ช็อก ! ชายเสียชีวิตหลังติดเชื้อ อะมีบากินสมอง คาดสาเหตุเพราะใช้น้ำประปาล้างจมูก

 
           ชายป่วยหนักเสียชีวิต หลังติดเชื้ออะมีบากินสมอง คาดสาเหตุเพราะใช้น้ำประปาล้างจมูก ทางการเร่งตรวจสอบ แม้เกิดขึ้นได้ยากแต่สุดอันตราย
           วันที่ 3 มีนาคม 2566 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานเหตุชายรายหนึ่ง ติดเชื้อในสมองเสียชีวิต โดยสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการใช้น้ำประปาล้างจมูก

           รายงานดังกล่าว อ้างผลการยืนยัน จากสำนักงานสาธารณสุขของฟลอริดา (Florida Department of Health) ในเทศมณฑลชาร์ล็อตต์ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่แจ้งเตือนประชาชนกรณีพบชายชาวฟลอริดา เสียชีวิตจากการติดเชื้ออะมีบากินสมองหลังจากใช้น้ำประปาล้างจมูก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริง

           นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าวยังเตือนผู้ประชาชนให้ใช้น้ำกลั่น หรือน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อเท่านั้น เพื่อล้างจมูก หากจะใช้น้ำประปาก็ควรผ่านการต้มอย่างน้อย 1 นาที และทำให้เย็นลงก่อนที่จะใช้ล้างจมูก

           ข้อมูลจาก สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) ระบุว่า น้ำประปาที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อไม่ปลอดภัยที่จะใช้ล้างจมูก เนื่องจากไม่ได้กรองหรือบำบัดอย่างเพียงพอ และอาจมีจุลินทรีย์ในระดับต่ำ เช่น แบคทีเรีย และโปรโตซัว รวมทั้ง อะมีบา ส่วนสาเหตุที่น้ำประปายังสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย เพราะว่าโดยปกติแล้ว กรดในกระเพาะอาหาร จะสามารถฆ่าจุลชีพเหล่านี้ได้

           สำหรับอะมีบากินสมอง เกิดจากเชื้ออะมีบาชนิดนีเกลอเรีย (Naegleria fowleri) สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่สามารถพบได้ในดินและน้ำจืดที่อบอุ่น เช่น ทะเลสาบ แม่น้ำ และน้ำพุร้อนทั่วสหรัฐฯ โดยทั่วไปเรียกว่า "อะมีบากินสมอง" อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในสมองได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อน้ำที่มีอะมีบาไหลเข้าจมูก เช่น ขณะว่ายน้ำ

           จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ในแต่ละปีมีผู้ติดเชื้อประมาณ 3 คนในสหรัฐฯ ซึ่งการติดเชื้อมักเป็นอันตรายถึงชีวิตตั้ง โดยตัวเลขแต่ปี 2505-2564 มีเพียง 4 คนจาก 154 คนในสหรัฐฯ ที่รอดชีวิตจากการติดเชื้ออะมีบากินสมอง

           สำหรับอาการ อะมีบากินสมอง เช่น ปวดศีรษะรุนแรง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการคอเคล็ด ชัก ประสาทหลอน และอาจถึงขั้นโคม่า



ขอบคุณข้อมูลจาก CNN