หนุ่มสร้างตัว เป็นเศรษฐีในวัย 26 เผยเหตุผลไม่บอกพ่อแม่เรื่องรวย อาจโดนตัดขาด

          หนุ่มสร้างตัว เป็นเศรษฐีตั้งแต่วัยรุ่น เผยเหตุผลไม่บอกความจริงพ่อแม่ เรื่องที่รวย ชี้แทนที่จะภูมิใจ อาจงานงอกได้


          การได้ใช้ชีวิตอู้ฟู่แบบเศรษฐี มีรถหรู ๆ ขับ นับเป็นความฝันของคนจำนวนมาก แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จะสามารถทำความฝันนั้นให้เป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำได้สำเร็จตั้งแต่อายุเพียง 20 กว่าปี ขณะที่เศรษฐีหนุ่มชาวอิตาลี จูเซปเป ฟิออเรนติโน่ วัย 26 ปี กลับทำมันได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นเขายังไม่กล้าบอกความจริงกับพ่อแม่เรื่องสถานะการเงินอันมั่งคั่งที่มี เพราะเชื่อว่าหากพ่อแม่รู้ว่าเขาทำเงินได้มากขนาดไหน จะต้องถูกตัดขาดอย่างแน่นอน !

          รายงานจากเว็บไซต์อินเดียไทม์ส วันที่ 3 มีนาคม 2566 เผยว่า หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกทำเงินได้มากมายจากธุรกิจ จะถูกพ่อแม่ตัดขาด อย่างไรก็ตาม จูเซปเปได้อธิบายถึงสถานการณ์ของเขาว่า ครอบครัวของเขาย้ายบ้านจากอิตาลี มาตั้งถิ่นฐานที่สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก เพื่อหนีอันตรายจากกลุ่มอาชญากรในประเทศบ้านเกิด


          โดยอิตาลีนั้นถือเป็นถิ่นกำเนิดมาเฟีย และเต็มไปด้วยกลุ่มแก๊งอาชญากร และจากประวัติที่ครอบครัวของชายหนุ่มผ่านพ้นอะไรมากมาย จึงทำให้จูเซปเปลังเล ที่จะบอกครอบครัวให้รู้ว่าตัวเองร่ำรวยขนาดไหน

          จูเซปเป ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากบริษัทอีคอมเมิร์ซ มีรายได้เดือนละ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.4 ล้านบาท) ชี้ว่า หากพ่อแม่รู้ว่าเขาทำงานหาเงินได้มากขนาดไหน พวกท่านจะต้องคิดว่าเขาเป็น "หัวหน้าแก๊งมาเฟีย" อย่างแน่นอน


          "สำหรับพ่อแม่ผม ความร่ำรวยของผมเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก ผมไม่อาจบอกความจริงกับพวกเขา เพราะพวกเขาจะไม่มีวันเข้าใจ พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการขายต่อสินค้าเพื่อทำกำไร" จูเซปเป กล่าว

          เศรษฐีหนุ่มยังชี้ว่า จากเดิมทีที่พ่อแม่รู้ว่าเขาเป็นคนดี แต่พวกท่านคงเชื่อในทันทีว่าเขาไปก่ออาชญากรรมอะไรมา ถ้ารู้ว่าเขารวย


          และเพื่อจะปิดบังความจริง แม้จูเซปเปจะมีไลฟ์สไตล์แบบหรูหรา มีรถหรูใช้ และมีนาฬิกาฝังเพชรเรือนละ 27,000 ปอนด์ (ราว 1.1 ล้านบาท) แต่เขากลับไม่เคยนำสิ่งของต่าง ๆ มาอวดความร่ำรวยให้ครอบครัวรับรู้ แม้แต่นาฬิกาฝังเพชรเรือนนั้นก็ไม่เคยนำมาสวมต่อหน้าพ่อแม่ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่ทำให้พ่อแม่คิดว่าเขากำลังจะกลายเป็นคนไม่ดีนั่นเอง


ขอบคุณข้อมูลจาก India Times