ลูกชายเฮียโต สะใภ้ พ่อตาแม่ยาย ดอดเข้าพบตำรวจ โดนแจ้งข้อหา เมียรอดคนเดียว

            ลูกชายเฮียโต ลูกสะใภ้ พร้อมครอบครัว ดอดพบตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ สอบปากคำ แจ้งกักขังหน่วงเหนี่ยว-ข่มขืนจิตใจ ก่อนได้ประกันตัวคนละ 5 หมื่นบาท

ภาพจาก ขันข่าวเช้าตรู่

            จากกรณี นายสมศักดิ์ รุ่งรักษาธรรม หรือ เฮียโต นักธุรกิจรับเหมาเดินสายไฟและเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า จ.ฉะเชิงเทรา แจ้งความว่าถูก นายธวัชชัย ลูกชาย และ น.ส.เจน ลูกสะใภ้ วางแผนวางยาสลบ จับขังในห้องมานานกว่า 2 ปี จัดฉากร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ก่อนตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกยักย้ายทรัพย์สินผู้เป็นพ่อกว่า 65 ล้านบาท โดยตำรวจได้นำตัวเฮียโตไปชี้จุดที่โรงผลิตน้ำแห่งหนึ่งใน ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ของนายประสงค์พ่อตาแม่ยาย ซึ่งเป็นจุดที่เฮียโตอ้างว่าถูกกักขัง กรอกยาสลบ สุดท้ายตนเองถูกแยกห้องกักขังกับภรรรยา จนภรรยาตนเองถูกคอตายเสียชีวิต

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ (18 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่าย นายธวัชชัย ลูกชายของเฮียโต, น.ส.เจน ลูกสะใภ้ ,นายประสงค์ และนางสาวพรทิพย์ พ่อตาและแม่ยาย รวมถึงลูกสาวของนายประสงค์อีก 2 คน รวมทั้งหมด 6 คน ได้ติดต่อขอเข้าพบตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ปากคำในฐานะพยาน ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำจึงมีการสอบสวนเสร็จสิ้น โดยสอบปากคำอย่างละเอียดในทุก ๆ ด้าน

            คดีนี้ เฮียโต แจ้งความประสงค์เอาผิด นายธวัชชัย นายประสงค์ และนางสาวพรทิพย์ ในฐานความผิดกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และจิตใจ กับบุคคลทั้งสามนี้จากคำให้การของเฮียโต ประกอบกับหลักฐานที่เข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว รวมถึงพยานทั้ง 10 ปากที่ได้สอบสวนไปก่อนหน้านี้ ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อได้ว่า ทั้ง 3 คนนี้กักขังหน่วงเหนี่ยวเฮียโต จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา

ภาพจาก ขันข่าวเช้าตรู่

            ส่วน น.ส.เจน ลูกสะใภ้ และพี่น้องของ น.ส.เจน อีก 2 คนนั้น เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน และไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งหลังสอบสวนบุคคลทั้งหมดเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ จัดทำประวัติ ก่อนที่ นายธวัชชัย นายประสงค์ และนางสาวพรทิพย์ ได้ขอประกันตัวไปเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าทั้ง 3 คนนั้น แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน จึงให้ประกันตัวไป ในวงเงินทรัพย์สินคนละ 50,000 บาท เพื่อออกไปต่อสู้คดีในกระบวนการของศาลต่อไป

ภาพจาก ขันข่าวเช้าตรู่