หนุ่มสวมคอนแทคเลนส์งีบหลับ แค่ไม่นานกลับต้องเสียใจทั้งชีวิต ตาติดเชื้อรุนแรงจนบอดไป 1 ข้าง ต่อให้ผ่าตัดแล้ว และปลูกถ่ายกระจกตา ก็ไม่อาจมองเห็นได้เหมือนเดิม
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ไมคิล ครุมฮอลซ์ หนุ่มนักศึกษาวัย 21 ปี จากรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ต้องเผชิญความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตหลังจากที่เขาเผลอใส่คอนแทคเลนส์งีบหลับไป เป็นผลเกิดการติดเชื้อจนตาบอด มองเห็นเพียงสีดำและเทาแวบเข้ามาบางขณะ ซึ่งต่อให้เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา ก็สามารถกู้คืนการมองเห็นได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ไมเคิลซึ่งสวมคอนแทคเลนส์ชนิดรายวัน เผลองีบหลับไปราว 40 นาทีโดยไม่ได้ถอดคอนแทคเลนส์ ตอนที่เขาตื่นมาก็พบว่าตาซ้ายแดงเป็นเลือด และการมองเห็นบิดเบี้ยว เขารู้สึกระคายเคืองตามากเหมือนคอนแทคเลนส์ลอยอยู่ในตา จึงถอดออก
ตอนนั้นยังไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ในเช้าวันต่อมาหลังจากที่เขาออกไปเล่นเบสบอล ไมเคิลก็ต้องรีบถอดคอนแทคเลนส์ออกและไปหาหมอตาทันที เพราะเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เดิมเขายังคิดว่าน่าจะเป็นเยื่อบุตาอักเสบ แต่หลังจากที่หมอตรวจดูแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ต่างออกไป
ตอนแรกหมอวินิจฉัยว่าเขาน่าจะติดเชื้อเริม ชนิด 1 (HSV-1) ซึ่งอาจจะเกิดจากการสัมผัสจุดที่มีไวรัสเริมแล้วมาสัมผัสโดนตา แต่แม้จะได้รับยาปฏิชีวนะไป อาการอักเสบกลับแย่ลง หมอจึงลองปรับมาใช้ยาสเตียรอยด์ แต่ทุกอย่างยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
ในที่สุดหมอตา 5 คน พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตา 2 คน ก็ทำการขูดกระจกตาของเขาไปตรวจ กระทั่งเพิ่งทราบผลในวันที่ 21 มกราคม ว่ากระจกตาเขาอักเสบจากการติดเชื้ออะแคนทามีบา (Acanthamoeba keratitis หรือ AK) ซึ่งทำให้สูญเสียการมองเห็นแบบถาวร และในตอนนี้ตาซ้ายของเขาก็อยู่ในสภาวะตาบอดบางส่วน เห็นเพียงสีดำกับเทาแวบเข้ามาเท่านั้น
หลังทราบต้นตอ ไมเคิลก็ได้รับการผ่าตัดเยื่อบุตา และได้รับการรักษาด้วยวิธีโฟโตไดนามิค (Photodynamic Therapy) ซึ่งหมอแนะนำว่าหลังจากนั้นเขาสามารถเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาได้ เพื่อให้การมองเห็นบางส่วนกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม เดิมไมเคิลมีกำหนดปลูกถ่ายกระจกตาในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากหมอชี้ว่ายังมีการอักเสบอยู่ที่ตาของเขา ทำให้ยังไม่สามารถเข้ารับการปลูกถ่ายได้
ไมเคิลยอมรับว่า ความเจ็บปวดอย่างยิ่งในตอนนี้ก็คือการรอ รวมถึงการเจ็บปวดที่ดวงตาซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ค่อนข้างมาก ยังต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
นอกจากเรื่องของตาแล้ว ไมเคิลยังต้องยอมแพ้ต่อทุก ๆ อย่างทั้งเรื่องการหางาน การทำงานอดิเรกอย่างการเล่นเบสบอลและออกกำลังกาย เขายังไม่สามารถไปเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ได้ เนื่องจากร่างกายของเขาเริ่มเกิดอาการไวต่อแสง การสัมผัสแสงแดดโดยตรงจะสร้างความเจ็บปวดมาก
ในขณะนี้ไมเคิลต้องใช้ชีวิตอยู่แค่ภายในบ้านที่ปิดม่าน นั่งอยู่ในห้องอันมืดมิด และสวมแว่นกันแดด เขาไม่ได้ออกไปนอกบ้านได้เลยนอกจากการไปโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ AK เป็นกรณีที่หาได้ยาก โดย 80% ของผู้ติดเชื้อคือกลุ่มคนที่สวมคอนแทคเลนส์ สามารถพบได้ราว 1-2 คนต่อ 1 ล้านคนในแต่ละปี เดิมทีเชื้อ AK เป็นแบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายและพบได้บ่อยทั้งในทะเลสาบ แหล่งน้ำ ทะเล หรือแม้แต่ในดิน สามารถปนเปื้อนอยู่ในน้ำประปา ความร้อน และเครื่องปรับอากาศ แต่หากเชื้อเข้าไปในตาผ่านรอยฉีกเล็ก ๆ หรือรอยถลอก ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
รายงานชี้ว่า ทุกคนที่สวมคอนแทคเลนส์มีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่คนที่สวมคอนแทคเลนส์ยามดึกจะมีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดรอยถลอกที่กระจกตาได้ โดยทางบริษัทคอนแทคเลนส์มักแนะนำไม่ให้คนสวมคอนแทคเลนส์ตอนกลางคืนเพื่อลดความเสี่ยง และยังเตือนให้ผู้ใช้งานล้างมือตอนใส่และถอดคอนแทคเลนส์ด้วย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail