ผัวช็อก จู่ ๆ รู้ว่าเมียตาย ไปงานศพเจอพิรุธ ไม่มีใครยอมบอกเมียตายเพราะอะไร ยิ่งสืบยิ่งใจสลาย ความจริงโหดร้ายกว่า แสนเศร้าไม่ทันได้บอกลา สูญเสียทั้งเมีย-ลูก
วันที่ 18 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ Phu Nu & Phap Luat มีรายงานเรื่องราวของคู่สามีภรรยา จากมณฑลส่านซี ประเทศจีน พวกเขาก็ใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนคู่รักอื่น ๆ แต่หลังจากทะเลาะกัน ภรรยาก็พาลูกสาว 2 คน เก็บข้าวของไปอยู่บ้านแม่ เขาได้แต่นึกเสียใจเพราะไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นหน้าภรรยา
ปรากฏว่าในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ชายคนนี้ทะเลาะกับภรรยาครั้งใหญ่ เพราะหลาย ๆ เรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน ขณะที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เขาตบหน้าภรรยา มันทำให้เธอปวดใจและโกรธจัด เลยเก็บข่าวของออกจากบ้านไป แต่สามีไม่คิดเลยว่าแค่ 2 สัปดาห์หลังแยกกันอยู่ เขากับเธอจะต้องจากลาตลอดกาล
เมื่อได้ข่าวการเสียชีวิตของภรรยา ชายคนนี้ก็รีบไปงานศพของภรรยาทันที แต่ตอนที่ไปถึงเขาก็พบว่ามีเรื่องแปลก ๆ หลายอย่างที่ทำให้คาใจ สุดท้ายเลยต้องขอให้นักข่าวมาช่วยหาความจริง
"ภรรยากับผมแต่งงานและเปิดร้านซ่อมรถด้วยกัน แม้งานจะหนัก แต่รายได้ค่อนข้างดี ไม่มีปัญหาในการดูแลครอบครัว วันหนึ่งเราทะเลาะกันด้วยเรื่องต่าง ๆ ในครอบครัว เธอบอกว่ามันยากที่จะรับฟัง ผมคุมอารมณ์ไม่อยู่เลยตบหน้าเธอ เธอโกรธและเก็บของกลับไปบ้านแม่ ในตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะคิดว่าเธอคงกลับไปแค่ไม่กี่วัน เมื่อใจเย็นลงแล้วก็คงกลับมาเอง" สามี กล่าว
ไม่คาดคิดว่า 2 เดือนต่อมา อยู่ ๆ ลุงของภรรยาจะมาหาเขา แจ้งว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตแล้ว ขอให้เขามาดูหน้าเธอเป็นครั้งสุดท้าย ข่าวร้ายนี้ทำให้เขาช็อกหนัก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะภรรยาของเขาแข็งแรงมาก ไม่น่าจะด่วนจากไปแบบนั้น เขารีบไปงานศพทันที แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าพ่อตาแม่ยายกำลังเผาร่างภรรยา โดยที่เขาไม่ทันได้เห็นหน้าเธอเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ
สามีเล่าว่า เมื่อเขาไปถึงสถานที่พิธี ญาติของภรรยาต่างก็ร้องไห้อย่างขมขื่น แต่เมื่อพวกนั้นเห็นเขา ต่างก็หลีกเลี่ยงไปและไม่มีใครยอมบอกว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตเพราะอะไร เขารู้สึกว่ามันแปลก และมั่นใจว่าครอบครัวภรรยาพยายามปิดบังอะไรสักอย่าง เลยตัดสินใจติดต่อหาตำรวจ
วันต่อมา ตำรวจมาบอกเขาว่าภรรยาไม่ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายหรืออุบัติเหตุ แต่เป็นการเสียชีวิตระหว่างทำแท้ง ข่าวนี้ยิ่งทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง ได้แต่กล่าวโทษตัวเองที่ไม่รู้ว่าภรรยาท้อง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ตบเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปล่อยให้เธอกลับไปบ้านแม่แบบนั้น
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมภรรยาถึงไปทำแท้ง จึงไปหาความจริงต่อที่โรงพยาบาล แต่เมื่อเขาไปถึงก็พบว่าทั้งแพทย์และพยาบาลต่างก็มีท่าทีงุนงง และสงสัยว่าทำไมถึงมีสามีของผู้ตายโผล่มาอีกคน
เจ้าหน้าที่พยาบาลยังเล่าว่า ภรรยาของเขามาทำแท้งจริงแต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น แต่เรื่องนี้ทางครอบครัวได้มาเคลียร์กันแล้ว โดยทางโรงพยาบาลยอมจ่ายเงิดชดเชยให้ครอบครัว 550,000 หยวน (ราว 2.7 ล้านบาท)
แต่ทางสามีกลับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด และยิ่งงงหนักว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเอาเงินไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเล่าว่า มีชายอายุ 30 กว่าปี มาที่นี่กับภรรยาของเขา อ้างตัวว่าเป็นสามี ชายคนนี้พูดคุยกับพ่อแม่ภรรยาดี และดูและภรรยาดีมาก รวมถึงเป็นคนลงนามในใบยินยอมให้ทำการผ่าตัดด้วย
ทางสามีมั่นใจว่าจะต้องมีคนมาสวมรอยเป็นเขา และพ่อตาแม่ยายก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาจึงพานักข่าวบุกไปบ้านของภรรยาเพื่อถามหาความจริง แต่ทันทีที่ได้เห็นหน้าลูกเขย พ่อตาแม่ยายก็ขับไล่และด่าทอเขาทันที จนนักข่าวต้องไปช่วยห้ามทัพ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงยอมนั่งคุยกันดี ๆ
ในที่สุด แม่ยายก็ยอมเล่าความจริงทั้งหมด ชี้ว่า ลูกสาวกับลูกเขยทะเลาะกันอยู่ประจำ ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่คิดอะไรมากเพราะคู่รักก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น จนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ทะเลาะกันอีก ลูกสาวเลยเก็บข้าวของกลับบ้าน ก่อนจะรู้ตัวว่าท้อง
แต่เนื่องจากลูกสาวตั้งใจที่จะหย่าและไม่อยากเก็บเด็กไว้ พ่อแม่เลยเคารพการตัดสินใจ ปล่อยให้ลูกสาวจัดการเด็กแบบเงียบ ๆ โดยไม่บอกครอบครัวของลูกเขย พร้อมขอให้เพื่อนของลูกสาวมาแกล้งทำเป็นสามี อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คิดเช่นกันว่าลูกสาวจะเสียชีวิต
เมื่อทางโรงพยาบาลรายงานให้ทราบว่า เป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาลเอง ทั้งคู่ก็ต้องการแจ้งข่าวให้ลูกเขยทราบ แต่ไม่ว่าจะโทร. หากี่ครั้ง ลูกเขยก็ไม่รับสาย พวกเขาโกรธมากก็เลยตัดสินใจไม่ให้เงินชดเชยแก่ลูกเขย
หลังความจริงทุกอย่างปรากฏ สามีของหญิงที่เสียชีวิตก็ได้แต่เจ็บปวดและเสียใจ ขณะที่พ่อตากับแม่ยายก็รู้ตัวว่าพวกเขาทำผิดเช่นกัน จึงยอมให้อภัยลูกเขย ก่อนที่เขาจะพาลูกสาวทั้ง 2 คนกลับบ้านไปเลี้ยงดูเอง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Phu Nu & Phap Luat
