สาวซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมดังจากช็อปในเมืองไทย หิ้วไปถึงฮ่องกง แต่กลับโดนเรียกตัว พบเป็นความสะเพร่าพนักงาน SA ที่ไทย ร้องเรียนไป ได้ดอกไม้ขอโทษ 1 ช่อ
ในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละครั้ง นอกเหนือจากตัวแบรนด์เนมที่ได้รับ หลายคนก็ยังจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความไฮโซลักซูรี่ ที่ครั้งหนึ่งจะได้สัมผัสสักครั้ง แต่ล่าสุด มีสาวคนหนึ่งที่เผยประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง กับการไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบละ 2 แสนบาท แต่กลับทำให้เธอเกือบต้องเข้าคุกที่ฮ่องกง เพราะตำรวจฮ่องกงคิดว่าเธอคือขโมย
วันที่ 24 มีนาคม 2566 เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 มีการลงเรื่องราวของหญิงรายหนึ่งที่ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากช็อปชื่อดังในสนามบินของไทย ราคา 207,500 บาท แต่ตอนที่ซื้อพนักงาน SA กลับลืมเอาสัญญาณกันขโมยออก ส่งผลให้ตอนที่เธอไปถึงฮ่องกง ประเทศปลายทาง แล้วเอากระเป๋านี้เข้าไปในห้างแห่งหนึ่ง ตัวสัญญาณกันขโมยจึงดังขึ้น เธอจึงถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวเพราะถูกมองเป็นคนขโมยของในห้าง
เธอพยายามขอเดินไปช็อปของกระเป๋ายี่ห้อนี้ แต่พนักงานก็ยังไม่เอาออกให้ ต้องประชุมกันก่อน แม้มีใบเสร็จจากไทยไปแสดงก็ตาม เมื่อประชุมเสร็จ พนักงานที่ฮ่องกงถึงเอาสัญญาณกันขโมยออกให้
ตอนขากลับถึงไทย เธอจึงทำเรื่องร้องเรียนไปยังแบรนด์ดังกล่าว แต่ผลที่ได้รับ คือแบรนด์ส่งดอกไม้มาขอโทษ 1 ช่อ ทำให้เธอรู้สึกว่า ถ้าวันนั้นเธอไม่พกใบเสร็จไปด้วย แล้วเกิดติดคุกที่ฮ่องกง เพราะความผิดพลาดของทางแบรนด์ ทางแบรนด์ควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่าดอกไม้มาขอโทษ เธอพยายามติดต่อไปหลายครั้ง ทางแบรนด์อ้างว่า ตอนเดินออกจากช็อปที่ไทย สัญญาณกันขโมยก็ไม่ร้อง
ด้านชาวเน็ตต่างแนะนำว่า ให้เจ้าของเรื่องฟ้องร้องแบรนด์ อย่าไปยอมเด็ดขาด เพราะเกือบทำให้เราซวยเข้าคุกที่ฮ่องกง อีกข้อหนึ่งคือ ถ้าซื้อกระเป๋าระดับ 2 แสนบาทได้ คงไม่มีปัญหาเรื่องจ้างทนายแน่นอน เรื่องนี้ต้องไม่จบที่ดอกไม้ 1 ช่อ และเรื่องนี้ต้องรอแบรนด์ดังกล่าวออกมาชี้แจงอีกครั้ง
