MEA เผยค่าคาดการณ์ความต้องการใช้พลังไฟฟ้าสูงสุดปี 2566 จำนวน 9,282 เมกะวัตต์ พร้อมรับมือการใช้ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีและระบบศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA รวมถึงแนะนำการประหยัดและใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูร้อน
MEA พร้อมแล้วสำหรับการรับมือการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
รับมืออย่างไร…กับการใช้ไฟฟ้าในหน้าร้อนนี้ ? นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ณ การไฟฟ้านครหลวง สาขาเพลินจิต ว่าในช่วงฤดูร้อนจะมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าและสถิติแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น MEA จึงจัดเตรียมแผนงานปรับปรุงสำหรับรองรับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อให้ระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ MEA มีประสิทธิภาพ รวมถึงการรองรับเหตุฉุกเฉินและขัดข้องต่าง ๆ ตลอดจนการวางแผนงานดูแลระบบไฟฟ้า 24 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาใช้สนับสนุนระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ระบบศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA
MEA เตรียมพร้อมเทคโนโลยีสำคัญ "ระบบศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA" (Supervisory Control and Data Acquisition) คอยทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ในการตรวจสอบสถานะ ตลอดจนวิเคราะห์การทำงานของระบบควบคุมตรวจจับข้อมูล แล้วส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างรวดเร็วแบบ Real time ซึ่งถือเป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ ไม่เพียงเท่านั้น MEA ยังมีแผนใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น
-
การเตรียมความพร้อมด้านระบบไฟฟ้าด้วยระบบ AI
-
การบริหารงานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า ครอบคลุมพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง 18 เขต
-
จัดตั้งทีมปฏิบัติการทางน้ำ Marine MEA รองรับการใช้บริการผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ติดริมน้ำและชายฝั่งทะเล
-
ใช้เทคโนโลยี Thermovision สแกนตรวจจับความร้อนของอุปกรณ์ไฟฟ้า
-
ใช้ Drone ตรวจสอบระบบสายส่งไฟฟ้าพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ โดยเชื่อมโยงกับระบบปฏิบัติการ Field Force Management (FFM) เชื่อมโยงกับแผนที่ GIS
นอกจากนี้ยังให้ประชาชนแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องผ่านแอปพลิเคชัน MEA Smart Life ตลอด 24 ชั่วโมง
MEA แนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน
อย่างที่รู้กันว่าทุกปีในช่วงฤดูร้อน สภาพอากาศมีผลต่อการใช้ไฟฟ้า และเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักขึ้นก็จะตามมาด้วยจำนวนค่าไฟที่ต้องเสียเพิ่มขึ้น MEA เลยมีคำแนะนำดี ๆ สำหรับการประหยัดไฟ โดยยึดหลัก…
"ปิด" ดวงไฟที่ไม่ใช้
"ปรับ" ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ 26-27 องศาเซสเซียส
"ปลด" ปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน
"เปลี่ยน" พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของตัวเอง เช่น เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง, หมั่นล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง, ไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ, พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม, ไม่กักตุนอาหารในตู้เย็นเกินความจำเป็น, ตรวจขอบยางตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน, เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED, เลือกใช้อุปกรณ์เบอร์ 5, ปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน และตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดให้ซ่อมแซมทันที เป็นต้น
ตลอดจนย้ำถึงหากเกิดพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ขอให้ทุกคนระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากพายุ ป้ายโฆษณากลางแจ้งต้องตรวจสอบโครงสร้างให้มีสภาพแข็งแรง มั่นคงปลอดภัย ตรวจสอบระยะห่างของป้ายโฆษณากับสายไฟฟ้า เพราะอาจส่งผลกระทบทำให้ไฟฟ้าดับ ควรอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้า เพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรงและพาดลงมาทำให้เสาไฟฟ้าล้มหรือสายไฟฟ้าขาด รวมถึงสำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้า เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมถึงอาจทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้
สำหรับผู้พบเห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดหรือไม่ปลอดภัยสามารถแจ้งได้ที่ เฟซบุ๊กการไฟฟ้านครหลวง MEA, ไลน์ MEA Connect, ทวิตเตอร์ @mea_news และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง 1130 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน MEA Smart Life ตลอด 24 ชั่วโมง
