ดราม่า แม่ตักบาตรทุกวัน จนที่บ้านแทบไม่มีเงินใช้ แย้งไปก็โดนว่าบาป คนแนะทางออกสุดเจ๋ง

          ลูกสาวท้อใจ ดูแลแม่คนเดียว มีปัญหาเรื่องรายได้ แต่แม่เอาอาหารไปทำบุญทุกวัน กลัวชาติหน้าไม่มีกิน พอทักท้วงโดนหาว่า "บาป" งานนี้ความเห็นชาวเน็ตแนะวิธีแก้เจ๋ง ๆ ทำแบบนี้แม่น่าจะรู้ตัวแน่นอน
          ในสังคมไทย หากพูดถึงเรื่องของการทำบุญแล้ว หลายคนมักจะสนับสนุน ไม่ว่าจะทำกับคน กับพระ หรือกับสัตว์ แต่การเอาตัวเองลงไปช่วยนั้น ใด ๆ ก็ต้องนึกถึงความพอเหมาะ พอดี และไม่มากไปจนเดือดร้อนตัวเองหรือครอบครัว เฉกเช่นเดียวกันกับกรณีนี้

          วันที่ 3 มีนาคม 2566 คุณ สมาชิกหมายเลข 7436084 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ระบายความรู้สึกเรื่อง "รายได้น้อย แต่แม่ใส่บาตรทุกวัน จนเรารู้สึกเหมือนต้องเลี้ยงคนเพิ่มอีก 1-2 คน" โดยเจ้าของกระทู้เริ่มระบายว่า เธอจำเป็นต้องลาออกจากงานมาอยู่ที่บ้าน เนื่องจากพี่สาวและน้องชายมีครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่น นาน ๆ มาหาที หน้าที่ดูแลพ่อแม่จึงตกเป็นของเธอ โดยในตอนนี้เธออายุ 40 ปีแล้ว

          ถึงแม้จะอยู่บ้าน แต่เธอก็ยังมีอาชีพคือการขายของออนไลน์ ซึ่งพอยังชีพได้บ้าง ไม่ได้มากอะไร พอได้กำไรก็เอาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ ซื้ออาหาร ทว่าช่วงนี้เกิดปัญหาคือยอดตก ทำให้รายได้ที่เข้ามาไม่พอกับรายจ่าย เธอพยายามหาทางดิ้นรน ลองทำของขายหน้าบ้านและผ่านแอปฯ สรุปขายไม่ดี เพราะสังคมต่างจังหวัด นิยมทำอาหารกินเอง พอทำแล้วไม่รอด เงินเก็บที่นำมาลงทุนก็ยิ่งลดลงไปอีก

          เรื่องการค้าขายที่ลดลงเป็นสิ่งที่น่าหนักใจก็จริง แต่เธอมีสิ่งที่น่าหนักใจกว่าคือ แม่ชอบใส่บาตรมาก จากความเชื่อกลัวตายไปแล้วไม่มีอะไรกิน ขั้นต่ำในการใส่บาตรคือ ข้าว 1 ถุง, กับข้าว 1-2 อย่าง ปริมาณคือ เท่ากับ 1-2 คนกินในแต่ละมื้อ ทำให้อาหารที่เตรียมทำเพื่อเก็บกินในบ้านหมดไวมาก พอพูดกับแม่เปิดใจตรง ๆ แม่ก็จะงอนแล้วโทษว่าเราบาป

          เจอแบบนี้ก็แก้ปัญหาไม่ถูกเหมือนกัน เพราะบางวันเธอทำอาหารตอนเย็น กะเหลือไว้กินตอนเช้าอีกมื้อ แต่ตื่นเช้ามาแม่เอาไปใส่บาตรหมด เหลือนิดเดียวไม่พอกิน ต้องทำใหม่ ซื้อไม่ไหว เจอแบบนี้ท้อแท้

แนะวิธีแก้ไข ต่อต้านยังไงก็มีปัญหา เข้าร่วมดีกว่าแล้วควบคุมเอง

          ความคิดเห็นชาวเน็ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งสนับสนุนเจ้าของกระทู้ และตำหนิเจ้าของกระทู้ บางคนก็เข้ามานำเสนอวิธีแก้ไข ดังนี้

          วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ สิ่งแรกต้องเป็นพวกเดียวกับแม่ก่อน ถ้าไปยืนฝั่งตรงข้ามยังไงก็ไม่มีทางคุยกันรู้เรื่อง แล้วก็ศึกษาศาสนาพุทธให้กับตัวเอง คุยกับแม่เรื่องทางสายกลาง ตึงไป หย่อนไปไม่ดี เมื่อแผนการได้ ก็ไปตักบาตรกับแม่ ลดปริมาณอาหารลง อ้างทางสายกลาง อ้างเรื่องการทำบุญที่เยอะไป เข้าข่ายทำบุญด้วยความโลภ บุญที่ได้จะลดลง ถ้าลดปริมาณลงจะได้มีความสุขทั้งบ้าน

คนสนับสนุนก็มี คิดว่าเราได้บุญไปด้วย แต่โดนเรื้อน

          ยังมีความเห็นแนว ๆ ถ้าห้ามไม่ได้ก็อย่าไปต่อต้าน ให้อนุโมทนาบุญกับสิ่งที่แม่ทำ เราจะได้ได้บุญไปด้วย มีความสุขไปด้วย หงุดหงิดไปก็ไม่มีประโยชน์และบาป (ความทุกข์ใจ) นอกจากนี้ การยอมให้แม่ตักบาตรถือว่าได้บุญในฐานะลูกกตัญญู ทำให้แม่มีความสุข

          อีกอย่างหนึ่งคือ การตักบาตรพระวันละ 1 รูป ก็แค่อาหาร 1 มื้อ ไม่น่าเกิน 50 บาท ไม่น่าทำให้ยากจนลง คงไม่เท่ากับเลี้ยงคนหนึ่งคน เพราะอันนั้นต้องกิน 3 มื้อ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก

          ความเห็นนี้ติดท็อปคอมเมนต์ก็จริงอยู่ แต่คนส่วนใหญ่คือกด "สยอง" ให้ เพราะมองว่า เงิน 50 บาทของแต่ละคนไม่เท่ากัน วันละ 50 บาท 1 เดือนก็ 1,500 บาท ถือว่าไม่ได้น้อย และไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินให้กับบ้านเจ้าของกระทู้แม้แต่น้อย

ใช้วิธีแบบไม้อ่อน

          บางคนก็เสนอแนะวิธีแบบไม้อ่อน เช่น ไม่ได้ห้ามเรื่องทำบุญ แต่เสนอไปว่า การทำบุญมีหลายทาง การรักษาศีล 5 ถือว่าได้บุญแล้ว การเจริญภาวนา ทำทุก ๆ วันในเวลาที่สะดวก เรื่องนี้ก็ได้บุญเช่นกัน ศาสนาพุทธไม่ได้มีแค่พระสงฆ์เพียงอย่างเดียว ยังมีพระธรรมด้วย