อัยการคดีพิเศษ ยื่นฟ้อง แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดัง และสามี ไฮโซอั้ม ภูมิพัฒน์ คดีเปิดพนันออนไลน์-เว็บโป๊-ฟอกเงิน หลายร้อยล้านบาท
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 12 มีนาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผย ความคืบหน้าที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามที่มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม อายุ 42 ปี พร้อมภรรยา น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม อายุ 40 ปี อดีตนางเอก ความผิดฐานพนันออนไลน์และสำนวนฟอกเงิน
ด้วยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 กองบังคับการปราบปราม ได้ส่งสำนวนคดีอาญาที่ 35/2565 มายังสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท. ปรัชญา บุญยืน กล่าวหา นายสุด ภูวสิษฐ์ กับพวกรวม 16 คน ในข้อหา..
1. ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้าทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งใดอันลามก
2. ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
3. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
4. ร่วมกันฟอกเงิน
5. ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
6. ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
โดยนายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาและมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว จากการพิจารณาสำนวนมีพยานหลักฐานว่า ผู้ต้องหาทั้ง 16 คน ได้ร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำ และมีการโอนเงินระหว่างบัญชีม้า บัญชีพัก บัญชีจ่าย และมีการถอนเงินออกจำนวนมากรวมกันหลายร้อยล้านบาท อันมีลักษณะสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
- ยื่นฟ้อง แยม สามี และพรรคพวก
วันที่ 9 มีนาคม 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 ได้ยื่นฟ้องคดีนี้โดยมีนายภูมิพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 2 และ น.ส.ธมลพรรณ์ เป็นจำเลยที่ 7 กับพวก รวม 12 คน ในความผิดฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพ โฆษณา รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันจัดให้มีการ เล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันใน การเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการ สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน มีความเห็นควรสั่งไว้เช่นกัน แต่อยู่ระหว่างหลบหนี
- แยกข้อหากู้ยืมเงิน
ส่วนข้อหาร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้กล่าวหานายเชษฎ์ชัย ผู้ต้องหาที่ 2 นายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม ผู้ต้องหาที่ 3 และน.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม ผู้ต้องหาที่ 7 ได้มีคำสั่งให้แยกสำนวนการสอบสวนเป็นอีกคดีต่างหาก เนื่องจากพยานหลักฐานมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนยังสอบสวนประเด็นนี้ในสาระสำคัญไม่ครบถ้วน เมื่อการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน จึงให้แยกสำนวนคดีต่อไป
สำหรับคดีนี้จำเลยส่วนใหญ่ เช่น แยม ธมลพรรณ์ และสามี ก่อนหน้านี้ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน ทำให้จำเลยส่วนมากยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยขั้นตอนหลังจากนี้ศาลจะกำหนดวันนัดสอบคำให้การต่อไป
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 12 มีนาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผย ความคืบหน้าที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามที่มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม อายุ 42 ปี พร้อมภรรยา น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม อายุ 40 ปี อดีตนางเอก ความผิดฐานพนันออนไลน์และสำนวนฟอกเงิน
ด้วยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 กองบังคับการปราบปราม ได้ส่งสำนวนคดีอาญาที่ 35/2565 มายังสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท. ปรัชญา บุญยืน กล่าวหา นายสุด ภูวสิษฐ์ กับพวกรวม 16 คน ในข้อหา..
1. ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้าทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งใดอันลามก
2. ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
3. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
4. ร่วมกันฟอกเงิน
5. ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
6. ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
โดยนายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาและมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว จากการพิจารณาสำนวนมีพยานหลักฐานว่า ผู้ต้องหาทั้ง 16 คน ได้ร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำ และมีการโอนเงินระหว่างบัญชีม้า บัญชีพัก บัญชีจ่าย และมีการถอนเงินออกจำนวนมากรวมกันหลายร้อยล้านบาท อันมีลักษณะสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
- ยื่นฟ้อง แยม สามี และพรรคพวก
วันที่ 9 มีนาคม 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 ได้ยื่นฟ้องคดีนี้โดยมีนายภูมิพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 2 และ น.ส.ธมลพรรณ์ เป็นจำเลยที่ 7 กับพวก รวม 12 คน ในความผิดฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพ โฆษณา รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันจัดให้มีการ เล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันใน การเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการ สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน มีความเห็นควรสั่งไว้เช่นกัน แต่อยู่ระหว่างหลบหนี
- แยกข้อหากู้ยืมเงิน
ส่วนข้อหาร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้กล่าวหานายเชษฎ์ชัย ผู้ต้องหาที่ 2 นายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม ผู้ต้องหาที่ 3 และน.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม ผู้ต้องหาที่ 7 ได้มีคำสั่งให้แยกสำนวนการสอบสวนเป็นอีกคดีต่างหาก เนื่องจากพยานหลักฐานมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนยังสอบสวนประเด็นนี้ในสาระสำคัญไม่ครบถ้วน เมื่อการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน จึงให้แยกสำนวนคดีต่อไป
สำหรับคดีนี้จำเลยส่วนใหญ่ เช่น แยม ธมลพรรณ์ และสามี ก่อนหน้านี้ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน ทำให้จำเลยส่วนมากยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยขั้นตอนหลังจากนี้ศาลจะกำหนดวันนัดสอบคำให้การต่อไป
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ภาพจาก Instagram yammy_is_me
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3