ชูวิทย์ บุกประชิด สันธนะ หน้า บช.น. หลังอีกฝ่ายยื่นเร่งรัดคดี เจอการ์ดอีกฝ่ายชาร์จล็อกคอกันท่า ไม่จบถอดเสื้อ ใส่นวม ท้าชกแบบลูกผู้ชาย
อย่างไรก็ดี ทันทีที่นายสันธนะเดินทางมาถึงบริเวณหน้า บช.น. ปรากฏว่า นายชูวิทย์ ปรี่พุ่งตรงไปหวังประชิดตัวนายสันธนะ จังหวะดังกล่าวนายสันธนะ พยายามเลี่ยงและเดินหลบเข้าไปภายในตัวอาคาร แต่มีผู้ติดตามของนายสันธนะ เข้าไปปะทะกับนายชูวิทย์ทันที โดยมีการล็อกคอและดันตัวเอาไว้ ส่วนนายชูวิทย์ก็พยายามขัดขืนและมุ่งจะเข้าหานายสันธนะอย่างดุเดือด ท่ามกลางกำลังตำรวจที่พยายามแยกไม่ให้ทั้งคู่ปะทะกัน
จากนั้นนายชูวิทย์ ยังคงเข้าไปท้าทายนายสันธนะ ด้วยการถอดเสื้อเชิ้ต พร้อมทาน้ำมันมวย แล้วเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อกล้าม ใส่นวม ซึ่งได้เตรียมนวมมาให้นายสันธนะด้วย พร้อมตะโกนท้าให้มาสู้กันตัวต่อตัว ก่อนที่จะโยนนวมให้นายสันธนะที่อยู่อีกฝั่งระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งมีกำลังตำรวจวางกำลังป้องกันการปะทะตลอดเวลา
นายชูวิทย์ ยืนยันว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่ใช่การใช้ความรุนแรง ไม่ได้ใช้กำลัง แต่เป็นวิถีของลูกผู้ชาย พร้อมกับตะโกนท้าทาย ไอ้สันขวาน มาเลย ๆ ตัวต่อตัว แค่ชกมวยแค่นี้ กลัวเหรอ มาเลย ไหนว่าเรียนตำรวจมา" พร้อมโชว์ลีลาชกมวยอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นนายสันธนะ ตอบกลับว่า "ตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ตรงนี้ เพราะ บช.น. เคยเป็นที่ทำงานเก่าของกู กูให้เกียรติน้อง ๆ ทุกคน ช่วงนั้นนายสันธนะ มีอารมณ์เดือดเช่นกัน ก่อนจะหันกลับไปหาตำรวจ บช.น. บอกว่าให้เพิ่มอีก 1 ข้อหานายชูวิทย์ จาก 9 คดี เป็น 10 คดี เนื่องจากว่าพฤติกรรมของนายชูวิทย์วันนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทตน ซึ่งประเด็นนี้นายชูวิทย์ระบุว่า "ไม่สยิว"
ต่อมา
นายสันธนะ พูดก่อนจะเดินทางกลับ พร้อมย้ำชัดอีกว่าพร้อมเสมอ
แต่ไม่ใช่ที่นี่ และยืนยันว่าไม่ได้ถอย แต่เสร็จภารกิจก็กลับ