รวมถึงทะเลสาบฮูรอน ฝั่งประเทศแคนาดา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีความระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่เรียกวัตถุปริศนาใด ๆ จากทั้ง 3 ชิ้นว่าเป็นบอลลูน

          อย่างไรก็ตาม หากพบว่าวัตถุปริศนาที่ถูกทำลายเหล่านี้มีที่มาจากจีน ก็จะกลายเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน ยังย้ำว่าพวกเขาไม่ขอด่วนสรุปในขณะนี้ ว่าวัตถุเหล่านั้นเป็นอุปกรณ์สอดแนมจากจีน
 
สหรัฐฯ ติดตามบอลลูจีนตั้งแต่แรก อยู่ระหว่างวิเคราะห์ซาก

          อนึ่ง สำหรับบอลลูนจีนที่ถูกสหรัฐฯ ยิงตกไปก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ ชี้ว่าพวกตนได้เริ่มติดตามบอลลูนสอดแนมนี้ มาตั้งแต่ลอยขึ้นจากเกาะไหหลำของจีน ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะแจ้งเตือนไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อพบว่าบอลลูนลอยอยู่เหนือหมู่เกาะอะลูเชียน ใกล้กับรัฐอะแลสกา ก่อนจะเคลื่อนผ่านรัฐมอนแทนา ซึ่งหลังจากมีการยิงบอลลูนตกในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ซากของวัตถุดังกล่าวมาตรวจสอบแล้ว รวมถึงอุปกรณ์เซ็นเซอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

จีนตอบโต้ สวนกลับแรง ใครกันแน่เจ้าแห่งการสอดแนม

          อย่างไรก็ตาม หวัง เว่ยปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ชี้ว่า บอลลูนจีนที่ลอยเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ เป็นเพียงเหตุสุดวิสัย ซึ่งจีนมองว่าการที่สหรัฐฯ ยิงบอลลูนของพลเรือนนั้น เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ

          เขายังกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ใช้ความได้เปรียบทางเทคโนโลยีในทางที่ผิด เพื่อเครือข่ายการสอดแนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการล้วงความลับจากพื้นที่ทั่วโลกไม้เว้นชาติพันธมิตร นับเป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ต่างหากจึงควรเป็นผู้กระทำผิดรายใหญ่ที่สุดสำหรับเรื่องการสอดแนม

          หวัง เว่ยปิน ยังชี้ว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ทางการจีนสามารถตรวจจับบอลลูนสหรัฐฯ ที่ลอยเข้าสู่น่านฟ้าจีนอย่างผิดกฎหมายได้มากกว่า 10 ครั้งแล้ว ดังนั้นสิ่งแรกที่สหรัฐฯ ควรทำก็คือย้อนดูพฤติกรรมของตนเอง แทนที่จะใส่ร้ายป้ายสีประเทศอื่น

          อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่รุนแรงเหล่านี้ทันที โดย เอเดรียน วัตสัน โฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยังชี้เป้าไปที่เรื่องบอลลูนสอดแนมของจีน และย้ำว่าจนถึงขณะนี้จีนยังไม่สามารถให้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือใด ๆ ได้เลย เกี่ยวกับการล่วงล้ำน่านฟ้าของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก The New York Times, Global Times